ถูซินเยว่ได้ยินดังนั้นก็ยกมือกุมขมับ ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็รู้สึกตัวสักที โชคดีที่ยังไม่ถือว่าโง่มาก
ปีนี้ตนเองอายุสิบห้าปีแล้ว ร่างกายส่วนที่ควรเติบโตก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ถ้าตามปกติประจำเดือนครั้งแรกควรจะมาตั้งนานแล้ว แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววเลย
ก่อนหน้านี้ฉงเป่าเคยบอกไว้ว่า ในร่างกายของตนนั้นมีพิษ ที่อ้วนและซื่อบื้อก็เป็นเพราะเหตุนี้
เพียงแต่ก่อนหน้านี้เอาแต่ทำงานหาเงินเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นถูซินเยว่จึงเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจ ตั้งใจว่าจะหาเวลาไปหาหมอตรวจอาการ แต่ดูจากสถานกาณ์ตอนนี้ คงรอต่อไปไม่ได้แล้ว
"เดิมทีข้าตั้งใจว่ารอเจ้ากลับสำนักบัณฑิตแล้ว ข้าก็จะไปหาหมอ" ถูซินเยว่พยักหน้า
เมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนี้ ซูจื่อหังก็เข้าใจทันที
ในเมื่อต้องไปหาหมอ ก็หมายความว่าถ้าไม่ป่วยเป็นโรค ก็คงสุขภาพไม่ดี
"ทำไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้ พรุ่งนี้ข้าไปหาหมอเป็นเพื่อนเจ้า" เมื่อรู้ว่าถูซินเยว่ไม่สบาย ซูจื่อหังก็ร้อนใจมากกว่าใครๆ ซึ่งแม้แต่ตนเองก็ไม่ทันสังเกตุว่าตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น เส้นเลือดข้างขมับเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมา ยิ่งกว่านั้นในสายตายังเต็มไปด้วยความห่วงใย และเสียงพูดก็ดังสูงขึ้นหลายเท่า
ถูซินเยว่รีบยกมือปิดปากซูจื่อหังไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า "เบาๆ หน่อย ท่านแม่ยังนอนอยู่ข้างนอกนะ"
บ้านเรือนในยุคโบราณมีเพียงแค่แผ่นไม้กั้นระหว่างห้องเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถเก็บเสียงได้เลย
ลำพังแค่ข้างในนอนกรน เสียงก็ได้ยินมาถึงข้างนอกแล้ว
เดิมทีวันนี้นางหยูก็ไม่สบายใจมาทั้งวัน อุตส่าห์นอนหลับไปแล้ว ถูซินเยว่จึงไม่อยากรบกวนจนอีกฝ่ายตื่นอีก
ซูจื่อหังเข้าใจความหมายของเธอ รีบพยักหน้า และพูดเสียงเบาว่า "พรุ่งนี้ข้าพาเจ้าไป ห้ามปฏิเสธ"
"แต่..." ถูซินเยว่แอบเซ็ง โรคแบบนี้เดิมทีเธอตั้งใจจะให้อาซ้อหยวนเป่าไปเป็นเพื่อน แต่ถ้าเป็นซูจื่อหังไปกับตนเองแทน มันจะน่าตะขิดตะขวงใจขนาดไหนกันเนี่ย
แต่ว่าก่อนหน้านี้เธอปิดบังชายหนุ่มไว้ ทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจมาก ถ้าหากตอนนี้เธอยังปฏิเสธเขาอีก บางทีซูจื่อหังอาจจะโกรธขึ้นมาจริงๆ ก็ได้
"ก็ได้" หลังจากไตร่ตรอง ถูซินเยว่ก็พยักหน้า
หลังจากที่ทั้งสองคนตกลงกันแล้ว ก็ล้มตัวนอนด้วยกัน
รุ่งเช้าวันต่อมา ถูซินเยว่ลองเข้าไปในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ และลองเรียกฉงเป่าอยู่สองสามครั้ง แต่ฉงเป่าก็ยังคงซ่อนตัวอยู่ในดักแด้สีขาวด้านบนใบบัว ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เธอจึงได้แต่ขุดพรวนดินด้วยตัวเอง และถอนเอาหัวไชเท้าที่ปลูกเมื่อหลายวันก่อนออกมา จากนั้นก็นำไปเก็บไว้ในยุ้งฉางของมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
เดิมทีเธอยังอยากถามฉงเป่าให้ละเอียดว่าพิษในร่างกายตนเองนั้นเป็นพิษอะไรกันแน่ แต่ดูทรงแล้วคงเป็นไปไม่ได้
แม้ว่าถูซินเยว่จะเป็นแพทย์ทหาร แต่แพทย์ก็ไม่อาจรักษาตัวเอง...
หลังจากที่ออกมาจากมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ถูซินเยว่ก็ลืมตาและหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา จากนั้นก็แปลงน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาใส่ไว้ในแก้ว
หมู่นี้เธอทำงานอย่างหนักในมิติ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่มิติตอบแทนเธอก็มากขึ้นเรื่อยๆ
น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ดังนั้นถูซินเยว่จึงแอบนำไปใส่ไว้ในน้ำดื่มของพวกเธอเล็กน้อยทุกครั้ง เพื่อให้นางหยูและซูจื่อหังได้ดื่มด้วย เพราะมันดีต่อร่างกาย
นางหยูทำอาหารเช้าเสร็จนานแล้ว มีหมั่นโถวสามลูก ผัดข้าวโพดหนึ่งจาน และข้าวต้มมันหนึ่งชามใหญ่
"อร่อย" หลังจากที่กินข้าวต้มร้อนๆ เข้าไป ถูซินเยว่ก็รู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ
นางหยูยิ้มและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นก็กินเยอะๆ หน่อย"
"ท่านพี่ล่ะเจ้าคะ?" ถูซินเยว่มองไปรอบๆ อย่างสงสัย ตั้งแต่ที่ตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเงาของซูจื่อหังเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปไหน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...