ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1014

“ท่านผู้นำ นี่มันอะไรครับ?” บางทีอาจเป็นเพราะแสงไฟ ชิโปโตะจึงมองเห็นไม่ชัด เลยถามไปอย่างไม่เข้าใจ

“ชิ นี่คุณกำลังทำร้ายผมอยู่” ตอนนั้นเอง เบเน่ก็ได้เหินเข้ามา ยิ้มอย่างขมขื่น แต่สายตาที่มองเย่เทียนกลับดูค่อนข้างหวาดระแวง

“เบเน่ คุณไม่ต้องห่วง ผมทำคนเดียวและจะรับผิดชอบคนเดียว ไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอน” ยังไม่ทันที่ชิโปโตะจะได้ตอบ เย่เทียนก็ชิงตอบไปก่อนแล้ว ส่วนมือก็ไม่ยุ่ง รีบเก็บรูปถ่ายของตัวเองเข้าไปอย่างรวดเร็ว

หลังชะงักไปแปบหนึ่ง เย่เทียนก็หันหน้ามา ถามชิโปโตะไปว่า “คุณน่าจะรู้ว่าต้องไปอิตาลี่ยังไงใช่มั้ย ขอแค่ขึ้นฝั่งได้ก็โอเคแล้ว”

“ครับ” ชิโปโตะพยักหน้า เขาเองก็พาคนเดินทางผ่านทางนี้มาเยอะ จึงรู้ดีว่าต้องเดินทางยังไง

“โอเค เอาอย่างนี้ เบเน่ เมื่อกี้ผมเห็นพวกคุณมีสปีดโบ๊ทอยู่ลำหนึ่งใช่มั้ย? เอาสปีดโบ๊ทลำนั้นให้เรา” เย่เทียนพยักหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับเบเน่

“ให้พวกคุณ?” เบเน่เลิกคิ้วขึ้น สปีดโบ๊ทลำนั้นเอาไว้ใช้หนีในเวลาที่พวกเขาตกอยู่ในอันตรายเลยนะ จะยกให้คนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง

ชิโปโตะรีบก้าวมาข้างหน้า แล้วหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าอีกสองมัด ยัดเข้าไปในมือของเบเน่ “เบเน่ครั้งนี้ถือว่าฉันขอร้องล่ะ ครั้งต่อไป ครั้งต่อไปถ้ามีโอกาสเจอกันอีก ฉันจะเลี้ยงเหล้านายอย่างดีเลย”

“คือ ก็ได้” พอรับรู้ถึงเงินหนาๆ ในมือ เบเน่ก็ขมวดคิ้วอย่างแรง จากนั้นก็ตอบรับ ในใจนั้นดีใจแทบบ้าแล้ว เงินที่ชิโปโตะให้มา ซื้ออีกสามลำก็ยังเหลือ

“โอเค งั้นเราไปก่อนนะ” ชิโปโตะก็ทำหน้าเคร่งขรึม พยักหน้าเบาๆ

“รอเดี๋ยว” เย่เทียนขวางชิโปโตะเอาไว้ โน้มตัวลงไปอีกครั้ง แล้วค้นไปตามตัวของหัวหน้าตำรวจน้ำอีกรอบ จนได้มือถือขึ้นมาเครื่องหนึ่ง “โอเค ไป”

ชิโปโตะพยักหน้า หันไปยิ้มอย่างขอโทษให้กับเบเน่อีกรอบ แล้วพาเย่เทียนกับช่ายเหมยเป่าขึ้นสปีดโบ๊ท สตาร์ทเครื่องยนต์อย่างคล่องแคล่ว ภายใต้เสียงเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่ง สปีดโบ๊ทก็ได้หายไปในความมืดพร้อมกับคลื่นที่แหวกเป็นสองทางอย่างรวดเร็ว

การที่เบเน่กล้าพาคนลักลอบเข้าเมืองก็ต้องไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว เขาสั่งลูกน้องให้พาผู้ลักลอบเข้าเมืองที่เหลือกลับใต้ท้องเรือ และบอกให้ทุกคนปิดปากให้สนิท จากนั้นก็เข้าไปรื้อค้นพวกซากศพของตำรวจน้ำ เมื่อกี้เขาเห็นกับตาว่าเงินที่เขาเอาให้หัวหน้าตำรวจเย่เทียนไม่ได้เอาไปด้วย ต่อให้ยุงจะเล็กมันก็คือเนื้อ แล้วเบเน่จะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ยังไง

หลังจากที่ค้นศพของตำรวจทุกคนครบแล้ว เบเน่ก็สั่งลูกน้องให้เอาโยนลงทะเล แน่นอนว่าอาวุธของตำรวจเหล่านั้นก็ไม่ได้เก็บไว้ เพราะของแบบนี้มันโดนตรวจสอบง่าย ถ้าข่าวเกิดรั่วไหลออกไปมันจะลำบาก

ไม่เพียงเท่านั้น เบเน่ยังสั่งลูกน้องให้จมเรือลาดตะเวณของตำรวจน้ำทิ้งด้วย จากนั้นก็รีบล้างดาดฟ้าให้สะอาด พอเห็นว่าไม่หลงเหลือคราบเลือดแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โครงเครงโครงเครงเดินเรือต่อไป

พอหน่วยป้องกันทะเลของอิตาลีรู้ว่าตำรวจน้ำชุดนี้ได้ขาดการติดต่อ แล้วส่งคนมาตรวจดู ที่ตรงนี้ก็เหลือเพียงเรือที่จมลงสู่ใต้ทะเล สวนศพก็ไม่รู้ว่าลอยไปไหนต่อไหนแล้ว

ชิโปโตะค่อนข้างชำนาญกับเส้นทางลับเส้นนี้มาก สปีดโบ๊ทเดินหน้าด้วยความเร็วสูงสุด เสียงลมก็ดังอยู่ที่หูไม่ยอมหยุด

“ท่านผู้นำ ทำไมคุณถึงฆ่าพวกนั้นเหรอครับ?” พอถึงตอนนี้ ชิโปโตะถึงมีเวลาถามถึงเรื่องนี้ ในใจก็แอบโทษเย่เทียนว่าใจร้อนเกินไป เพราะต่อให้ถูกตำรวจน้ำตรวจจริงๆ มันก็ไม่เป็นไร ทำไมถึงต้องลงมือด้วย?

“พวกเขาน่าจะมาเพราะผม” เย่เทียนส่ายหน้า แล้วหยิบรูปของตัวเองออกมาโชว์

พอเห็นอย่างนั้น ชิโปโตะก็ขมวดคิ้วอย่างแรง และไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วหันไปขับเรืออย่างตั้งใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่