เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินหนีไป ซูจื่อหังก็ชะงัก รีบถามขึ้นว่า "ซินเยว่ เจ้าจะไปไหน?"
“ข้าจะออกไปข้างนอก!” ถูซินเยว่หันกลับมามองซูจื่อหังอย่างโกรธเคือง จากนั้นก็ขมวดคิ้วถามขึ้นว่า "ข้ากับเจ้าเป็นสามีภรรยากัน แต่ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้น แต่สิ่งแรกที่เจ้าคิดเจ้ากลับไม่ใช่การหาวิธีมาแก้ไขปัญหากับข้า แต่กลับมาปิดบังข้า ไม่อยากให้ข้ารู้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่อยู่ขัดหูขัดตาเจ้าอีกต่อไป ข้าจะออกไปข้างนอก ไม่อยู่รกหูรกตาเจ้า"
หญิงสาวเดินออกไปตามที่พูดทันที
ซูจื่อหังตกใจ คิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะกลับไปบ้านพ่อแม่ของเธอ และเขาไม่รู้ว่าทำไมเขารู้สึกร้อนรนอย่างมาก เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า
เมื่อเห็นว่าถูซินเยว่ออกมาถึงลานบ้านแล้ว เขาก็รีบคว้ามือเธอไว้ ขอร้องขึ้นว่า "เจ้าอย่าไปเลยนะ ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น"
“แล้วเจ้าหมายความว่าอะไร” ถูซินเยว่หันกลับมาและมองไปที่ชายตรงหน้า
เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโกรธมากขนาดนี้ สมองบอกกับเธอว่าต้องใจเย็น ๆ สงบสติอารมณ์ แต่เมื่อเธอเห็นรอยฟกช้ำบนตัวของซูจื่อหังแล้วนั้น ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
แต่ผู้ชายกระล่อนขี้โกหกคนนี้กลับไม่บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น พอถูกจับได้ก็ยังจะโกหกต่อไปอีก แล้วจะไม่ให้ถูซินเยว่โกรธได้อย่างไร
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ถูซินเยว่สะบัดมือซูจื่อหังออก พูดขึ้นว่า "ปล่อยข้า ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า"
"ไม่"
ทั้งสองคนได้แต่ยืนตัวแข็ง ไม่มีใครยอมใคร ในขณะที่ถูซินเยว่กำลังจะใช้ถ้อยคำรุนแรงพูดขึ้นมานั้น จู่ ๆ ซูจื่อหังก็อุ้มถูซินเยว่ขึ้นมา จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในบ้านทันที
ถ้าเป็นแต่ก่อน ซูจื่อหังคงอุ้มอีกฝ่ายไม่ไหว เพราะตอนนั้นถูซินเยว่มีน้ำหนักถึงหนึ่งร้อยกิโลกรัม! แต่ตอนนี้ถูซินเยว่หนักแค่หกสิบกิโลกรัม จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับซูจื่อหังอีกต่อไป
เขาก้าวเข้าไปในบ้านโดยไม่สนใจถูซินเยว่ที่ดิ้นรนขัดขืนอยู่ จากนั้นก็ปิดประตูเสียงดัง "ปัง"
พวกเขาทั้งสองไม่รู้เลยว่าในขณะนี้นางหยูซึ่งกลับมาจากบ้านหยวนเป่าแล้วกำลังยืนอยู่นอกรั้วเพื่อสังเกตการณ์ ก็เห็นว่าลูกชายอุ้มลูกสะใภ้เข้าไปในบ้าน รู้สึกเบิกบานใจขึ้นมาทันที
“ลูกชายแม่นี่เก่งจริง ๆ" นางหยูดีใจเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าด้วยลักษณะนิสัยของซูจื่อหัง คงไม่กล้าเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องนั้นกับถูซินเยว่ก่อน ถึงตอนนั้นนางก็คงต้องรอเก้อ แต่คาดไม่ถึงว่าลูกชายของนางกลับอุ้มถูซินเยว่เข้าไปในบ้านแบบนั้น
เมื่อนึกได้ถึงตรงนี้ นางหยูก็รู้สึกว่าคืนนี้ไม่ควรกลับไปรบกวนพวกเขาจะดีกว่า คงต้องไปขออาศัยบ้านของหยวนเป่าสักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับมา
นางหยูจากไปอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ข้างในนั้นกลับเป็นอีกอย่าง
“ปล่อยข้า!” ถูซินเยว่รู้สึกหงุดหงิด ผู้ชายคนนี้เป็นผีบ้าอะไรนะ พูดไม่รู้เรื่องหรืออย่างไรกัน ทำไมพูดอะไรกับเขาก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี
“ไม่ปล่อย ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป เจ้าก็ต้องหนีไปอีก" ซูจื่อหังส่ายหน้า หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว ก็ปล่อยถูซินเยว่ลงบนเตียง จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างจงใจว่า "ภรรยาข้านี่ตัวเบาจริง ๆ "
ถูซินเยว่ที่รู้สึกโกรธอยู่ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
คิดไม่ถึงว่า ชายที่อยู่บนเขาที่มีท่าทางจริงจังในสมัยก่อน กลับรู้จักมีอารมณ์ขันแบบนี้ เธอควรจะทอดถอนใจหรือหัวเราะกับคำพูดที่ไม่จริงใจของอีกฝ่ายดี
“ข้าเป็นถึงหญิงอ้วนที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน หากใครได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า คงจะหัวเราะจนฟันร่วง"
ถูซินเยว่มองไปที่ชายตรงหน้าเธออย่างจริงจัง คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังกลับพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉยว่า "งั้นก็ให้พวกเขาหัวเราะจนฟันร่วง ถึงยังไงภรรยาข้าก็ตัวเบาที่สุดสำหรับข้า"


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...