ซูจื่อหังหันมาและมองดูใบหน้าเล็ก ๆ ของถูซินเยว่ที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ถูซินเยว่สนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับหลักการของร่างกายมนุษย์ แบบนี้ควรจะเป็นของตัวผู้สิ...
ดูเหมือนว่าถูซินเยว่จะนึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ควรนึกถึง ใบหน้าก็แดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองซูจื่อหัง ก็เห็นแววตาประหม่าด้วยเช่นกัน เธอกระแอมขึ้นมาหนึ่งที จากนั้นก็พูดขึ้นว่า "ไม่มีอะไร ๆ ข้าก็แค่พูดไปเรื่อยน่ะ เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก"
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หญิงสาวก็หันไปดูถังน้ำของซูจื่อหัง จากนั้นก็ถามว่า "เจ้าเก็บหอยได้มากี่ตัวแล้ว?" "น่าจะครึ่งถังแล้ว" ซูจื่อพูดตอบหลังจากที่เหลือบมองไปรอบ ๆ "คงไม่มีอะไรให้เก็บต่อแล้ว เราเอารองเท้าและหอยไปล้างที่ริมแม่น้ำ แล้วก็กลับบ้านกันเถอะ "อืม ไปสิ"
ถูซินเยว่พยักหน้า
ทั้งสองมาถึงริมแม่น้ำ ซูจื่อหังทำหน้าที่ในการล้างหอยมุกในขณะที่ถูซินเยว่ถอดรองเท้ากันฝนออกจากเท้าแล้วนำไปแช่ในน้ำในแม่น้ำเพื่อชำระล้างคราบดินโคลนออก แต่หอยมุกเหล่านั้นต้องใช้เวลาในการล้างทีเดียว
ถูซินเยว่ช่วยล้างหอยมุกอยู่ด้านข้าง ขณะทำความสะอาดดินโคลนบนเปลือกหอย ก็ถามขึ้นว่า "หอยพวกนี้เอาไปทำอาหารยังไงหรอ?"
“เคี่ยวน้ำแกงหรือผัดกับพริกก็ได้” ซูจื่อหังอธิบายว่า “แต่ว่าหอยที่เราเก็บมาวันนี้ยังกินไม่ได้"
“กินไม่ได้? ทำไมหรือ?” ถูซินเยว่ชะงัก แม้ว่าเธอจะมีทักษะในการใช้ชีวิตกลางแจ้งบ้างแต่เธอก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในชนบทเหล่านี้เลย เก็บมาแล้วทำไมยังกินไม่ได้ หรือว่าต้องเอาไปเลี้ยงต่องั้นหรือ?
ขณะที่ถูซินเยว่คิดเรื่องนี้อยู่ เธอก็ได้ยินซู่จื่อหังพูดว่า "หอยมุกอาศัยอยู่ในโคลน ดังนั้นเราจะต้องเก็บหอยไว้ในน้ำสะอาดสักสองสามวันจนกว่ามันจะพ่นโคลนทั้งหมดในตัวเขาออกมา...."
"อย่างนี้นี่เอง" ถูซินเยว่พยักหน้าและพูดอย่างครุ่นคิด "นี่มันเป็นวิชาเรียนวิชาหนึ่งเลยนะนี่!"
หากซูจื่อหังไม่บอกเธอคงไม่รู้เลยว่าจะกินหอยมุกแต่ละทีต้องพิถีพิถันกันขนาดนี้
โดยปกติพวกเขามักจะซักเสื้อผ้าที่ต้นน้ำ แต่ที่นี่คือส่วนล่างของแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ๆ กับอ่างเก็บน้ำ
ตอนที่ถูซินเยว่ก้มหน้าล้างหอยมุกอยู่นั้น เธอก็เห็นปลาตัวใหญ่ ๆ มากมายในแม่น้ำ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นทันที พูดขึ้นว่า "พี่ซู ดูสิ มีปลาด้วย!"
ซูจื่อหังมองดูและเห็นว่าใบหน้าที่ตื่นเต้นของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า "เจ้าอยากกินปลาไหม?"
“อืม” ถูซินเยว่พยักหน้า
หลังจากเดินทางย้อนอดีตมา มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอสนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก นั่นก็คือหมู่บ้านต้าเย่ถึงแม้จะติดกับอ่างเก็บน้ำ แต่ที่น่าแปลกก็คือ ผู้คนในหมู่บ้านดูเหมือนจะไม่มีใครกินปลากัน และเธอก็ไม่เคยเห็นคนมาจับปลาเลย
หากเธอมาจับปลาไปขายที่ในตลาด ก็หาเงินได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?
ถูซินเยว่คิดสิ่งนี้อยู่ในใจ และถามคำถามนี้ออกมา สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือเมื่อซูจื่อหังได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะขึ้นมายกใหญ่ พูดขึ้นว่า "การจับปลามันไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ปลาตัวใหญ่ในอ่างเก็บน้ำนี่ว่องไวมาก นอกจากว่าเจ้าจะมีทักษะที่เชี่ยวชาญมาก ปกติไม่มีทางจะจับปลาได้หรอก"
"อย่างนี้นี่เอง" ถูซินเยว่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด ใช่สิ พื้นที่ในชนบทคงยังไม่รู้จักแหอวนจับปลา แน่นอนว่าพวกเขาก็เลยจับปลาไม่ได้
โดยทั่วไปเมื่อต้องการจับปลาผู้คนจะใช้ตะกร้าไม้ไผ่จับปลาในบ่อหรือใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น ลำต้นของต้นไม้ ไม้ไผ่ กก หรือฟางเป็นต้น และเลือกสถานที่ที่มีชายฝั่งค่อนข้างสูง ประดิษฐ์สิ่งของขึ้นมาอย่างง่าย ๆ นำมาขวางลำน้ำไว้ เมื่อแม่น้ำไหลผ่านปลาก็จะถูกดักเอาไว้
เพียงแต่วิธีนี้เหมาะแต่กับบริเวณที่เป็นน้ำตื้นเท่านั้น ถ้าเป็นอ่างเก็บน้ำแบบนี้คงไม่ได้ผล


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...