“ตุบ!”
เฉิงชิ่งกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง สลบไปอย่างน่ายกย่อง
หลังจากเย่เทียนได้ยินเสียงดังมาก็รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนานาโกะอาศัยฤทธิ์ยาไว้อยู่ถึงเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ ตกลงมาด้วยความสูงระดับนี้ ถ้าเขาไม่ลงมือละก็โดยพื้นฐานก็คือตายแน่
แยกแยะตำแหน่งจากการฟังเสียง ลมแรงระลอกหนึ่งพัดมา ชั่วพริบตาชี่กระบี่กลายเป็นของสิ่งของที่อ่อนนุ่ม พันส่วนเอวของนานาโกะไปโดยตรง พอออกแรงดึง ก็โยนเธอมาข้างกายของตนเองทันที
จากนั้นนั่งยองลงแล้วผ่อนแรง เป็นปฏิบัติการแบบที่เมื่อเงื่อนไขครบถ้วนความสำเร็จก็ตามมา
“ฮู้!”
เย่เทียนถอนหายใจยาวๆ ถึงแม้นานาโกะในอ้อมอกจะอยู่ในความมืดมิดจนมองใบหน้าของเย่เทียนไม่ชัดเจน แต่พอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แผ่ออกมาจากบนตัวเย่เทียนยังอดสีหน้าแดงไม่ได้
“คุณไม่เป็นอะไรนะ!”
“อ่อ ไม่เป็นไร!” นานาโกะรู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นเร็วขึ้น จากนั้นรีบกระโดดลงมาจากในอ้อมอกของเย่เทียนทันที การกระทำที่รุนแรงนี้ทำให้ร่างกายเธอปรับตัวไม่ทันเท่าไร พอโงนเงนเกือบจะหกล้มอีกครั้ง
แต่ดีที่ฐานรากยังอยู่ดี ฝืนอาศัยความรู้สึกสมดุลของตนเองดึงกลับมาแล้ว
“ปึง!”
เสียงดังทีหนึ่งลอยมา ในที่สุดถ้ำข้างล่างอันมืดมิดได้เผยออกมาด้านหน้าพวกเขาภายใต้การส่องสว่างของแสงไฟ
“โอ๊ย!”
เฉิงชิ่งลุกขึ้นมาด้วยตนเองเช่นกัน มองเย่เทียนยื่นฝ่ามือของตนเองออกมาอย่างอ่อนแรง
เย่เทียนถอนหายใจทีหนึ่ง โยนขวดยาเข้าไปแล้ว “คุณชายใหญ่ของตระกูลเฉิงอย่างนายนี่ไม่มียาช่วยชีวิตสักหน่อยเหรอ?”
“มีอยู่แล้วสิ!”
เฉิงชิ่งเก็บซ่อนขวดยาเอาไว้ในเสื้อทันที “นายบอกแล้วว่ามันคือยาช่วยชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นนายเองก็เป็นนักกลั่นยาด้วย ใช่ว่านายจะไม่รู้ว่าของด้านในนั้นแพงมากแค่ไหน ประหยัดได้สักเม็ดก็ประหยัดไว้ดีกว่า!”
เย่เทียนชายตามองแล้วเบ้ปากไม่พูดอะไร
ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือขั้นบันไดหิน สองข้างของขั้นบันไดหินเป็นคบเพลิงแต่ละอัน
และไม่รู้ว่าเชื้อเพลิงเป็นวัสดุอะไร ถึงแม้อยู่ในพื้นที่ปิดมิดชิดแบบนี้กลับยังคงสามารถจุดไฟติด แต่ดูจากลักษณะที่เปลวไฟลุกโชนไม่หยุด น่าจะเป็นเพราะโดยรอบมีรูเล็กที่อากาศเคลื่อนผ่านไปได้อยู่
เดินขึ้นไปตามขั้นบันได ด้านหน้าที่นั่งทำจากหินวางกล่องผ้าดิ้นอันหนึ่งและหนังสือกองหนึ่งไว้
“ดูแล้วพวกเราหาสมบัติเจอกันจริงแล้วสิ! โถๆ ครั้งนี้ไม่แน่ว่าจะร่ำรวยจริงๆ แล้ว!”
ในสายตาเฉิงชิ่งปรากฏความยินดีขึ้นแวบหนึ่ง ยาที่เย่เทียนมอบให้ล้วนเป็นยาชั้นดี ภายใต้การกระตุ้นของยา ตอนนี้อาการบาดเจ็บที่ส่วนไหล่ของเขาไม่เป็นอะไรมากแล้ว ขอเพียงต้องพักผ่อนอย่างสงบสักช่วงเวลาหนึ่งก็พอ
“เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ !” นานาโกะก็รู้สึกตื่นตะลึงเช่นกัน
สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แบบนี้เดาว่ามีเพียงอยู่ที่นี่ถึงพบเห็นได้
เดินขึ้นขั้นบันไดไป ไม่นานสองข้างของขั้นบันไดหินก็ปรากฏภาพวาดฝาผนัง
“เป็นภาพวาดฝาผนังที่งดงามมาก บรรยายเกี่ยวกับขั้นตอนบูชายัญส่วนหนึ่ง น่าแปลก ของพรรค์นี้เป็นสิ่งตกทอดของสำนักชิงหนังจริงเหรอ?” เฉิงชิ่งลูบคางของตนเองแล้ว มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วเปรียบเทียบกับเรื่องเล่าที่ตนเองเคยได้ยินมาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยแน่ใจอยู่บ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของสำนักชิงหนังดูไม่เหมือนจะเลือกใช้การบูชายัญวิธีแบบนี้เพื่อมากลั่นยาเทพหรอกมั้ง!
