เย่เทียนพบถึงความผิดปกติทันที สายตาของผู้ชายบ้ากามคนนั้นแทบจะไม่ปิบังใดๆเลย และคนรอบข้างก็หลบหลีกอย่างรู้กัน
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นจะต้องมีฐานะ อีกทั้งน่าจะเป็นผู้ที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“สวัสดีครับคุณหนูผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ผมคือบรรณาธิการของไดโตชา วาตานาเบ้ โคโนมิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”
ลุงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมเดินเข้ามาใกล้นานาโกะ แต่กลับถูกเย่เทียนขวางไว้
วาตานาเบ้ โคโนมิไม่ยอมลดละ ในทางกลับกันเขาเปิดเผยชื่อของตัวเองผ่ายเย่เทียน
ในไทโตชา ทุกคนในแวดวงคอสคุ้นเคยกับชื่อนี้ราวกับฟ้าร้องดังก้องหู และวาตานาเบ้ โคโนมิก็อาศัยชื่อเสียงของเขาหลอกล่อผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่อยากมีชื่อเสียง
บนโลกใบนี้ยังคงอยู่กับผลประโยชน์ เพื่อลาภยศเงินทอง ทำได้ทุกอย่าง
“ไสหัวไป!”
นานาโกะตอบกลับอย่างเย็นชา แล้วคว้าแขนของเย่เทียนเดินจากไป“เราไปดูตรงนั้นกันเถอะค่ะ!”
“ได้สิ!”
เย่เทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วกลอกตาใส่วาตานาเบ้ โคโนมิ แล้วเดินตามนานาโกะเข้าไป
สีหน้าของวาตานาเบ้ โคโนมิเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที“ไป!ฉันให้เวลาแกสิบนาทีหาข้อมูลของพวกเขาทั้งหมดมาให้ฉัน!”
สถานภาพทางสังคมของไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเปรียบเทียบได้ สมัยก่อนมีคนทำตัวเย่อหยิ่งปฏิเสธแบบนี้แหละ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนอยู่ดีไม่ใช่หรอ?
วาตานาเบ้ โคโนมิคุ้นเคยกับการทำเช่นนี้เป็นอย่างดี!
ผ่านไปไม่นาน ลูกน้องก็กลับมารายงานว่า“บรรณาธิการครับ เราตรวจสอบแล้วครับ แต่ทั้งสองคนนี้ไม่คุ้นหน้าเลย น่าจะเป็นคนใหม่ครับ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนจีนครับ”
“คนจีนงั้นหรอ?น่าสนใจจริงๆ!”
วาตายาเบ้ โคโนมิลูบคางของตัวเองไปมา“เรื่องนี้น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้วแหะ”
เขากลอกตาอยู่แวบหนึ่ง แล้วกวักมือเรียกลูกน้อง ซุบซิบข้างหูไม่กี่ประโยค
สายตาของลูกน้องของเขาเผยให้เห็นท่าทางรู้ทัน ผ่านไปไม่นานก็หายวับไปจากกลุ่มฝูงชน
เย่เทียนไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ แน่นอนว่านานาโกะเองก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน เธอให้ความใส่ใจกับเวลาที่อยู่ข้างกายของเย่เทียนมากกว่า
ทั้งสองค่อยๆก้าวเดินอย่างไม่ใส่ใจ เดินเล่นอยู่ภายในงานคอมมิค
“คุณทำอะไรน่ะ!”
จู่ๆก็มีเสียงข้างหน้าตำหนิดังลอดออกมา ใช้ภาษาจีนที่ชัดแจ๋ว
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้น เนื่องจากที่ไม่ใช่ประเทศจีน ประกอบกับเขาเห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นเห็นได้ชัดว่าจะถูกคนอื่นรังแกเอาได้
แน่นอนว่า การขัดขืนของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับความเห็นใจของคนอื่นๆ ในทางกลับกันบริเวณโดยรอบยังหลบหลีกออกไปด้วย และมีชายหนุ่มหลายคนล้อมรอบตัวเธอด้วยสีหน้าน่ากลัว
ชายหนุ่มผมเขียวกลุ่มคนหนึ่งในนั้นคว้าแขนของหญิงสาวทันที
“สาวน้อย รู้ไหมว่าของชิ้นนี้ราคาเท่าไร?เธอคิดจะจับก็จับได้เลยงั้นหรอ?ตอนนี้มันเสียหายไปแล้ว เธอจะต้องชดใช้เป็นสองเท่า!”
“ชดใช้?ทำไมฉันต้องชดใช้!ฉันยังไม่ได้แตะต้องด้วยซ้ำ!”
“เธอพูดว่าไม่ได้จับก็คือไม่ได้จับได้งั้นหรอ?ในนี่มีกล้องวงจรปิดนะ ขอแค่ไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง!”
ชายผมเขียวเผยให้เห็นรอยยิ้มบ้ากาม สิ่งนี้ทำให้หญิงสาวกดดันมากยิ่งขึ้น
ภายใต้ความวุ่นวายเธอมองเห็นเย่เทียน และไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหนสะบัดมือของชายผมเขียวออก แล้วยิ่งไปหาเย่เทียนทันที
“ช่วยฉันด้วยค่ะ!”
เย่เทียนขมวดคิ้ว และนานาโกะก็เลิกคิ้วตามเช่นกัน
เมื่ออยู่ห่างจากบ้าน มีเรื่องอะไรที่เย่เทียนพอจะช่วยได้แน่นอนว่าเขาไม่เคยปฏิเสธ เขารีบก้าวออกมาทันที
“คุณบอกว่าคุณผู้หญิงคนนี้ทำให้ทรัพย์สินของคุณเสียหาย คุณมีหลักฐานอะไรไหม?”
“ไอ้หนุ่ม!ฉันว่านายเลิกยุ่งเรื่องคนอื่นเถอะ!ที่นี่สิ่งที่ฉันพูดก็คือหลักฐาน!”
ชายผมเขียวมองเย่เทียนอย่างจองหอง จากนั้นเขาก็เขยิบเข้ามาใกล้“จำเอาไว้ บางเรื่องก็ไม่ใช่สิ่งที่แกจะยุ่งได้!ใช้โอกาสนี้ที่ฉันยังอารมณ์ดี ไสหัวไปซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่