เหมือนที่หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวไว้ เขาพากลุ่มชายฉกรรจ์มาด้วยจริง ๆ มีราว ๆ 4-5 คน กําลังรออยู่ไม่ไกลจากประตูบ้านของถูซินเยว่
พอถูซินเยว่มองไป ก็พบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านี้ เธอรู้จักแค่หยวนเป่าเพียงคนเดียว
“ซินเยว่?” เมื่อหยวนเป่าเห็นถูซินเยว่ก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาเบิกตากว้างและถามว่า “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านพาซินเย่วมาด้วยทำไมกัน”
พวกเขายังไม่รู้ว่าทําไมเซี่ยตี้หยางและหลี่เม่าถึงได้ติดอยู่ในภูเขาหิมะ
“ซินเยว่นางมาชี้ทางให้เราน่ะ” ประกายแห่งความอึดอัดแวบผ่านแววตาของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาเหลือบมองถูซินเยว่แต่กลับเห็นเธอเดินออกมาพูดว่า “ไปกันเถอะ คืนหิมะตกแบบนี้มักจะมืดช้า วันนี้เป็นวันที่สิบหก ดวงจันทร์กลมโตพอดี พวกเจ้าตามข้ามา ก่อนฟ้าจะมืดสนิท ต้องตามหาพวกเขาให้เจอให้ได้”
ยามเมื่อหญิงสาวพูดนั้น ตัวเธอก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นผู้นํา กลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนที่อยู่ด้านข้างต่างก็ฟังคําพูดของเธอพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย และเดินตามหลังเธอไป
ส่วนหลิวจินเซียงเป็นผู้หญิง หัวหน้าหมู่บ้านเองก็อายุมากแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรออยู่ที่เชิงเขา มองถูซินเยว่ขึ้นเขาไปกับชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น
เพราะในช่วงกลางวันมีหิมะตกหนัก พอถึงตอนกลางคืนแบบนี้ บนพื้นจึงกองไปด้วยหิมะชั้นหนา เมื่อเหยียบลงไปเท้าก็ถึงกับจมลงลึกถึงข้อเท้า
สภาพอากาศแบบนี้อย่าว่าแต่จะหาคนเลย แค่มองให้ชัดก็ยากแล้ว รอบ ๆ ตัวเห็นเพียงแต่สีขาวโพลนเต็มไปหมด
นอกจากนี้หลี่เม่าและเซี่ยตี้หยางนั้นออกเดินทางกันในตอนเช้า รอยเท้าของพวกเขาจึงถูกหิมะฝังไปตั้งนานแล้ว
ถูซินเยว่ขมวดคิ้วและพูดว่า "ถนนบนภูเขาแห่งนี้ไม่ปลอดภัย พวกเจ้าทุกคนเดินตามหลังข้านะ จะได้ป้องกันไม่เหยียบพลาดไปน่ะ" พูดจบหญิงสาวก็ดึงกิ่งไม้จากพื้นหิมะมากิ่งหนึ่งแล้วใช้มันเสียบไปตามพื้น แล้วจึงค่อยเดินไปอย่างวางใจ
ชาติที่แล้วเธอก็เคยปฏิบัติภารกิจท่ามกลางหิมะตกหนักแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยวิธีการการรับมือกับสภาพอากาศแบบนี้เป็นอย่างดี
แต่นึกไม่ถึงว่า ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างหลังถูซินเยว่กลับพูดอย่างหงุดหงิดว่า "ถ้าเดินตามเจ้าช้า ๆ ไปแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พวกเราถึงจะหาพวกเขาเจอกันล่ะ เจ้าหลีกไป เดี๋ยวข้าจะเดินนําหน้าเอง"
ถูซินเยว่ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงเย็นว่า "นี่ข้าทําแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคน"
พอพูดจบ เธอก็เห็นผู้ชายคนนั้นทําท่าไม่พอใจ จึงเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "ได้ งั้นเจ้าเดินนําหน้า เจ้ามานําทางให้พวกเรา"
มุมปากของหญิงสาวกระตุกขึ้นเบา ๆ เธอมองผู้ชายคนนั้นจนเขารู้สึกอึดอัดไปหมด
หยวนเป่าอดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อม "เถี่ยต้าน เจ้าฟังคําพูดของซินเยว่จะดีกว่านะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วล่ะก็ มันจะ..."
"พวกเจ้ากลัวก็กลัวไปสิ ข้าไม่กลัวหรอก ข้าไม่ใช่คนขี้ขลาดสักหน่อย" เถี่ยต้านหัวเราะเย็น เขาไม่ฟังคําพูดของหยวนเป่าแม้แต่น้อยเลย เดิมทีเขายังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้กลับเดินนําหน้าไปอย่างดุดัน
หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวและพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ยิ่งกล้ามากขึ้น เขาเดินไปโดยที่ไม่ยกเท้าทดสอบดูเลย
เมื่อเห็นแบบนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"ดูสิ ไม่เห็นมีอะไรเลย ก็เพราะพวกเจ้าน่ะมันขี้ขลาด ไม่เหมือนกับข้าที่ไม่กลัวสักนิดหรอกนะ"
มุมปากของหยวนเป่ากระตุกขึ้นมาสองสามที
หลังจากพวกเขาเดินไปได้ระยะหนึ่ง เถี่ยต้านก็ยิ่งวางใจมากยิ่งขึ้น ถึงกับยิ้มเยาะพลางพูดว่า "ไม่รู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านหาผู้หญิงนี่มานําทางให้เราทําไมกัน ถนนบนภูเขานี้เดินง่ายจะตายไม่ใช่เหรอ? เดิน ๆ ไปตามสบายก็ได้แล้ว!"
"เถี่ยต้าน ซินเยว่นางมาขึ้นเขาบ่อย ๆ นะ นางคุ้นเคยกับบนภูเขานี้มากที่สุด นี่เป็นคําสั่งของหัวหน้าหมู่บ้าน"
หยวนเป่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อม
"พอแล้วๆ คําสั่งของหัวหน้าหมู่บ้านอะไรกัน ข้าเองก็มาขึ้นเขาไม่น้อยเหมือนกัน ข้าว่า พวกเจ้าเดินตามข้าก็พอ เดี๋ยวข้าพาพวกเจ้า..." ยังพูดไม่ทันจบ เถี่ยต้านก็รู้สึกว่าจู่ ๆ ใต้เท้าก็ว่างเปล่า ใบหน้าของเขาพลันปรากฏสีหน้าหวาดกลัวออกมา เขาร้องตะโกนด้วยสัญชาตญาณ "ช่วยด้วย!"


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...