บูชายัญกิจกรรมแบบนี้กลับมีการถ่ายทอดต่อกันมา แต่ส่วนมากจะถูกคลุมด้วยสัญลักษณ์ชั่วร้ายแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของบูชาที่ใช้มาบูชายัญบางอย่างมันวิปริตมาก แม้กระทั่งมีมนุษย์ด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่รังเกียจของคนทั่วไป
พูดแบบทั่วไปคือ ใช้วิธีการบูชายัญถึงแม้ได้รับพลังมาแล้วก็จะถูกคิดว่าเป็นเวทมนตร์ปีศาจ
สถานการณ์แบบนี้ถึงแม้อยู่ในโลกบู๊โบราณที่สภาพเจริญรุ่งเรืองก็เป็นการมีอยู่ที่ทุกคนรังเกียจ หรือว่าตอนนั้นที่สำนักชิงหนังถูกทำลายจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?
เรื่องเกี่ยวกับสำนักชิงหนังส่วนใหญ่เป็นการเล่าบอกต่อกันมา การพูดเกินจริงภายในนี้มีมากแค่ไหนคิดดูก็รู้แล้ว
ไม่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ สาเหตุที่สำนักชิงหนังถูกฆ่าทิ้งทั้งหมดย่อมมีคนพากันพูดไปต่างๆ นานา
“ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด ที่นี่ก็คือสถานที่ใช้ไว้บูชายัญ ดูแล้วสำนักชิงหนังในตอนนั้นมีความลับอยู่มาก!”
เย่เทียนมองภาพวาดฝาผนังสองสามอัน เหตุการณ์บูชายัญด้านบนโหดร้ายทารุณอย่างมาก
การเตือนสติของเย่เทียนสุดท้ายก็สายไปบ้างแล้ว
พอชายหนุ่มโบกชุดคลุม พลังปราณสีดำโจมตีเข้าหน้าอกของเฉิงชิ่งโดยตรง
เฉิงชิ่งกระอักเลือดล้มกระเด็นกลับไป ก่อนจะถูกเย่เทียนดึงเอาไว้
“ไม่เป็นไร!”
เฉิงชิ่งสีหน้าซีดเซียวอยู่บ้าง เอาแขนเสื้อเช็ดเลือดตรงมุมปากอย่างแรงสักหน่อย จ้องชายหนุ่มที่นั่งหลังตรงคนนั้นแบบสายตาไม่กะพริบ
“โถๆ นึกไม่ถึงฉันหลิงหยุนไม่ได้ออกไปข้างนอกนานหลายปีขนาดนี้ คนข้างนอกห่วยถึงขั้นนี้เลย? ยังน่าอับอายจริงๆ นะ!”
หลิงหยุน?
ได้ยินคำเรียกตัวเองอันนี้ เฉิงชิ่งและเย่เทียนต่างอดตะลึงกันไม่ได้
หรือว่าเรื่องที่เล่าลือเกี่ยวกับสำนักชิงหนังจะเป็นเรื่องจริง? เพียงแค่สำนักชิงหนังนั้นล้วนเป็นประวัติศาสตร์ยาวนานแล้ว แม้ว่าหลิงหยุนมีตัวตนอยู่จริงจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
การฝึกวิชาสามารถเพิ่มอายุยืนยาวของคนได้จริง แต่ถ้าบอกว่าเพิ่มได้สูงจนถึงระดับนี้กลับยังไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ
เจ้าหมอนี่สรุปเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่!
“หลิงหยุน? คนคนนั้นของสำนักชิงหนังที่กลั่นยาเทพออกมา?”
“ดูแล้วยังมีคนจำฉันได้ด้วยสินะ!” ในสายตาหลิงหยุนปรากฏแววตาหวนคิดถึงขึ้นฉับพลัน แต่ไม่นานหน้าตาของเขาก็ดูดุร้ายขึ้นมา
“เพียงแต่เจ้าคนหนุ่มกลุ่มนี้อย่างพวกแกยังไม่มีมารยาทเอาเสียจริง! หรือไม่รู้ว่าคุยกับผู้ใหญ่ต้องใช้คำสุภาพเหรอ! ระยำจริงๆ!”
พลังปราณสีดำพุ่งออกมาจากในร่างกายของหลิงหยุน กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ลักษณะโหดร้ายสองตัว คลานอยู่ข้างหน้าเขาก่อนจะคำรามใส่สองสามคนนั้นขึ้นมา
“ไปให้บทเรียนพวกเขาสักหน่อยสิ ไม่มีคนปรากฏตัวมานานมากแล้ว แต่เอาถึงตายไม่ได้นะ!”
หลิงหยุนยกนิ้วมือขึ้นแล้ว จากนั้นสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นก็ลุกขึ้นเหมือนคนยืนแล้วร้องคำราม จากนั้นกรงเล็บอันแข็งแรงตบบนพื้นอย่างแรง เริ่มบุกโจมตีศัตรูมาทางพวกเขาโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...