เมื่อสั่งให้ซูจื่อหังนำตาข่ายดักกุ้งหย่อนลงในน้ำอีกครั้งแล้ว ทั้งสองคนก็พายเรือเพื่อจะได้กลับขึ้นฝั่ง
ถูซินเยว่ที่จิตใจกำลังดื่มด่ำกับความสุขที่ได้ทั้งปลาและกุ้งมา จึงไม่ทันได้สังเกตเลยว่า ไม่ไกลจากเธอนั้นมีคนกำลังแอบคอยจ้องการกระทำของเธอกับซูจื่อหังอยู่ เมื่อเห็นพวกเขายังอยู่บนผิวน้ำจึงรีบวิ่งกลับไป
"วันนี้ถูซินเยว่ไปอ่างเก็บน้ำ คงไม่ขึ้นเขาแล้วล่ะ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของพวกเรา!" เซี่ยตี้หยางลากหลี่เม่าออกมาจากบ้าน พลางกระซิบเบา ๆ ว่า "เจ้าสะพายกระสอบและขวานไปด้วย เดี๋ยวพวกเราขึ้นเขาไปด้วยกัน"
"จะไปจริง ๆ หรือ?" พอจะต้องทำจริง ๆ หลี่เม่ากลับขี้ขลาดขึ้นมาซะงั้น อีกอย่างวันนี้หิมะตก ทางบนเขาต้องเดินลำบากแน่นอน
"ทำไมเจ้าขี้ขลาดถึงขนาดนี้?" เซี่ยตี้หยางกล่าวว่า "ถ้าเจ้าไม่ไปด้วยกันกับข้า พอถึงตอนนั้นเงินพวกนั้นก็จะเป็นของข้าคนเดียว จริงสิ ข้ายังชวนต้าจู้ไปด้วยนะ"
"ทำไมเจ้าถึงเรียกต้าจู้ไปด้วย? " หลี่เม่ายิ่งขี้ขลาดขึ้นไปอีก
เจ้าต้าจู้คนนี้ดูแล้วเหมือนคนจริง ๆ จัง ๆ นี่นา แล้วทำไมถึงไปขโมยกับดักของถูซินเยว่กับพวกเขาได้กันล่ะ ?
"ข้าไม่ได้บอกเขา ข้าก็แค่บอกว่าเป็นกับดักที่ข้าวางไว้ ให้เขาไปเป็นเพื่อนข้าเผื่อโชคดี อีกอย่างบนกับดักนั่นก็ไม่ได้เขียนชื่อเอาไว้ ใครจะรู้ว่าถูซินเยว่เป็นคนทำกันเล่า" เซี่ยตี้หยางอธิบาย "ถ้าชวนต้าจู้ไปด้วย พวกเราก็มีสามคนแล้ว ไปด้วยกันถึงสามคน เจ้าคงไม่กลัวแล้วใช่ไหม"
ที่จริงแล้ว เซี่ยตี้หยางก็ไม่ได้อยากชวนต้าจู้ไปด้วยนักหรอก ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะไปคนเดียวเสียด้วยซ้ำไป
แต่หิมะตกแบบนี้ ในป่าลึกบนภูเขาแบบนั้นคงอันตรายไม่น้อย เขาเองก็ไม่ได้มีความกล้าหาญสักเท่าไหร่นัก ถึงต้องชวนคนไปเพิ่มสองสามคนเพื่อจะได้มั่นใจหน่อย
เมื่อเห็นหลี่เม่ากำลังลังเลใจ เซี่ยตี้หยางก็พูดขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า "ถ้าเจ้ายังไม่ไปด้วยกันกับข้าแล้วละก็ ข้าจะไปกับต้าจู้ด้วยกันแล้วนะ ถึงตอนนั้นเจ้าอย่าหาว่าข้าไม่พาเจ้าไปหาเงินด้วยกันแล้วกัน"
หลี่เม่ารีบคว้ามือของเซี่ยตี้หยางเอาไว้พร้อมพูดขึ้น "เจ้ารอข้าก่อน รอก่อน ข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย"
เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของอีกฝ่าย ใบหน้าของเซี่ยตี้หยางก็เผยรอยยิ้มอันพึงพอใจออกมาทันทีทันใด เขาพยักหน้าตอบกลับ "เจ้ารีบหน่อย เดี๋ยวใครจะมาเห็นเข้า"
