หลังจากที่ส่งเหลียงเหวินเห้าเย่เทียนก็กลับมาที่ห้อง
เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้ เย่เทียนก็ไม่มีอารมณ์ทำอะไรกับเฉินหวั่นชิงแล้ว บวกกับการที่บรรลุถึงแดนพลังผนึกจินตันอย่างกะทันหัน จึงควรทำความเข้าใจกับมันก่อนรอบหนึ่ง
ตอนนี้ภายในตานเถียนของเขาได้มีลูกกลอนสีทองเม็ดหนึ่งที่หลอมรวมจากพลังชี่แท้
จากแดนพลังผนึกจินตันที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์หวง เมื่อบรรลุถึงขั้นนี้เย่เทียนก็มีพลังมากพอที่จะทำได้แทบทุกอย่างแล้ว
แต่น่าเสียดายที่เขาทำไม่ได้
ไม่ใช่ว่าฝีมือไม่ถึง แต่เป็นเพราะพลังชี่แท้ในตัวมีไม่มากพอ!
ถ้าไม่มีพลังชี่แท้ ต่อให้แดนจะสูงสักแค่ไหน เย่เทียนก็ไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องแดน เย่เทียนในตอนนี้ก็สามารถหัวเราะอย่างภาคภูมิไปทั่วแผ่นดินแล้ว
คิดว่านอกจากคนที่ยังไม่พบหน้าแต่กลับลึกลับเป็นพิเศษอย่างหย่งเย่แล้ว ก็ไม่มีใครมีแดนที่สูงไปกว่าเขาอีกแล้ว!
มันเป็นแค่การคาดเดา แต่พอบรรลุถึงแดนพลังผนึกจินตันแล้ว เย่เทียนก็มีเหตุผลมากพอที่จะสงสัยว่าหย่งเย่ที่ลึกลับนั่นอาจจะซ่อนตัวอยู่ในโลกเล็กๆ สักใบเพื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกภายนอกก็ได้
เพราะยิ่งแดนสูงมากขึ้นเท่าไหร่พลังงานที่ใช้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การที่หย่งเย่ไม่ลงมือด้วยตนเองก็อาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้
หลังจากที่ฝึกคัมภีร์หวงอย่างตั้งใจไปรอบหนึ่ง ความรู้สึกของเย่เทียนก็ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภายใต้การสนับสนุนของวิชาหลอมหยกกลั่นทองคำ เย่เทียนรู้สึกราวกับร่างกายของตนถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกรอบ ถึงขั้นที่เรียกว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเจือปนอยู่เลย
พูดถึงเรื่องความกระจ่างใสของผิวพรรณ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องอิจฉาจนแทบบ้า
ถ้าเขาไปเป็นนายแบบ ไม่ว่าบริษัทเครื่องสำอางไหนก็ต้องยอมทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อจ้างเขาอย่างแน่นอน! มันสมบูรณ์แบบมาก มันแทบไม่ต้องแต่งเติมอะไรอีก ลำพังแค่สภาพผิวก็เป็นจุดขายที่ดีที่สุดแล้ว!
“ดูเหมือนว่าเราก็สามารถหากินด้วยหน้าตาได้นะเนี่ย!”
เย่เทียนบีบๆ ที่ผิวของตัวเอง ยืนอยู่หน้ากระจกแล้วพูดอย่างน่าหมั่นไส้ออกมาคำหนึ่ง
แต่พอเขาเปิดประตูออกกลับต้องตกใจจนสะดุ้ง
“คุณออกมาแล้วเหรอคะ?” เฉินหวั่นชิงจ้องเขาอย่างกับเห็นผี จากนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“นี่คุณใช้วิธีอะไรดูแลผิวเนี่ย!”
ตามคาด จุดสนใจของผู้หญิงมันช่างแตกต่างออกไปจริงๆ!
หลังจากได้ฟังที่เฉินหวั่นชิงพูดเย่เทียนถึงได้เข้าใจ ที่แท้ตัวเขาพักไปถึงสองวัยเต็มๆ!
ถึงว่าทำไมพวกยอดฝีมือพวกนั้นสามารถเก็บตัวฝึกตนทีหนึ่งเป็นสิบยี่สิบปี! ที่แท้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยาก แต่เป็นเพราะตอนที่ฝึกตนมันรับรู้ถึงการไหลของเวลาไม่ได้เลยต่างหาก!
“เยว่หรูเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี!” เฉินหวั่นชิงตอบมาคำหนึ่ง จากนั้นก็ถามมาอย่างไม่จบไม่สิ้น
“คุณยังไม่ได้ตอบเลยนะว่าคุณดูแลผิวพรรณยังไง! ฉันจะกลายเป็นยัยแก่อยู่แล้ว คุณจะทิ้งฉันไปรึเปล่า?”
เฉินหวั่นชิงจ้องมองเย่เทียนด้วยความหงุดหงิด
เย่เทียนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ใครกล้าหาว่าเฉินหวั่นชิงเป็นยัยแก่กัน? ต่อให้เธอจะทำงานอย่างหนัก แต่เฉินหวั่นชิงก็ใช้เครื่องสำอางที่แพงที่สุดใบหน้าของเธอจึงยังดูเหมือนสาวสิบแปดอยู่เลย!
แต่สำหรับผู้หญิงแล้วยังไงก็ให้ความสำคัญกับหน้าตาของตัวเองอย่างลึกซึ้ง
เย่เทียนขำออกมาทีหนึ่ง “ตอนนี้มีเวลาพอดี งั้นผมจะสอนวิธีดูแลให้คุณแล้วกัน!”
พูดจบเย่เทียนก็โน้มหัวลงไปยันหัวของเฉินหวั่นชิง จากนั้นก็ลากเธอเข้าไปในห้อง
สิบนาทีหลังจากนั้น เฉินหวั่นชิงที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วถลึงตาใส่เย่เทียนอย่างไม่พอใจ
เย่เทียนก็ไม่ได้โลภ
“นั่งขัดสมาธิ ตอนนี้ผมจะสอนวิชายุทธ์ให้คุณอันหนึ่ง หลังจากที่ฝึกจะทำให้ผิวพรรณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!”
“จริงเหรอคะ? ยากมั้ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่