“เย่เทียน บุคคลคนนี้คุณรู้จักเหรอ?”
เฝิงเจิ้นเหอก็พุ่งความสนใจไปที่หลี่ฮวนหยุน เพียงแต่ตอนนั้นหลังจากหลี่ฮวนหยุนได้ฝึกฝนวิชาปราณพิษก็เสียโฉม แต่สุดท้ายก็ซ่อมแซมใบหน้าราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขากลับแยกแยะไม่ออก
เย่เทียนยิ้มและพยักหน้า “หลี่ฮวนหยุน”
“คือเขา?”
เฝิงเจิ้นเหอเลิกคิ้ว
ในตอนนั้นหลังจากทำลายล้างตระกูลเจี่ยงไปแล้วไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยสนใจหลี่ฮวนหยุน แต่เจ้าหมอนี่หายตัวไปเลย คิดไม่ถึงว่าจะมาปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง
“ไม่นึกเลยว่าตอนนี้เขาจะเก่งกาจขนาดนี้” เฝิงเจิ้นเหอด้วยอารมณ์เศร้าใจ
“ในเมื่อเขามาแล้ว แน่นอนก็ต้องมีแนวคิดบางอย่าง ดังนั้นเฝิงเจิ้นเหอก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจ”
อันที่จริงวิชาปราณพิษเช่นนี้ตัวมันเองก็ไม่มีปัจจัยที่ไม่มั่นคง เฝิงเจิ้นเหอกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
นอกจากหลี่ฮวนหยุนแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเย่เทียน
บุคคลผู้นี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าที่ขาดรุ่งริ่ง และถือดาบยาวขึ้นสนิม อยู่บนเวทีมีสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก แม้ว่าจะถูกเยาะเย้ยแต่สีหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
แต่ในขณะที่เขาลงมือ วิญญาณแดงในร่างกายของเย่เทียนถึงกลับเคลื่อนไหว
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ตาม สามารถดึงดูดตัวตนของวิญญาณแดงก็เป็นเรื่องคุ้มค่าที่เย่เทียนจะให้ความสนใจ
“น่าสนใจ!”
เย่เทียนหรี่ตาและยิ้มออกมา
สามารถทำให้เย่เทียนชื่นชมได้นั้นมีไม่กี่คน เฝิงเจิ้นเหอก็เริ่มมีแนวคิด แต่คิดดูแล้วการช่วงชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันไม่ค่อยมีคความหวัง ในเมื่อในปัจจุบันชื่อเสียงของเย่เทียนไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“ผมไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ!”
จากนี้ไปการต่อสู้นั้นสำหรับเย่เทียนแล้วรู้สึกค่อนข้างน่าเบื่อ ความอยากรู้อยากเห็นของเย่เทียนทำให้เขานั่งไม่ติด พอพูดกับเฝิงเจิ้นเหอเสร็จจึงขอตัวกลับไป
“เจ้าหมอนี่!”
เฝิงเจิ้นเหอยิ้มและส่ายหัว ในใจรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เป็นคนที่มีพรสวรรค์ดีขนาดนี้! ก็จะถูกเย่เทียนแย่งไปซะแล้ว
แต่ว่าเขาก็ต้องยอมรับด้วยว่าทรัพยากรการฝึกฝนจากฝั่งเย่เทียนนั้นได้มากกว่าเขา! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิชาฟันดาบของเย่เทียนเขาเคยเห็นแล้ว ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดอย่างแน่นอน
ฝีเท้าการเดินของกู่จินเหอราวกับวัดขนาดไว้เรียบร้อย การเดินไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป หลังจากประลองเสร็จสิ้นเขาก็จากไป ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก
อีกทั้งเสื้อผ้าของเขายังขาดรุ่งริ่ง ดาบยาวขึ้นสนิม ซึ่งทำให้ผู้คนดูถูก
เลี้ยวเข้าซอย เขาก็หยุดเดินกะทันหัน
“ออกมาเถอะ ลับๆล่อๆใช่วีระบุรษเหรอ!”
กู่จินเหอเปิดปากตำหนิ
“ประสาทการรับรู้นั้นไวมาก!” เย่เทียนเดินออกมาช้าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
การปรากฏตัวของเย่เทียนทำให้กู่จินเหอ ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่ออยู่บนเวทีเขาเป็นหนึ่งในสามของผู้มีอิทธิพล มีหรือกู่จินเหอจะไม่รู้จักเขา? นอกจากนี้ชื่อของเย่เทียนอยู่ในบรรดานักบู๊โด่งดังแค่ไหน ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ?
“ชักดาบ!”
เย่เทียนเอามือไขว้หลัง ดวงตาคมกริบ
กู่จินเหอขมวดคิ้ว แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เทียนถึงได้เรียกร้องเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงจับดาบยาวในมือไว้แน่น ยกมันขึ้นช้าๆ และชี้ไปที่เย่เทียน
ความรู้สึกที่ถูกล็อกด้วยชี่กระบี่ ทำให้ยิ่งทำให้เย่เทียนสนใจยิ่งขึ้น
วิญญาณแดงกระโดดออกมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็สั่นสะเทือนเบาๆ ทำให้มีเสียงดาบคมที่ดังชัดเจน
แววตาของกู่จินเหอเป็นประกาย เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเย่เทียนถึงกับเป็นนักดาบ! มีเพียงนักดาบเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนดาบได้ถึงระดับแดนนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่