ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1237

ทั้งสองฝ่ายพอพูดก็ตกลงกันได้ทันที เย่เทียนมีโอกาสเรียนวิชาค่ายกลโดยธรรมชาติ ส่วนนักพรตเหอก็สามารถลองความปรารถนาที่มีมาหลายปีได้ด้วย

“ถึงตอนนั้นต้องการอะไรขอเพียงบอกกับผมมาก็พอ!” เฝิงเจิ้นเหอย่อมไม่ปล่อยโอกาสผูกมิตรกับเย่เทียนหลุดลอยไป

ในความเป็นจริงเย่เทียนสามารถสร้างสถานที่ฝึกฝนอยู่ที่เมืองเจียงหนันได้ก็เป็นส่วนที่เป็นประโยชน์ของเขามากที่สุดแล้ว

มีเย่เทียนอยู่ด้านข้าง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเขาล้วนสามารถเข้าใกล้บางคนเพื่อแย่งผลประโยชน์บางอย่างมาก่อนได้ไม่ใช่เหรอ?

นี่เป็นเรื่องดีที่คนนอกแม้คิดจนสมองแทบแตกก็ชิงมาไม่ได้!

“ใช่แล้ว ผมได้ยินว่าเขาเสี่ยวหมางที่บริษัทแซ่เฉินซื้อเหมือนจะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ด้วยมั้ง! เอาแบบนี้ เรื่องของเขาเสี่ยวหมางให้ผมจัดการ คุณกับนักพรตเหอแค่เพียงไปสำรวจสถานที่จริงก็พอ!”

เฝิงเจิ้นเหอไม่ถือสาสร้างหนี้บุญคุณให้ใหญ่กว่าเดิมหน่อย

พูดอย่างตรงไปตรงมาเขาเสี่ยวหมางก็คือภูเขาร้างที่ทัศนียภาพค่อนข้างดีเท่านั้น ด้านในเดิมทีไม่มีที่พักอาศัยของใคร ส่วนเขาที่เป็นนายพลแบบนี้ออกปาก พื้นที่นี้จะจัดการอย่างไรใครยังกล้าขัดขวางอีกเหรอ!

แต่ว่าเฝิงเจิ้นเหออาจจะคิดมากไปแล้ว ด้วยบารมีของเย่เทียนตอนนี้ เดาว่าคงไม่มีใครก่อกลอุบายชั่วร้ายที่ด้านบนหรอก

นักพรตเหอมีนิสัยใจร้อน หลังจากทั้งสองฝ่ายพูดคุยสักพักก็มาถึงเขาเสี่ยวหมางภายใต้การนำของเฝิงเจิ้นเหอ

“เอ๋? เป็นสถานที่ที่ดีตามคาดเลย!”

นักพรตเหอพอลงรถก็ร้องแบบตกใจ

ภูเขาตรงหน้าไม่ได้สูงชันมาก ให้ความรู้สึกที่มั่นคงอย่างมาก สิ่งที่มีค่ามากคือทัศนียภาพของที่นี่งดงามอย่างยิ่ง ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่ก็ไม่ขัดขวางผู้คนจินตนาการภาพอันงดงามเมื่อยามแสงอาทิตย์สาดส่องทั่วฟ้าออกมาได้

“ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ภูเขาใหญ่มีชื่อเสียงอะไร แต่กลับมีชี่ทิพย์เข้มข้นแฝงอยู่ในนั้น ไม่อย่างนั้นต้นไม้ของที่นี่คงไม่เติบโตแน่นทึบและเขียวขจีเช่นนี้ได้!”

ตัวนักพรตเหอก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านดูฮวงจุ้ย ยิ่งเดินเข้าส่วนลึกของเขาเสี่ยวหมางก็ยิ่งพึงพอใจ

“ก็จริง ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ได้รับชื่อเรียกว่าเขาเสี่ยวหมางแล้ว!”

เฝิงเจิ้นเหอเดินมาด้านข้างก้อนหินภูเขาบริเวณหนึ่ง

หินก้อนนี้สูงโดดเด่นพอสมควร รอบด้านล้วนเป็นตระไคร่น้ำ มีเพียงแค่หินใหญ่ก้อนนี้ที่เกลี้ยงเกลา สะดุดตาอย่างมาก

“เอ๋? หินก้อนนี้กลับน่าสนใจอยู่บ้าง!” เฝิงเจิ้นเหอถือโอกาสยกเท้าเหยียบด้านบนก้อนหิน รำพึงรำพันอย่างประหลาดใจ

“ไม่เลว! หินก้อนนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในแกนหลักวิชาค่ายกลของเขาเสี่ยวหมาง!” นักพรตเหอเดินอ้อมไปรอบหนึ่ง และมองสภาพพื้นที่โดยรอบอีก ลูบหนวดเคราพูดออกมา

“แกนหลักวิชาค่ายกล?”

“ถูก! นี่ก็คือแกนหลักวิชาค่ายกลโดยธรรมชาติทั้งหมด ภูเขาและแม่น้ำล้วนมีฮวงจุ้ยวนเวียนอยู่ในนั้น”

“ถ้าใช้คำพูดของพวกเรานักบู๊ก็คือเป็นสถานที่ที่มีชี่ทิพย์รวมตัว แน่นอนว่าชี่ทิพย์นี้มีการแบ่งออกเป็นหลายประเภท”

“เพียงพูดถึงหินก้อนนี้สามารถใช้คำว่าไม่เหมือนกับอันอื่นโดยสิ้นเชิงมาบรรยายได้ ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่มีหยางรุนแรงในฮวงจุ้ย!” นักพรตเหอมองทางที่ไกลออกไปแล้ว จากนั้นชี้ไปยังป่าทึบอันไกลโพ้นแล้วพูดขึ้น

“ก็ที่เรียกกันว่าอันหนึ่งหยินอันหนึ่งหยาง หยินหยางรวมกัน ถึงอ่อนโยนพอดี ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ สถานที่ที่หยางรุนแรงน่าจะอยู่ตรงนั้น!”

เห็นลักษณะท่าทางของนักพรตเหอพูดจาเด็ดขาดเช่นนี้ เย่เทียนจึงอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง

เขาไม่ถือว่าอ่อนไหวต่อฮวงจุ้ยที่พูดถึงกัน แต่หลังได้ยินนักพรตเหอตัดสินเช่นนี้ เขาก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ ตอนนี้กำลังเดินตามด้านหลังของนักพรตเหอไปทางส่วนลึกของป่าทึบ

ความจริงพิสูจน์แล้วว่า นักพรตเหอเป็นคนที่มีความสามารถพอสมควร

ตอนที่พวกเขาเข้าสู่ป่าทึบ ความรู้สึกหนาวเหน็บก็ล้อมรอบพวกเขาไว้

“น่าแปลก สถานที่แห่งนี้ยังแปลกประหลาดมากพอจริงๆ!” เฝิงเจิ้นเหอสงสัยอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นถึงผู้ยอดฝีมือขั้นฟ้า คาดไม่ถึงว่าพื้นที่แห่งหนึ่งจะสร้างผลกระทบต่อเขาได้

นี่คือเรื่องที่เขานึกไม่ถึงเลย

“เอาล่ะ! ก็คือที่นี่แหละ!”

นักพรตเหอชี้ตรงตาน้ำพุแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักแล้วพูดขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่