"ข้ารู้แล้ว" เสียงบ่งบอกถึงความกังวลของหลี่เม่าเปล่งออกมา
วันนี้เมียต้าจู้นั้นมีความสุขมาก คราวก่อนตอนเห็นถูซินเยว่เอากระต่ายอวบอ้วนและไก่ภูเขาอย่างละตัวไปที่บ้านของหยวนเป่านั้น ถึงแม้นางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความจริงแล้วในใจนั้นอยากไม่น้อยเลยทีเดียว
มาคราวนี้ ต้าจู้ก็ไปขึ้นเขาด้วย ดีเลย ต่อไปพวกเขาก็ไม่ต้องไปขอผู้อื่นแล้ว พวกเขาเองก็สามารถกินเนื้อกระต่ายเนื้อไก่กับเขาได้เหมือนกัน
เมื่อคิดถึงกลิ่นหอมจากผัดเนื้อกระต่ายอันอวบอ้วนนั้น น้ำลายของเมียต้าจู้ก็แทบจะหกออกมาแล้ว
นางหายใจเข้าลึก ๆ และเดินเข้าไปต้มน้ำร้อนในห้องครัวด้วยความหัวใจอันพองโต ถึงตอนนั้นพออาหารป่ามาถึง ก็สามารถเชือดแล้วใส่ลงไปต้มในน้ำร้อนได้ทันที จะได้ถอนขนได้อย่างรวดเร็ว
ถูซินเยว่กลับไม่รู้ว่า มีคนจ้องจะจับเหยื่อของเธออยู่ เธอกำลังเดินตามหลังของซูจื่อหังอย่างมีความสุข ทั้งยังคอยชะเง้อมองดูกุ้งปลาในถังไม้ของอีกฝ่ายอยู่เรื่อย ๆ
พวกปลากุ้งที่ตาข่ายดักได้นั้น ส่วนใหญ่ล้วนมีขนาดเล็กพอ ๆ กับนิ้วหัวแม่มือของผู้ชายเท่านั้น มีน้อยครั้งนักที่จะดักได้ปลาใหญ่ไม่กี่ตัวมา และก็มีกุ้งอยู่บ้าง ครั้งนี้ ในตาข่ายดักได้ปลาตะเพียนมาตัวหนึ่ง ส่วนกุ้งเหล่านั้น ถูซินเยว่มอง ๆ ไปแล้วคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณชามหนึ่งพอดี
เมื่อทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน เสื้อกันฝนที่สวมใส่บนร่างกายก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะบาง ๆ แล้ว ซูจื่อหังนำปลากุ้งที่ดักได้วางไว้บนพื้น นางหยูรีบนำน้ำร้อนมาแล้วพูดว่า "ดื่มน้ำขิงกันสักหน่อย จะได้บรรเทาความหนาว หิมะตกหนักขนาดนี้ พวกเจ้าออกไปทำอะไรกันที่ข้างนอกกัน?"
นางตื่นมาตอนเช้า ก็ไม่มีเห็นใครแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาออกไปไหนกัน
"ท่านแม่ พวกข้าไปจับปลากันน่ะ ท่านแม่ดูสิ!" ถูซินเยว่พูดพรางนำถังไม้มาวางไว้ตรงหน้านางหยู
เมื่อนางหยูมองไปก็ตกใจ นางกล่าวอย่างตกตะลึงว่า "ปลาเยอะขนาดนี้เลยหรือเนี่ย? ปลาใหญ่ตัวนี้ยังสามารถนำมาต้มกินได้ แต่ปลาเล็กพวกนี้จะทำยังไงดีล่ะ?"
ถ้าในปัจจุบันปลาเล็กมากมายขนาดนี้แล้วล่ะก็ยังสามารถนำมาทอดน้ำมันกินได้ แต่ในชนบทสมัยโบราณแบบนี้ น้ำมันเป็นสิ่งของราคาแพงมาก ผู้คนเวลาทำอาหารยังเสียดายที่จะนำมาใช้ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจะนำมาใช้ทอดปลาเล็กพวกนี้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...