เมื่อได้ยินเสียงที่คมชัดของชายชราเย่เทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ดูเหมือนว่าน้ำในเมืองไห่จะลึกกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“ตอนนี้ในเมืองไห่ยังมีกองกำลังอำนาจอื่นๆหรือไม่?”
“มีครับ!” ฉายจื่อเหอพยักหน้า: “เป็นบริษัทอู่เรือของประเทศปิดทิศพวกเขาไม่มีที่ไป ดังนั้นจึงทำได้เพียงเหมือนเต่าหดหัวและต่อต้านอยู่ภายในบริษัทตัวเองเท่านั้น
“ตำแหน่งของพวกเขาอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ที่นี่! ทางตะวันตกของเมือง คนพวกนี้เจ้าเล่ห์มาก ถ้าตระกูลฉายของฉันไม่ทำลาย พวกเขาก็คงไม่ได้สูญเสียอะไรมากมาย” ฉายจื่อเหอทำเสียงเย็นชา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแต่เดิมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ไม่ค่อยลงรอยกันนัก
“คุณชายจะอยู่ตรงที่พวกเขาไหม?”
“คงไม่หรอก!” ฉายจื่อเหอส่ายหัว “สำหรับบริษัทนี้พวกเราได้ตรวจสอบเป็นพิเศษแล้ว นักบู๊ที่อยู่ในนั้นล้วนเป็นนักบู๊ระดับต่ำ และรอบๆก็ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนไหวของผู้แข็งแกร่ง”
“มิฉะนั้นตระกูลฉายของฉันคงจะไม่เก็บพวกเขาไว้จนถึงตอนนี้”
เย่เทียนพยักหน้า บางทีเขาอาจจะคิดมากเกินไปจริงๆ เพราะในฐานะผู้ต้องสงสัยอันดับแรก ไม่มีเหตุผลใดที่บริษัทอู่เรือแห่งนี้จะไม่ถูกตรวจสอบทันที
ตระกูลฉายดำเนินกิจการอยู่ในเมืองไห่ มาหลายปีแล้ว ความสามารถและความมั่นใจแค่นี้ยังคงมีอยู่
“โอเค ฉันจะพยายามจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด แต่จะพบคุณชายหรือไม่นั้น……”
แม้ว่าเย่เทียนจะมีความแข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่กล้ารับผิดชอบทุกอย่าง เพราะสถานการณ์ที่นี่เขายังไม่ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน ใครจะไปรู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
“ขอบคุณนายพลเย่!”
ฉายจื่อเหอได้ยินเรื่องนี้รู้สึกซาบซึ้งใจมาก เพราะตามรายงานเหลิ่งฉิงโฉวสามารถบดบังศักยภาพของสำนักตงฝูเฉพาะผลงานความดีงามนี้ตระกูลฉายก็มีความหวังที่จะประสบความสำเร็จ
หากเย่เทียนลงมือจริงๆ ถ้างั้นพวกเขาก็คงจะสบายมากขึ้น
เมื่อเย่เทียนกลับมายังที่พักที่ตระกูลฉายจัดเตรียมไว้ เฉิงชิ่งกับหงหลัวซ่าก็ปรากฏตัวอยู่ในห้อง
“เป็นยังไง? ไปเจออะไรมาหรือเปล่า?”
“มีบางอย่างแปลกๆ แต่มันแปลกยังไงยังไม่ชัดเจน!”
เฉิงชิ่งขมวดคิ้ว “สัตว์ปีศาจที่นี่แตกต่างจากที่อื่น บางทีเบื้องหลังอาจมีคนควบคุมพวกมันอยู่เ”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น หากค้นเจอไอ้คนที่อยู่เบื้องหลังปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข” เย่เทียนจิบชา “คืนนี้ฉันจะไปสำรวจอู่เรือของประเทศปิดทิศ”
“เรื่องนี้ฉันกับหงหลัวซ่าไปดูมาแล้ว เป็นกลุ่มทหารกระจอกๆ และใต้ดินก็ไม่มีสิ่งก่อสร้างหรือวัตถุใดๆที่เป็นป้อมปราการ ด้อยมาก”
เย่เทียนวางถ้วยน้ำชาในมือลงและครุ่นคิด
นี่น่าสนใจ คู่ต่อสู้เจ้าเล่ห์กว่าที่เขาคิดไว้มาก ณ เวลานี้ดูเหมือนว่าถ้าต้องการทำลายต้องรอให้พวกสัตว์ปีศาจโจมตีเชิงรุก
อย่างไรก็ตามเย่เทียนก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ ทุกวันเขาจะเดินเที่ยวเตร่รอบๆเมืองไห่ ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายสบายๆ
ฉายจื่อเหอกังวลใจมาก แต่ไม่อาจเร่งเย่เทียน ทำได้เพียงเฝ้าดูเขาเดินเที่ยวเตร่วันๆ และอยู่ในภาวะซึมเศร้า
“ตูม!”
สามวันต่อมา ขณะที่เย่เทียนยืนอยู่ใจกลางเมืองมองดูรูปปั้นของเมืองไห่เสียงคำรามก็ดังขึ้น จากนั้นฉายจื่อเหอก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน อ้าปากเล็กน้อย “มาอีกแล้ว! สัตว์ปีศาจกำลังจะจู่โจมเชิงรุกแล้ว!”
ในเวลานี้ด้านหน้าของทะเลเริ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน และในที่สุดก็สูงกว่าเมืองไห่ประมาณสิบเมตรก่อนที่มันจะนิ่งสงบ จากนั้นก็ถล่มลงมาในทันใด
น้ำทะเลที่ไหลเชี่ยวทะลักเข้าไปในเมืองไห่ทันที ในน้ำทะเลมีสัตว์ปีศาจนับไม่ถ้วนซ่อนตัวอยู่ และสถานการณ์ตกอยู่ในอันตราย
เย่เทียนเคลื่อนไหว ในขณะที่ฉายจื่อเหอตั้งสติได้เย่เทียนก็ได้หายตัวไปแล้ว จากนั้นก็ปรากฏตัวบริเวณรอบนอกเมืองไห่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่