กลับถึงเมืองเจียงหนัน เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทิวทัศน์ในทะเลทรายถ่ากันมีความโดดเดี่ยว มีความกว้างขวาง และมีความภาคภูมิใจ แต่ว่าไม่มีสาวงามจิตใจดีเหมือนในเจียงหนันแบบนี้แน่นอน
สายลมที่อบอุ่นพัดมาบนใบหน้า ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
ได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่แตกต่างก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่พอย้อนหลังกลับไปพึ่งค้นพบว่า ความรู้สึกของบ้านไม่มีทิวทัศน์ใดๆที่สามารถแทนที่ได้
บางทีอาจเป็นเพราะแดนที่มั่นคงมากขึ้น อารมณ์เย่เทียนก็เริ่มกลายเป็นคนอ่อนไหว
คนมารับที่สนามบินด้วยตัวเองคือเหลียงเหวินเห้า
แม้ว่าตอนหลังตระกูลเหลียงได้ออกจากเมืองเจียงหนัน แต่ภายในเมืองเอก เหลียงเหวินเห้าก็ยังคงเป็นผู้มีอิทธิพล และแม้แต่ครอบครัวเล็กๆในเมืองหลวงเจอหน้าเขาก็ยังต้องทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่เคารพ
เป็นไปได้ไงที่จะมีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นต่อหน้า
“คุณเหลียง ให้ท่านมารับ เกรงใจจริงๆ!” เฉินหวั่นชิงยื่นมือออกมาจับมือกับเหลียงเหวินเห้าด้วยรอยยิ้ม
เหลียงเหวินเห้ามองไปที่เย่เทียนด้วยสายตาที่คาดหวัง
“ภารกิจที่ไปทำสำเร็จเรียบร้อย!”
ด้วยคำพูดนี้ เหลียงเหวินเห้าถอนหายใจด้วยความโล่งอกราวกับว่าได้ปล่อยวางเรื่องที่หนักใจออกไป “ดี! ฮ่าฮ่า! แบบนี้ดีมาก!”
ตลอดทางภายใต้การนำทางของตระกูลเหลียงได้กลับไปที่วิลล่าของเฉินหวั่นชิง
เมื่อเทียบกับความเงียบเหงาก่อนที่เย่เทียนจะจากไป ตอนนี้มีชีวิตชีวามากกว่าเยอะ
“เสี่ยวเทียน!”
เห็นได้ชัดว่าเฉินชังไห่ดูแก่ขึ้นมาก และผมของเขาก็เริ่มหงอกขึ้น แต่สภาพจิตใจของเขายังคงดีมาก หลังจากได้เห็นเย่เทียนแล้วสีหน้าของเขายิ่งมีความสุขมากขึ้น
ข่าวการตายแล้วฟื้นคืนชีพของเย่เทียนถูกเปิดเผย ปฏิกิริยาของตระกูลเฉินสามารถจินตนาการได้
เพียงแต่จากนั้นเย่เทียนตรงไปที่ทะเลทรายถ่ากัน คนของตระกูลเฉินไม่ได้มีโอกาสติดต่อเขามากนัก แต่เมื่อดูจากวันนี้ แน่นอน เย่เทียนยังไม่ตายจริงๆ!
เพียงแต่ความสุขนั้นแตกต่างกับท่านปู่ ในตระกูลเฉินมีหลายคนที่มีสีหน้าแปลกๆ
อันที่จริงนี่มันก็เข้าใจได้ไม่ยาก ในตอนแรกบริษัทแซ่เฉินได้ก่อความวุ่นวายขนาดนั้น ผู้คนจำนวนมากเบียดเข้ามาก็ยังไม่เหมือนคนเหล่านี้ที่คอยเติมเชื้อไฟให้เรื่องมันใหญ่โต คาดว่าพวกเขาต้องการจะทำลายเฉินหวั่นชิง เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ส่วนหนึ่งของบริษัทแซ่เฉินแค่นั้นเอง
เมื่อก่อนพวกเขาเป็นยังไง เย่เทียนไม่อยากไปสนใจรื้อฟื้น แต่ถ้าหากวันหน้ายังคิดจะมาเล่นลูกไม้อะไรอีก ก็อย่ามาโทษที่เขาโหดเหี้ยมอำมหิตแล้วกัน
“ท่านปู่ ท่านสุขภาพแข็งแรงมาก!”
สำหรับผู้สูงอายุ คำอวยพรมากมายก็ไม่ดีเท่าคำว่าสุขภาพแข็งแรง
เฉินชังไห่ยิ้มและพยักหน้า “หวั่นชิงบอกว่ายากายภาพที่พวกคุณทำออกมาประสิทธิภาพดีเยี่ยม โชคดีที่มีมัน!”
“ไปเถอะ พวกเรารีบเข้าไปเร็ว คุณเหลียง ให้ท่านรอนานแล้ว!”
คนหนุ่มสาวของตระกูลเฉินจำนวนมากเห็นฉากนี้สีหน้าดูแย่มาก ไม่ได้เลย สำหรับเย่เทียนที่ท่านปู่จับมือถามไถ่ทุกข์สุข มีผู้มีอิทธิพลอย่างเหลียงเหวินเห้าเสริมอยู่ข้างๆ แล้วการปฏิบัติต่อพวกเขาล่ะ?
พวกเขาแม้แต่จะพูดแทรกก็ไม่มีสิทธิ์!
คนเราเทียบกันไม่ได้จริงๆนะ!
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังดูถูกเย่เทียนอยู่ดี ไม่มีอื่นใด ไม่ว่าเย่เทียนจะยอดเยี่ยมแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลเฉิน? ต่อให้ในอนาคตถ้าหากมีลูก ลูกก็ต้องแซ่เฉินอยู่ดี!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลายคนต่างมองหน้ากัน แสดงสีหน้าเย้ยหยันออกมา
คนที่มีจิตใจไม่ดีเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเย่เทียน และเฉินชังไห่ก็รู้ถึงความหนักเบาของเรื่องในวันนี้เช่นกัน “ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้วพวกนายจะทำอะไรก็ไปทำซะ! อย่ารบกวนแขก!"
ประโยคนี้สะเทือนใจจริงๆ
ผู้ที่มาทุกคนล้วนเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเฉิน ท่านปู่หมายความว่าไง? คนที่สมควรต้องไปควรจะเป็นเย่เทียนที่เป็นแซ่อื่นไม่ใช่เหรอ?
แต่ท่านปู่ก็ได้เอ่ยปากพูดแล้ว บอดี้การ์ดของตระกูลเฉินก็ก้าวไปข้างหน้า เห็นได้ชัดว่ากำลังขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าไป
“แม่งเอ้ย! มีอะไรน่าอวดเนี่ย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่