แม้ว่าจะถูกกลุ่มแมลงวันรบกวนอารมณ์ แต่เย่เทียนก็ยังพอใจมากหลังจากได้เข้ามาเมืองอิงเฉิง
ที่นี่เป็นพื้นที่ที่พิเศษและช่วงโชติมากมีความหลากหลายของอาหารทำให้ผู้คนไม่ทันได้ชื่นชม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีหุบเขาหนอนอยู่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดความสนใจของผู้คนมาก ซึ่งแน่นอนก็ได้สร้างการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมใหม่ๆและหลากหลายเชื้อชาติ
“เถ่าแก่ ! เอาอีกชาม!”
อาจเป็นเพราะอารมณ์ดี เย่เทียนเจริญอาหารมาก ทั้งๆที่กินไปแล้ว3ชาม แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกไม่อิ่ม
“ได้เลย!”
เถ่าแก่ก็ไม่ได้แปลกใจนัก ในเมื่อที่นี่เป็นที่รวมตัวของนักบู๊ผู้ใหญ่ ซึ่งปริมาณอาหารการกินของนักบู๊นั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนคนเมืองอิงเฉิงก็เคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว
ในขณะที่เย่เทียนกำลังรอหมี่อยู่ ชายหนุ่มที่นั่งโต๊ะหลังเขากำลังเอื้อมมือไปที่กระเป๋าเป้ของหญิงสาวชนบทที่อยู่ไม่ไกล
หญิงชรามีท่าทีระมัดระวังเล็กน้อย ซึ่งเห็นได้จากจุดที่ว่าเธอกำกระเป๋าเป้ของเธอไว้แน่น น่าจะมีของมีค่าอยู่ในนั้น แต่ถ้ามองตามสัญชาตญาณ น่าจะเป็นเงินสด
เย่เทียนเย็นมีสีหน้าเย็นชา
ดูเหมือนว่าโชคของตัวเองก็ไม่ค่อยดีนัก ในช่วงเวลาที่เขาอารมณ์ดีที่สุดก็จะเจอเรื่องที่ทำให้โมโห
ขณะนี้ ชายหนุ่มได้กรีดกระเป๋าเป้ของหญิงชราออกแล้ว ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะยื่นนิ้วเข้าไป ตะเกียบข้างหนึ่งก็ตีลงที่มือของเขา
“โอ๊ย!”
พร้อมกับความเจ็บปวด ไม่ทันตั้งตัวฝ่ามือของเขาก็กระตุ้นให้หญิงชรารู้ตัว
“แกทำอะไร!”
“เป็นหนุ่มเป็นแน่นไม่รักดี ถึงกลับเป็นขโมย? จับหัวขโมยเร็ว!”
สีหน้าของชายหนุ่มซีดเผือดจากนั้นก็แสดงความโกรธออกมา “หุบปากเดี๋ยวนี้! ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม?”
พูดจบ เขาก็วางตราสัญลักษณ์ลงบนโต๊ะโดยตรง
เถ่าแก่ก็รีบเดินมา “เฮียเติง ดูท่านสินี่คือ……”
“อย่ามาพูดไร้สาระกับฉัน!” เฮียเติงหยิ่งทะนงอย่างมาก ผลักเถ่าแก่ออกไปโดยตรง จากนั้นเดินตรงไปหาเย่เทียน
เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนเก้าอี้ของเย่เทียน มองจากด้านบนลงมาแล้วหัวเราะเยาะเย้ย “ไอ้หนุ่ม แกนี่ตาแหลมนี่ ถึงต้องมายุ่งเรื่อง?”
ระหว่างพูด เขายังวางมือบนไหล่ของเย่เทียน ท่าทางที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาหยิ่งยโสสุดขีด ผู้คนที่อยู่ข้างๆก็รีบหลบสายตา แทบไม่กล้าเข้าไปยุ่งเรื่อง
ในทางกลับกันเถ่าแก่คนนั้น อาจเห็นว่าเย่เทียนเป็นคนต่างถิ่น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ก้าวไปข้างหน้า
“เฮียเติง ท่านดูสินี่เป็นแค่ความเข้าใจผิด หรือไม่ก็……”
“เข้าใจผิดเหรอ? มาทำให้กูเสียเวลา เขาคู่ควรเหรอ?” หลี่เติงเบิกตากว้าง จากนั้นก็ยืดตัวตรง และหันกลับไปกำลังจะตบเถ้าแก่
และในขณะนี้ เย่เทียนก็ยืนขึ้น
บังเอิญเก้าอี้ในร้านอาหารล้วนเป็นม้านั่งยาวที่มีลักษณะเฉพาะ เมื่อเย่เทียนยืนขึ้นแต่ หลี่เติงกลับเหยียบที่ขอบเก้าอี้ไว้ จะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดก็รู้
“โอ๊ย!”
ฝ่ามือของหลี่เติงยังไม่ทันตบหน้าเถ่าแก่ แต่เขากลับโดนก่อน เก้าอี้ยาวตัวนั้นกระแทกเข้าที่สันจมูกของเขาพอดี
ทันใดนั้นความเจ็บปวดทำให้เขาน้ำตาอาบแก้ม
“กลางวันแสกๆยังกล้าอวดดีแบบนี้ ดูน่าสนใจดี!”
หลังจากที่เย่เทียนพูดจบก็เหลือบมองไปรอบๆอย่างมีความหมายลึกซึ้ง ในร้านถึงกลับมีนักบู๊อยู่สี่คน แต่พวกเขากลับนั่งมองดูหลี่เติงหยิ่งผยองเฉยๆ ในชีวิตนี้ความสำเร็จของคนเหล่านี้ก็ควรจบลงเพียงแค่นี้
“โอ้ย!” เถ้าแก่ตบต้นขาตัวเอง “ไอ้หนุ่ม แกรีบเอาเท้าออกสิ ทำไมถึงเหยียบขึ้นไปล่ะ!”
“เจ้าหนุ่ม นี่แกกำลังหาที่ตายชัดๆ ฉันจะบอกแกนะ วันนี้แกตายแน่ๆ! ไม่สืบให้ดีๆว่าฉันหลี่เติงเป็นใคร! แก๊งอันธพาลดำรู้จักไหม? หากวันนี้แกสามารถออกจากเมืองอิงเฉิง ได้อย่างปลอดภัย ฉันจะยอมให้หลี่เติงชื่อนี้เขียนชื่อแบบกลับหัว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่