เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมา ถูซินเยว่ก็ขึ้นภูเขาพร้อมกับซูจื่อหังอีก หลังจากมีประสบการณ์ครั้งก่อน ครั้งนี้เมื่อซูจื่อหังเห็นเสี่ยวหวงก็ไม่กลัวอีกแล้ว หนำซ้ำยังเอากระบอกน้ำแกล้งเสี่ยวหวงด้วย
"อากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ ระยะนี้คงใกล้หิมะตกแล้ว" ซูจื่อหังพูด "ครั้งนี้มาแล้ว เราก็เก็บข้าวของให้เรียบร้อย รออีกสักระยะค่อยขึ้นภูเขาใหม่"
ในวันที่หิมะตก บนเขาจะพบเจอหมีได้ง่ายๆ ถ้าจะบอกว่ากลางป่าเขาแบบนี้อะไรอันตรายที่สุดนั้น หนึ่งคือเสือ สองก็คือหมี ซึ่งเป็นสัตว์กินคนทั้งสองชนิด
อีกอย่างเมื่อหิมะตกถนนหนทางก็เดินยาก เพราะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จึงเหยียบพลาดได้ง่ายๆ
"เข้าใจแล้ว" ถูซินเยว่พยักหน้า เธอยื่นมือออกมาลูบไปที่หัวของเสี่ยวหวงด้วยท่าทีจริงจัง และย่อตัวลงตรงหน้ามันพูดว่า "เจ้าได้ยินแล้วหรือยัง ระยะนี้พวกเราไม่สามารถมาเยี่ยมเจ้าได้บ่อยๆ เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ!"
พูดแล้ว เธอก็ลูบไล้ไปที่ขนบนตัวของมัน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสี่ยวหวงที่ดื่มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ไปหลายเดือน ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณด้วย
หลังจากที่ถูซินเยว่พูดจบ มันก็ใช้หัวถูไปมาบนมือของอีกฝ่ายราวกับว่ามันฟังออก เสมือนกำลังบอกถึงความไม่อยากลาจากของตนเอง
หากว่าหิมะปิดภูเขาจริงๆ อย่างน้อยๆ ถูซินเยว่ก็จะไม่ได้เจอเสี่ยวหวงระยะหนึ่ง ที่จริงในใจเธอก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน เดิมทีถูซินเยว่คิดจะพาเสี่ยวหวงกลับไปที่บ้านด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรเสี่ยวหวงก็เป็นเสือตัวหนึ่ง หากพามันกลับไปที่ชุมชนจริงๆ เกรงว่าคนเหล่านั้นจะพากันตกใจ
ดังนั้นถูซินเยว่จึงล้มเลิกความคิดนั้นไป
หลังจากเล่นกับเสี่ยวหวงสักพักหนึ่ง ถูซินเยว่ก็นำเหยื่อใส่ไปในตะกร้า เตรียมตัวกลับบ้าน
ไม่รู้เป็นเพราะว่าเสี่ยวหวงเองก็เข้าใจว่าหิมะใกล้จะตกแล้วหรือไม่ ดังนั้นครั้งนี้มันได้เตรียมเหยื่อไว้ให้ถูซินเยว่เยอะมาก
เมื่อซูจื่อหังเห็นกวางสองตัวกับหมูป่าอีกหนึ่งตัวตรงหน้า จึงส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ และพูดว่า "ขืนทำแบบนี้ต่อไป ข้าว่านะสัตว์ป่าที่อยู่ในภูเขาหลังหมู่บ้านต้าเย่คงได้วิ่งหนีกันไปหมด"
เมื่อได้ยินดังนั้น ถูซินเยว่ก็หัวเราะทันที
ปัญหานี้เธอก็เคยคิดเช่นกัน เหยื่อบนภูเขามีจำกัด ดังนั้นเธอถึงคิดจะสร้างเนื้อสร้างตัวและเก็บเงินโดยอาศัยอ่างเก็บน้ำ
จะว่าไปแล้วที่นาในหมู่บ้านต้าเย่ล้วนแต่แห้งแล้งทั้งนั้น ไม่เหมาะที่จะปลูกข้าวนัก ดังนั้นข้าวจึงเพียงพอแค่สำหรับทานในครอบครัว กับจ่ายภาษีปกติ ไม่มากพอที่จะนำไปขายได้
โชคดีที่กษัตริย์แห่งต้าฉีปัจจุบันมีนโยบายลดหย่อนภาระประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศชาติ หากเป็นยุคที่จัดเก็บภาษีอย่างโหดร้าย เกรงว่าหลายครัวเรือนหลังจ่ายภาษีแล้วคงเหลืออาหารสำหรับดำรงชีวิตอีกไม่มาก
เมื่อใส่กวางสองตัวไปในตะกร้าแล้ว เหลือหมูป่าอีกหนึ่งตัวที่ใส่ไม่หมด ซูจื่อหังจึงใช้กระสอบผ้าป่านใส่แทน และแบกขึ้นหลัง หลังจากที่ร่ำลากับเสี่ยวหวงแล้ว ทั้งคู่จึงลงจากภูเขา
ถูซินเยว่ยืนมองไปทางอ่างเก็บน้ำที่ไกลออกไป หวังอย่างใจจริงว่าตอนที่ไปดูลอบดักกุ้งในอีกสองสามวันให้หลังจะได้อะไรมากบ้าง
เพราะเหยื่อจำนวนมากเกินไป ถูซินเยว่แบกจนหายใจไม่ทั่วท้อง โชคดีที่ครั้งนี้ซูจื่อหังขึ้นภูเขาเป็นเพื่อนเธอ ไม่เช่นนั้นคงแบกกลับไปไม่ไหวแน่นอน
มีผลให้เก็บเกี่ยวนั้นย่อมเป็นเรื่องดี ระหว่างทาง ใบหน้าทั้งสองคนเผยรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจ
พวกเขาที่กำลังเดินทางอยู่นั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้ถูกคนที่เจตนาร้ายหมายตาเข้าให้แล้ว
"นังถูซินเยว่วันสองวันขึ้นไปบนภูเขาที และแต่ละครั้งก็เอาเหยื่อกลับมาด้วย เจ้าว่าทำไมนางถึงเก่งขนาดนี้?" ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ลูกชายคนเล็กของหัวหน้าหมู่บ้าน หลี่เม่ากับเถ้าแก่ร้านขายของชำหน้าหมู่บ้าน เซี่ยตี้หยางมองดูแผ่นหลังของถูซินเยว่และพูดด้วยความประหลาดใจ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...