นางหยูไม่เคยไปล่าสัตว์บนภูเขามาก่อน ดังนั้นนางจึงไม่รู้รายละเอียดใด ๆ แน่นอนว่านางไม่มีทางคิดได้ว่าจะมีเสือมาช่วยถูซินเยว่ล่าสัตว์
หลังจากนำของทั้งหมดออกจากตะกร้าแล้ว นางหยูก็มองไปที่ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเล็ก ๆ ซึ่งมองมาที่ตนอย่างกระสับกระส่าย จากนั้นก็หัวเราะออกมาว่า "ก็ได้ ๆ แม่ไม่ถามเจ้าแล้ว แต่เจ้าต้องระวังให้มาก ต่อไปหากจะขึ้นไปบนภูเขาอีก ก็ต้องรีบไปรีบกลับ ห้ามรอจนฟ้ามืดเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
“เข้าใจแล้ว!" ถูซินเยว่พยักหน้างก ๆ รอยยิ้มหวานปรากฎบนใบหน้า
นางหยูห่วงใยเธอ เธอเองก็รู้ดีว่าบนเขานั้นอันตราย แต่ตอนนี้ที่บ้านไม่มีที่ดินทำกิน เธอจึงไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้
เลียงผาที่หามาได้ในวันนี้ ก็น่าจะขายได้สักครึ่งตำลึง
เมื่อนึกขึ้นได้ จู่ ๆ ถูซินเยว่ก็หยิบกระต่ายอ้วนขึ้นมาแล้วพูดว่า "ท่านแม่ ครอบครัวของหยวนเป่านำผักมาให้เราเยอะแยะ เราก็ไม่ควรรับของของคนอื่นมาเปล่า ๆ ข้าว่าข้าเอากระต่ายตัวนี้ไปให้พวกเขาดีกว่า"
นางหยูไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียว เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า พูดขึ้นว่า "เอาสิ หากเจ้าไม่พูดขึ้นมาข้าก็กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเอาอะไรไปตอบแทนบ้านหยวนเป่าดี ตอนนี้บ้านเราก็คงจะมีแต่ของพวกนี้แหละที่จะเอาไปให้พวกเขาได้"
ในช่วงสองสามวันนี้ มือของนางอาการดีขึ้นมาก นางหยูตั้งใจว่าอีกสองวันก็จะปรับปรุงดินในสวนหลังบ้าน ปลูกมันฝรั่งและหัวไชเท้า ฤดูหนาวใกล้จะมาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นหากอากาศเย็นลง ผักป่าต่าง ๆ ในนาก็จะแห้งเหี่ยว ต้องปลูกผักไว้กินเองจะดีกว่า
ถูซินเยว่เก็บข้าวของของเธอ จากนั้นก็หยิบกระต่ายขึ้นมาพร้อมจะออกไปบ้านของหยวนเป่า
ก่อนออกจากบ้าน ถูซินเยว่ก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็หันหลังกลับมาหานางหยูถามขึ้นว่า "ท่านแม่ สองสามวันมานี้ท่านป้าได้มาหาเรื่องที่บ้านอีกหรือเปล่า?"
นางหยูชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงส่ายหัวขึ้นว่า "ซินเยว่เจ้าวางใจเถอะ ป้าเจ้าไม่ได้มาที่นี่หรอก"
นับตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งล่าสุดกับหลางฮุย นางหยูก็รู้ไส้รู้พุงซูเฟิ่งอี๋จนหมดนางต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ในช่วงสองสามวันมานี้ก็พยายามจะทำลายชื่อเสียงของถูซินเยว่ เที่ยวป่าวประกาศว่าถูซินเยว่มีพฤติกรรมโหดร้าย แม้ว่านางหยูจะไม่ได้ออกไปข้างนอก แต่นางก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
นางได้แต่รู้สึกเกลียดตัวเอง เพราะเมื่อก่อนนางคิดแต่จะให้ครอบครัวสงบสุข ดังนั้นไม่ว่าซูเฟิ่งอี๋จะรังแกนางถึงเพียงไหน นางก็ได้แต่กัดฟันอดทนอดกลั้นต่อไป วันนี้ถึงได้รู้ว่าตัวเองในอดีตนั้นน่าหัวเราะถึงเพียงไหน
“ไม่มาก็ดีแล้ว" ถูซินเยว่พยักหน้า รู้สึกวางใจลงได้
ซูเฟิ่งอี๋ชอบก่อปัญหา เป็นไม้แก่ดัดยาก ถึงแม้ว่าถูซินเยว่จะสั่งสอนนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า สงบอยู่ได้ไม่นาน ผ่านไปครู่เดียวก็ทำตัวราวกับแมลงสาบที่ตีไม่ตายขึ้นมาอีก กระโดดไปมา สร้างความรังเกียจให้แก่ผู้อื่น
แต่ช่วงนี้ ถูซินเยว่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างเนื้อสร้างตัว จึงไม่มีเวลาไปใส่ใจซูเฟิ่งอี๋
อีกฝ่ายอยู่ไกล ๆ ก็ดีแล้ว หากยังมายุ่งกับเธอ เธอก็คงปล่อยไปไม่ได้อีก
ถูซินเยว่กำชับให้นางหยูลงกลอนประตูให้ดี จากนั้นตนก็ออกไปบ้านหยวนเป่า
หมู่บ้านต้าเย่แบ่งออกเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก บ้านตระกูลถูอยู่ที่ฝั่งตะวันออก ส่วนถูซินเยว่และครอบครัวอยู่ปลายสุดทางฝั่งตะวันตก ส่วนบ้านของหยวนเป่าอยู่ตรงกลางหมู่บ้าน หยวนเป่าเป็นบุตรคนเดียวจึงมีสมาชิกในครอบครัวไม่มากนัก

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...