รอจนถูซินเยว่จากไปแล้ว ภรรยาของหยวนเป่าก็หยิบกระต่ายขึ้นมา
วิเศษไปเลย เมื่อครู่นางไม่ได้สังเกต ตอนนี้ถึงพบว่ากระต่ายตัวนี้อ้วนพีดีจริง ๆ
ตอนเย็นเมื่อหยวนเป่ากลับมาถึงบ้าน ก็ได้กลิ่นเนื้อหอมกรุ่นลอยมาจากในบ้าน
“กลิ่นอะไร หอมถึงเพียงนี้?” หยวนเป่าวางจอบไว้ข้าง ๆ แล้วเดินเข้ามาด้วยความสงสัย เมื่อเห็นบนโต๊ะมีเนื้อวางอยู่ชามหนึ่งก็ถามขึ้นอย่างงุนงงเล็กน้อยว่า "น่าแปลก จำได้ว่าช่วงนี้ข้าไม่ได้ซื้อเนื้อสัตว์มานี่นา อีกอย่างก็ไม่มีใครล้มหมูในหมู่บ้าน"
หากมีการล้มหมู โดยทั่วไปแล้วก็มักจะเรียนเชิญคนในหมู่บ้านไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งเขาก็ต้องรู้แน่ ๆ
ภรรยาของหยวนเป่ายิ้มแล้วพูดว่า "นี่คือเนื้อกระต่ายที่ถูซินเยว่เอามาให้น่ะ ตอนเช้าข้าเอาผักสดไปให้นาง เมื่อครู่นางก็เลยเอากระต่ายมาฝาก"
เมื่อหยวนเป่าได้ยินเข้าก็ขมวดคิ้วทันที กำลังจะเอ่ยถาม ภรรยาของหยวนเป่าก็พูดขึ้นว่า "เจ้าวางใจเถอะน่า นี่เป็นน้ำใจจากซินเยว่ หากข้าไม่รับไว้ นางคงไม่ยอม ไว้วันหลังข้าจะเอาฟักทองไปฝากนาง"
หยวนเป่าเมื่อได้ยินดังนั้น ถึงได้พยักหน้า
เขาเป็นคนซื่อสัตย์เช่นเดียวกับภรรยา ผักสดเหล่านั้นเมื่อเช้าราคาแค่ไม่เท่าไหร่ แต่กระต่ายตัวนี้หากนำไปขายที่ตลาด อย่างน้อยก็ต้องได้สักสองร้อยอีแปะ เขาไม่ต้องการให้ภรรยาจงเจาเอาเปรียบผู้อื่น
“ท่านพ่อท่านแม่ล่ะ?” หยวนเป่าถามขึ้นหลังจากที่นั่งลงและพับแขนเสื้อขึ้น
“ท่านพ่อท่านแม่ไปงานเลี้ยงที่หัวหมู่บ้านน่ะ เย็นนี้ก็มีแค่เราสองคน กระต่ายตัวนี้อ้วนมาก ข้างในยังมีอีกหนึ่งชาม ข้าเก็บไว้ให้ท่านพ่อท่านแม่กลับมาชิม"
พี่สะใภ้หยวนเป่าเป็นลูกสะใภ้ที่รู้จักประสามาโดยตลอด เรื่องแบบนี้ไม่ต้องรอให้หยวนเป่าต้องแนะนำหรือกำชับ
ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะอาหาร จะว่าไปแล้วภรรยาของหยวนเป่านั้นมีฝีมือในด้านทำกับข้าวเป็นอย่างมาก นางปรุงเนื้อกระต่ายจนกลิ่นหอมฉุย ดูน่ากินมาก เนื้อกระต่ายผัดกับพริกชี้ฟ้าปรุงรสด้วยซีอิ๊วสีเหลืองอ่อน หยวนเป่ากัดไปหนึ่งคำ อาหารทั้งหอมอร่อยทั้งรสชาติจัดจ้าน
เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าไปตักข้าวเพิ่มอีกชามหนึ่ง ในพื้นที่ชนบทสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนไม่ดีนัก นาน ๆ ทีจึงจะได้ลิ้มรสเนื้อสัตว์ ต่างจากครอบครัวของพวกขุนนางที่จะได้กินหมูกินปลาทุกมื้อ
ทั้งคู่นั่งอยู่ที่กลางลานบ้าน รับประทานอาหารไปพร้อมกับรับลมเย็นที่พัดมา ให้ความรู้สึกสบายอย่างมาก
ครอบครัวของต้าจู้ก็อาศัยอยู่ติดกับครอบครัวของหยวนเป่า พวกเขาก็กำลังกินข้าวเย็นอยู่เช่นกัน จู่ ๆ ภรรยาของต้าจู้ก็พลันได้กลิ่นหอมของเนื้อสัตว์โชยมา และได้ยินเสียงผ่านรั้วว่าเนื้อกระต่ายนั้นถูซินเยว่นำมาให้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“เนื้อกระต่ายนั่นหอมจัง...ข้าก็อยากกิน...." ลูกชายของต้าจู้พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น
ภรรยาของต้าจู้หัวเราะเยาะ "ถูซินเยว่เอาเนื้อกระต่ายนี้มาให้ ก็ใช่น่ะสิ นางตัวติดกับถูซินเยว่ขนาดนั้น ถึงได้มีเนื้อกระต่ายนี้...."
ถึงกระนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างพี่สะใภ้ของต้าจู้แท้จริงแล้วก็มีความอิจฉาอยู่ลึก ๆ และกลิ่นหอมของเนื้อกระต่ายก็ลอยมาเตะจมูกนางอยู่ไม่ขาดสาย
“มีอะไรวิเศษวิโสนักหนา ก็แค่กระต่ายตัวเดียว!" ภรรยาของต้าจู้พึมพำ
ต้าจู้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าพูดอะไรของเจ้าอยู่ ภรรยาของหยวนเป่าเขาเอาผักสดตะกร้าใหญ่ไปให้ซินเยว่เมื่อเช้านี้ พวกเขาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เจ้าก็อย่าไปอิจฉานางเลย"


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...