เมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว เบเน่ก็พูดต่อยากแล้ว จึงต้องถอยหลังไป ส่วนเย่เทียนก็ขมวดคิ้วอย่างแรง ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าหัวหน้าตำรวจคนนั้นเอาแต่จ้องมาที่ตน ในใจรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี นี่มันขั้นตอนที่จะเกิดเรื่องนี่
“ไป! เร็วเข้า! เร็วเข้า!”
ไม่นาน ผู้หลบหนีเข้าเมืองยี่สิบกว่าคนที่อยู่ใต้ท้องเรือก็ถูกคุมตัวโดยตำรวจน้ำสามคนก่อนหน้าค่อยๆ เดินขึ้นดาดฟ้ามา แน่นอนว่าช่ายเหมยเป่าก็อยู่ในนั้นด้วย
“ไป ผู้ชายทางซ้าย ผู้หญิงทางขวา เรียงเป็นสองแถว อย่าขยับตามใจชอบ กระสุนมันไม่มีลูกตาหรอกนะ ถ้าใครวิ่งมั่วๆ ฉันก็ไม่ขัดที่จะแจกให้สักลูก!” ตำรวจน้ำพูดเตือน
ไม่ใช่แค่ผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองเท่านั้น ยังมีกะลาสีอีกหลายคนที่อยู่ตรงข้ามด้วย ส่วนกะลาสีก่อนหน้าที่รับเงินของชิโปโตะไปก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ บอกว่าตนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่แอบบ่นในใจว่าซวย ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่ในครั้งนี้ ตำรวจน้ำกลับเอาจริงขึ้นมาซะได้
โชคดีที่ตอนนี้เพิ่งเข้ามาในน่านน้ำของอิตาลี ยังพอหาข้ออ้างได้บ้าง แต่ก็ยังต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ แต่ถ้าใครที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน ก็คงต้องแล้วแต่เวรแต่กรรมแล้ว ยังไงเบเน่ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว ที่ไหนที่ควรจ่ายก็จ่ายไปหมดแล้ว เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยผ่าน เขาก็ทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง การลักลอบเข้าเมืองมันก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากอยู่แล้ว
จากการที่จำนวนคนเพิ่มขึ้น ตำรวจน้ำที่คุมพวกเย่เทียนก็รีบเข้าไปช่วย และเริ่มตรวจสอบตัวตนของคนเหล่านั้นอย่างเข้มงวด
ไม่นาน ก็มาถึงคิวของช่ายเหมยเป่าอย่างรวดเร็ว ตำรวจน้ำอายุน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าช่ายเหมยเป่า แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เอกสารของเธอล่ะ?”
พอได้ยินอย่างนั้น ช่ายเหมยเป่าก็ขมวดคิ้ว มือเล็กๆ ของเธอก็กำแน่น ทำท่าเหมือนจะใช้อารมณ์
“คือว่า คุณตำรวจ เธอเป็นภรรยาของผมครับ เอกสารของเรายังอยู่ในห้องโดยสาร เลยเอาออกมาไม่ได้นี่ไงครับ” เย่เทียนก็สังเกตเห็นท่าทางของช่ายเหมยเป่าเหมือนกัน จึงรีบชิงพูดไปก่อน
“หืม?” ตำรวจคนนั้นเลิกคิ้วขึ้น ปากกระบอกปืนในมือยกขึ้นทันที แล้วเล็งไปที่ช่ายเหมยเป่า “เธอไปเอากับฉัน!”
“คุณตำรวจ ผมไปกับคุณดีกว่า ผมเป็นคนเก็บเอกสารของเธอไว้เอง เธอไม่รู้หรอกครับว่ามันอยู่ไหน” เย่เทียนรีบพูดไป
“เร็วๆ!” ตำรวจน้ำพยักหน้า แล้วหันปากกระบอกปืนมา พูดเร่งเย่เทียน เย่เทียนทำเป็นโซเซ ชูมือแล้วพูดไปว่า “ครับๆ คุณตำรวจใจเย็นๆ มากับผม ผมจะไปเอาให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
ระหว่างที่พูด เขาก็เดินตรงเข้าไปที่ตัวเรือ ส่วนตำรวจคนนั้นก็ตามหลังเย่เทียนไปติดๆ กันไม่ให้เขากระโดดเรือหนีไป
หลังจากที่ทั้งคู่เข้าเรือไปแล้ว คนที่อยู่ข้างนอกก็มองไม่เห็นทั้งคู่แล้ว เย่เทียนได้หยุดเดิน แล้วพูดออกมาว่า “คุณตำรวจ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”
ระหว่างที่พูด เย่เทียนยังคงยกมือทั้งสองข้างขึ้น แล้วค่อยๆ หันหลังกลับมา
“อยากพูดอะไรก็รีบพูด ฉันจะบอกอะไรให้นะ อยากคิดทำอะไรตุกติก ไม่อย่างนั้น หึๆ” ตำรวจน้ำได้ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วมองเย่เทียนอย่างหวาดระแวง
“คือว่า คุณตำรวจ ผมก็กำลัง…..” เย่เทียนฝืนยิ้มออกมาสองที แล้วล้วงมือขวาเข้าไปที่อกเสื้อ
“เดี๋ยว นี่แกคิดจะทำอะไร!” ตำรวจน้ำรีบห้ามเย่เทียน พร้อมกำอาวุธในมือแน่น
“ใจเย็นๆ คุณตำรวจ อย่าเพิ่งวู่วาม ถ้าปืนลั่นขึ้นมามันจะแย่เอานะครับ” เย่เทียนรีบพูดไป ระหว่างที่พูด เย่เทียนก็ได้ชักมือออกจากอกแล้วเห็นเพียงเงินมัดใหญ่ที่อยู่ในมือของเย่เทียน อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าหมื่นดอล
“คุณตำรวจ ดูนี่….” เย่เทียนยิ้มๆ ถึงไม่ได้พูดให้จบ แต่สิ่งที่จะสื่อไม่ต้องพูดก็รู้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่