ใบหน้าอ้วนฉุของหญิงสาวฉายแววประจบประแจง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลายวันมานี้ได้ออกแรงในมิติหรือเปล่า ฝีหนองบนหน้าของถูซินเยว่จางหายไปไม่น้อย ตอนนี้ดูสบายตาขึ้นมาเป็นพิเศษ
ซูจื่อหังกำมือขึ้นมาทำท่าไอ เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะที่กำลังจะออกมาจากลำคอ แล้วแสร้งทำท่าจริงจัง "ครั้งหน้าห้ามทำแบบนี้อีกนะ"
"อืม" ถูซินเยว่พยักหน้าและพูดอย่างจริงใจ "ครั้งหน้าไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอน ต่อไปหากข้าเจอหลิวชุนฮวาก็จะเลี่ยงเดินไปทางอื่น ดีไหม?"
"อืม"
อีกฝ่ายจริงจังขึ้นมา ซูจื่อหังก็รู้สึกไม่คุ้นชินไปเล็กน้อย
ถูซินเยว่กลับส่ายลูกกวาดในมือไปมา ถามอย่างจริงจังว่า "แล้วลูกกวาดนี่ไม่เอาจริง ๆ หรอ?" "ไม่" ซูจื่อหังส่ายหน้า เขาไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ไม่พิศวาสลูกกวาดพวกนี้หรอก
เมื่อการติดสินบนล้มเหลว ถูซินเยว่จึงทำได้เพียงนำลูกกวาดใส่กลับเข้าไปในแขนเสื้อ ซูจื่อหังดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง จึงพูดขึ้นอย่างเคอะเขินว่า "เมื่อครู่ระหว่างทาง ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเจ้า แค่คิดว่าเจ้าทำไม่ถูก ดังนั้นข้าจึง...."
พูดไปได้แค่ครึ่งทาง นึกไม่ถึงว่าถูซินเยว่ที่เมื่อครู่ยังเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายได้ยินประโยคนี้เข้าไปเท่านั้นก็ทำท่าขนพองขึ้นมาทันที "ข้าทำไม่ถูกตรงไหน?"
ซู่จื่อหังสำลัก ยกมือขึ้นมากดหน้าผากตัวเองอย่างจนปัญญา
“ไม่ เจ้าทำถูกทุกอย่าง"
ครู่ต่อมา ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นมาอย่างจนคำพูด
“สิ่งที่ข้าทำมันก็ไม่ได้ผิดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อก่อนหลิวชุนฮวาชอบรังแกข้า ข้าก็แค่เอาคืน" ดวงตาของถูซินเยว่เย็นชาเล็กน้อย แล้วยังพวกคนในตระกูลถูนี่อีก วันนี้ก็ไม่ควรจะยั่วโมโหเธอ หากเธอหมดความอดทนขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอจะจัดการให้สาสมเลยคอยดู
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ เสียงสาปแช่งของแม่เฒ่าตระกูลถูก็ลอยมาจากด้านนอก "ทำไมไม่ไปหุงข้าว วิ่งไปวิ่งมาทำไม?" "ข้ะ ข้าจะไปหาพ่อของเสี่ยวเป้ย" นางหลินตอบกลับเสียงอ่อย
“พ่อของเสี่ยวเป้ยทำงานอยู่ในแปลงผักนู่น เจ้าจะไปทำไม? ไม่รู้จักทำงานอยู่เปลืองข้าวไปวัน ๆ ก็พอแรงอยู่แล้ว ยังจะพาเหล่าซื่อไปแอบขี้เกียจอีกคนหรือไง? วันนี้มีแขกมาบ้าน แหกตาดูซิว่านี่มันเวลาไหนแล้ว ยังไม่ไปทำกับข้าวอีก เจ้าจะให้คนในบ้านกินลมแทนข้าวหรือยังไง?"
แม่เฒ่าตระกูลถูน้ำเสียงบาดหู
ถูซินเยว่ขมวดคิ้ว เธอทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงลุกขึ้นไปดูที่หน้าประตู
ก็เห็นนางหลินยืนอยู่ในลานบ้านตัวเล็กตัวน้อย กำลังถูกแม่เฒ่าถูด่าทอ ไม่กล้าต่อปากต่อคำแม้แต่น้อย
“ท่านแม่ ข้าจะไปหุงข้าวเดี๋ยวนี้แหละ ท่านอย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวจะกระทบต่อสุขภาพเอาได้" ความสุขเมื่อครู่สูญสลายไปจนหมดสิ้น นางหลินเดินเข้าไปในครัวอย่างอ่อนแรง และเริ่มตั้งหน้าตั้งตาหุงหาอาหารมื้อเที่ยง
แม่เฒ่าตระกูลถูมองดูแผ่นหลังของอีกฝ่าย พึมพำ "หึ" ออกมา กัดฟันพูดว่า "หน้าด้านไร้ยางอาย"
แม้ว่านางหลินจะเป็นลูกสะใภ้จากพื้นที่ชนบท แต่นางก็มีผิวพรรณขาวผ่อง หน้าตาสวยสะอาดสะอ้าน ราวกับคุณหนูในตระกูลร่ำรวย แต่แม่เฒ่าตระกูลถูกลับมองไม่เห็นความดีของนาง มักจะด่าทออีกฝ่ายเป็นประจำ
ถูซินเยว่มองจากระยะไกลก็เห็นว่านางหลินทำอาหารอยู่คนเดียวในครัว ส่วนป้าใหญ่ถูชิวหลานนั่งคุยอยู่กับถูหมิงซวนอยู่กลางลานบ้าน แม่เฒ่าก็กำลังนั่งอาบแดดอย่างเกียจคร้าน ชายสองคนที่อยู่ข้าง ๆ คนหนึ่งคือเหลียงปิน คนหนึ่งคือลุงคนโต ยิ่งไม่น่าจะเข้าไปช่วย
ดูเหมือนว่าสถานภาพของนางหลินในตระกูลถูนั้นช่างน่าเวทนาเหลือเกิน
ถูซินเยว่นึกขึ้นได้ว่าตนนำเนื้อหมูป่ามาด้วย จึงหันกลับมาหยิบตะกร้าขึ้นมาแล้วพูดกับซูจื่อหังว่า "ข้าจะไปช่วยท่านแม่ในครัว เจ้าจะไปเล่นกับเสี่ยวเป้ยก็ได้ หรือจะนั่งอยู่ในบ้านก็ได้ เสร็จแล้วอย่าลืมออกมากินข้าวด้วยล่ะ"
 ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...