ในค่ำคืนที่มืดมิด เย่เทียนขึ้นไปยังเครื่องที่จะบินไปถ่ากัน
เฉินหวั่นชิงเตรียมการได้รอบคอบมาก จองที่นั่งบนชั้นธุรกิจให้กับเขา พื้นที่ที่กว้างขวางทำให้เขาสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ภายใต้การบริการของแอร์โอสเตสเย่เทียนได้เก็บกระเป๋าของตัวเองจนเรียบร้อย
“คุณผู้ชายนั่งให้สบายนะคะ ถ้ามีอะไรให้กดปุ่มเรียกฉันได้เลยค่ะ!”
น้ำเสียงที่หวานแหววของแอร์โฮสเตสทำให้เย่เทียนต้องพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม ถ้าเป็นเมื่อก่อนเย่เทียนอาจจะอยากพูดแซวเธอบ้าง แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ไม่มีอารมณ์ไปทำจริงๆ
จากข้อมูลที่เขารู้เกี่ยวกับส่วนลึกของทะเลทรายถ่ากันในตอนนี้ มันทำให้เขาใจเย็นไม่ได้จริงๆ
บนเครื่องค่อยๆ มีคนทยอยขึ้นมา หนึ่งในนั้นมีกลุ่มคนที่เห็นก็รู้เลยว่าเป็นพวกเศรษฐีหน้าใหม่ คนที่เป็นหัวหน้าใส่แหวนทองอันใหญ่ไว้สามวง คนอื่นๆ ที่เหลือก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเท่าไหร่
พวกเขาพูดคุยกันเสียงดัง เหมือนไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่นแม้แต่น้อย
“หึหึ ครั้งนี้พี่เมิ่งขาดทุนแย่เลย เดี๋ยวลงเครื่องไปจะพาพี่เมิ่งไปสนุกให้เต็มที่เลย!”
“คิดไว้แล้วว่าเหล่าหลี่ต้องมีลู่ทาง ถึงตอนนั้นจะมางกไม่ได้นะ! ผมได้ยินมาว่าคุณได้สาวๆ มาเยอะเลยนี่?”
“หึหึ! ไม่ต้องห่วง รับรองว่าเป็นมือหนึ่งแน่นอน!”
การสนทนาแบบนี้ค่อนข้างน่ารำคาญ เย่เทียนขมวดคิ้ว จากนั้นก็เอาที่อุดหูขึ้นมาใส่
แอร์โฮสเตสถูกฝึกฝนอาชีพมาเป็นอย่างดี อดทนต่อคำพูดที่สกปรกของคนพวกนี้จนเครื่องขึ้นบิน
หลังจากความรู้สึกที่เหมือนถูกผลักอย่างแรง ในที่สุดเครื่องบินก็บินอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคง
และไฟในห้องโดยสารก็ถูกหรี่ลง
“พวกคุณนี่มันยังไง? จะมาสักสองตามมั้ย?”
“พี่เมิ่งอยากเหรอ? เล่นเท่าไหร่ดี?”
เศรษฐีหน้าใหม่พวกนั้นเริ่มตะโกนคุยกันอีกครั้ง พอแอร์โฮสเตสเห็นท่าจึงรีบเข้ามาห้าม
“คุณคะ ตอนนี้เป็นเวลาพัก กรุณาอยู่ในความสงบได้มั้ยคะ?”
“ได้กับผีสิ! มันก็แค่เครื่องบินเน่าๆ ลำเดียวไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวกูจะซื้อลำหนึ่งให้มึงมาบริการเลย!” เหล่าเมิ้งถลึงตาแล้วเหวี่ยงมือใหญ่ๆ ตบไปที่หน้าของแอร์คนนั้น
เย่เทียนเกร็งตัว แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เข้ามาหยุดมือของ เหล่าเมิ้งเอสไว้
เย่เทียนยิ้มออกมาที่มุมปาก น่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ
“ไอ้บัดซบจากไหนเนี่ย! รีบปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นหลังลงเครื่องฉันจะจัดการแก!”
“ชิ! หน้าอัปลักษณ์อย่างแก คู่ควรเหรอ?”
ชายหนุ่มพูดสวนกลับไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกับสีหน้าที่ดูถูก
“นี่แกอยากตายนักใช่มั้ย!” สีหน้าของเหล่าเมิ้งเปลี่ยนไป อาศัยร่างกายที่ใหญ่โตกว่าจึงได้เหวี่ยงแขนไป
แต่ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนทั่วไป ต่อให้เหล่าเมิ้งจะหน้าแดงแล้วก็ยังไม่สามารถชักมือกลับไปได้ มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“นี่พวกแกตาบอดรึไง! รีบมาจัดการมันสิ!”
เหล่าเมิ้งที่เหมือนเศรษฐีหน้าใหม่ไม่มีทางมาคนเดียวอยู่แล้ว คนพวกนี้พาบอดี้การ์ดมาด้วยสี่ห้าคน พูดได้เลยว่านอกจากเย่เทียนกับชายหนุ่มคนนั้นแล้ว ห้องโดยสารชั้นธุรกิจได้ถูกพวกเขาปิดล้อมแล้วจริงๆ!
“กล้าทำเจ้านายขอเรา? แกคงไม่อยากอยู่ต่อแล้วสินะ!”
“ไอ้หน้าโง่! อ่านนิยายต่อสู้เยอะไปแล้วมั้ง เลยอยากเล่นเป็นฮีโร่ใช่มั้ย? อย่างแกนะเหรอ?”
พวกบอดี้การ์ดด่าทอพร้อมพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม
มีเงินก็ทำได้ทุกอย่าง ถึงเหล่าเมิ้งจะทำตัวน่ารำคาญ แต่สายตาถือว่าใช้ได้ บอดี้การ์ดที่เขาจ้างมีพอมีฝีมืออยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่