ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1106

ที่ตอบรับโจอีสเป็นเสียงหัวเราะเสียดแทงใจคน เสียงหัวเราะนั้นเหมือนเสียงกรีดร้องของนกแสก เสียงที่ทำให้คนได้ยินรู้สึกหวาดหวิวในความมืด

“คริสตจักรนี่ช่างใหญ่โตจริงนะ ศักดาภินิหารสูงล้ำ เป็นที่น่ากลัวไปทั่วจริง ๆ ！”

เสียงออดอ้อนฉอเลาะแบบนี้ถ้าเป็นผู้หญิงหุ่นเย้ายวนก็ยังพอรับได้ แต่คนที่พูดนี้เป็นผู้ชายทั้งแท่ง อีกทั้งหุ่นล่ำบึ้ก แค่มองผ่านก็พาลพาให้คิดไปถึงนักเพาะกายชายกล้ามเนื้อเป็นมัดระดับดาราจากฟิตเนตสถาน！

ความแปลกต่างอย่างขัดความรู้สึกแบบนี้ทำเอาคนที่ไม่ยอมรับอะไรง่าย ๆ เริ่มออกอาการคลื่นไส้

แต่โจอีสกลับไม่รู้สึกอะไร สายตาสาดมองฝ่ายตรงข้ามอย่างอึมครึม “พวกแกกำลังหาที่ตาย！”

“โอ้ว้าว！ฟังคุณพูดเข้า เหมือนว่าชีวิตของข้าไร้ปรานีนั้นไม่ใช่ชีวิต ชีวิตของชาวคริสตจักรจึงใช่ชีวิตที่มีค่างั้นนะ？” ชายหุ่นล่ำบึ้กสะบัดเสียงฮึขึ้นจมูก “ถึงแม้พวกบัดซบนั้นสมควรตาย แต่ก็ไม่ควรต้องตายด้วยน้ำมือของพวกคริสตจักร!”

ชายหุ่นล่ำบึ้กเอารอยยิ้ม “อันเย้ายวน” ที่อยู่บนใบหน้าแต่เดิมออก ถึงตอนนี้เอง สีหน้าที่เคร่งขรึม บุคลิกท่าทางที่น่าเกรงขาม ความกดดันในบรรยากาศที่ใหญ่หลวงเปล่งออกมาจากตัวของเขา

“โจมตี！”

ในใจของโจอีสรู้อยู่ชัดแจ้ง ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามปรากฏตัวมาที่นี่ต้องไม่ใช่มาดีเป็นแน่ โดยข้อเท็จจริงแล้วความขัดแย้งของพวกเขากับกลุ่มไร้ปรานีนั้นหนักหนายิ่งกว่าพวกอื่น ๆ อีกเป็นไหน ๆ

ภายใต้ความเลวร้ายของสำนักงานผู้พิพากษาสำนักงานผู้พิพากษา มีจำนวนกว่าครึ่งที่ต้องพลีชีพในการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตดำทมิฬ ส่วนคนที่เหลือก็ต้องตายไปกับขบวนการล่าสังหาร

ในขบวนการล่าสังหารที่เป็นปฏิปักษ์กับคริสตจักรนั้นไร้ปรานีจะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เหี้ยมโหดที่สุด มิฉะนั้นท่านผู้พิพากษาคงไม่ระบุให้พวกเขานี้เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการโจมตีทำลาย

ชายหุ่นล่ำบึ้กที่อยู่ข้างหน้านี้ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีเลือดอย่างชัดเจน หมีล่ำอาลีนัส

ตัดพฤติกรรมที่น่าคลื่นไส้ของเขาออกไป พลังฝีมือจริงของเขานั่นที่โจอีสต้องให้ความใส่ใจ

เพื่อต้องรีบรุดไปช่วยนีลลีโอ โจอีสย่อมต้องไม่มาเสียเวลาเสียอารมณ์กับที่นี่มาก ถึงแม้หมีล่ำอาลีนัสที่ร่ำลือกันว่ามีพลังถึงขนาดขย่มภูผา แต่ในสายตาโจอีสเห็นว่าพวกกลุ่มคนไร้ปรานีก็แค่ใช้ชีวิตได้เหมาะเฉพาะในมุมมืดเท่านั้น

การที่พวกเขาออกมาเป็นปฏิปักษ์กับคริสตจักรนั้นเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์！

แค่คนเดียวจะแกร่งกล้าสักแค่ไหนที่จะมาต้านทานการโจมตีใส่จากนักรบบนหลังม้า？มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดกันเลย！

ภายใต้การบงการของโจอีส กองทหารม้าครูเสดกองหนึ่งทะยานออกไป ตรงจู่โจมเข้าใส่หมีล่ำ ด้วยใจแค้นอยากจะบดขยี้ให้มันแหลกเหลวไปใต้เกือกม้า！

หมีล่ำ รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนบนพื้นจากฝีเท้าม้าที่ควบวิ่งเข้ามา แลบลิ้นเลียปากอย่างตั้งใจ

ต่างกันกับคนอื่น ๆ ของกลุ่มไร้ปรานีสำหรับหมีล่ำ นั้นชอบที่จะปะทะกับคู่ศัตรูกันแบบแลกกัน รับการโจมตีใส่ของฝ่ายตรงข้ามกันตรง ๆ ถึงจะสะใจในความเป็นชาย！

“แปลงแหลก！”

ในขณะที่กองกำลังคริสตจักรเข้ามาห่างตัวเขาไม่ถึงห้าสิบเมตรนั้น หมีล่ำ ออกหมัดในฉับพลัน ทุบใส่หน้าอกของตัวเองอย่างโหดดุ คำรามออกไปเสียงลั่น

ติดตามมาด้วยร่างกายของหมีล่ำ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง รอยสักตามตัวดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมา เข้มด้วยสีแดงเลือด ทำให้ตัวเขาดูเป็นตัวประหลาดอย่างพิสดาร

ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือที่ท่อนแขน ดูบวมเปล่งใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว เหมือนลูกตุ้มเหล็กขนาดยักษ์ป้องปิดอยู่ข้างหน้าหว่างอก

แขนทั้งซ้ายขวาหน้าข้างหนึ่งหลังข้างหนึ่งกันอยู่ข้างหน้า นัยน์ตาสาดส่องประกายร้อนแรง