เมื่อเห็นว่ามีคนเข้าทางประตู สีหน้าของแม่เฒ่าตระกูลซูก็เผยใบหน้ายิ้มแยมดีใจออกมา พร้อมเตรียมลุกขึ้นจากเก้าอี้
แต่เมื่อนางเห็นชัดเจนว่าคนที่เดินเข้ามาจากประตูคือซูจื่อหังแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที
ซูจื่อหังเดินเข้ามา แม่เฒ่าตระกูลซูไม่แม้แต่จะทักทายอีกฝ่ายด้วยซ้ำ นางนั่งนิ่งด้วยท่าทางเย็นชาบนเก้าอี้ไม่ขยับตัวเลยสักนิดราวกับรูปปั้น
ซูจื่อหังเดินเข้าไปหา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ถือว่าเป็นมิตรว่า "ท่านย่า วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ท่านแม่จึงให้ข้านำเนื้อไก่มาให้"
แม่เฒ่าตระกูลซูได้ยินดังนั้น จึงเงยหน้าขึ้นมามองเนื้อไก่ในชามนั้น เมื่อเห็นว่ามีเนื้อไก่แค่ไม่ถึงครึ่งชาม ก็หัวเราะด้วยความเย็นชาทันที "ยังรู้หรือว่าข้าเป็นย่าของเจ้า นางหยูทำไมไม่มาเองล่ะ แล้วเอามาแค่นี้ กะจะให้ขอทานงั้นหรือไงกัน?"
แม่เฒ่าตระกูลซูยังคงพูดจาไม่น่ารับฟังนัก วันฉลองขึ้นปีใหม่แบบนี้ ปากยังไม่ดีเหมือนเดิม ซูจื่อหังสีหน้าแข็งค้างไปทันที
อย่างไรเสียก็เป็นผู้ใหญ่ ในสมัยโบราณนั้น ความเคารพกตัญญูเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนัก ซูจื่อหังลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า "ข้าวางเนื้อไก่ชามนี้ไว้บนโต๊ะก่อนแล้วกัน"
ระหว่างพูด เขาก็วางวามลงบนโต๊ะหิน แต่พอเพิ่งจะวางชามลงบนโต๊ะยังไม่ทันดึงมือออกด้วยซ้ำ แม่เฒ่าตระกูลซูก็เหวี่ยงกิ่งไม้ไผ่ในมือแล้วฟาดลงมา
ซูจื่อหังรู้สึกเจ็บจึงรีบดึงมือกลับทันทีโดยสัญชาตญาณ ชามในมือจึงร่วงหล่นลงบนโต๊ะจนส่งเสียงดังแหลมขึ้นมา โชคดีที่ชามนี้ค่อนข้างหนาจึงไม่ได้แตก
แต่หลังมือของซูจื่อหังกลับทิ้งรอยเป็นแถบสีแดง
เมื่อแม่เฒ่าตระกูลซูเห็นเช่นนี้ก็กลอกตาใส่อีกฝ่ายพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสียว่า "วางของลงแล้วก็รีบไสหัวไปซะ วันปีใหม่มาเจอแบบนี้ช่างซวยซะไม่มี"
เดิมทีวันนี้ซูจื่อหังมาด้วยอารมณ์ที่เป็นมิตร และก็อยากพูดคุยกับแม่เฒ่าตระกูลซูด้วยความเป็นมิตรเช่นกัน แต่ใครจะไปคิดว่าอารมณ์โมโหของแม่เฒ่าตระกูลซูจะรุนแรงขนาดนี้ วันฉลองขึ้นปีใหม่แบบนี้พูดจาไม่เป็นมงคลก็มากพอแล้ว ยังจะมาลงไม้ลงมืออีก
คำโบราณกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนมีนิสัยโมโหร้ายกันทั้งนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้น ซูจื่อหังไม่ใช่นางหยูที่จะยอมอ่อนข้อให้คนอื่นมาบีบรังแกเหมือนลูกไก่ในกำมือ
เมื่อมองดูรอยบนหลังมือแล้ว ซูจื่อหังก็หันไปทางอื่นแล้วพูดด้วยเสียงเรียบว่า "ในเมื่อท่านย่าไม่ชอบขี้หน้าข้า งั้นข้าก็ไม่ทิ้งของเอาไว้ให้เกะกะท่านหรอกนะ เดี๋ยวท่านย่ากินเนื้อไก่นี้เข้าไปแล้วจะท้องเสียเปล่า ๆ"
พูดจบ เขาหยิบชามเนื้อไก่บนโต๊ะแล้วก็เดินออกไปทันที
แม่เฒ่าตระกูลซูโกรธจนปากเบี้ยวไปหมด
วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ แม่เฒ่าตระกูลซูจึงอารมณ์ดีตั้งแต่ยามเช้าตรู่ ด้วยว่าลูกชายของตนจะกลับมา ไม่ใช่เพียงแต่ลูกชายเท่านั้น ยังมีหลานชายที่จะพาหลานสะใภ้กลับมาด้วย
ตั้งแต่ที่ตัวซวยอย่างนางหยูย้ายออกไป ถึงแม้ในบ้านจะเงียบสงบขึ้น แต่มันก็เงียบสงัดเกินไป
คนเราเมื่อแก่ตัวไปก็มักจะชอบความคึกคัก ดังนั้นแม่เฒ่าตระกูลซูจึงรอที่หน้าประตูตั้งแต่เช้าก็เพราะอยากรอพวกเขากลับมา บ้านจะได้ได้คึกคักพร้อมหน้าพร้อมตากัน
ใครจะไปคิดว่า รอจนเวลาพลบค่ำแล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงา
แล้วจะไม่ให้นางโกรธได้ยังไงกันล่ะ นางจึงระบายความโกรธทั้งหมดไปลงบนตัวซูจื่อหัง
หากซูจื่อหังยอมรับได้ ก็ว่าไปอย่าง แต่ใครจะไปคิดว่า อีกฝ่ายกลับกล้ายกชามเนื้อไก่กลับไป!
อกตัญญู อกตัญญูจริง ๆ!
"จื่อหัง!" แม่เฒ่าตระกูลซูกัดฟันพูดขึ้น "นี่เจ้ายังเห็นข้าเป็นย่าของเจ้าอยู่หรือไม่?!"
เมื่อซูจื่อหังได้ยินก็หันกลับไปมองแม่เฒ่าตระกูลซูด้วยความเย็นชา พอกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงหัวเราะลอยมาจากด้านนอกซะก่อน
พอมองไปข้างนอก ก็เห็นว่าเป็นซูฟาเสียงพาลูกชายและลูกสะใภ้ของซูเฟิ่งอี๋กลับมา


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...