ไม่เสียแรงที่เฉาจื้อเหาเป็นถึงผู้บัญชาคนหนึ่ง เขานั้นกล้าที่จะเผชิญหน้ากับการจับจ้องของเย่เทียนได้อย่างไม่หวาดหวั่น แต่เนื่องด้วยกงหย่วนนั้นได้หมดสติไปอีกทั้งในเวลาอันสั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะไม่สบายใจ
“นี่น้องชาย คุณมั่นใจแล้วใช่มั้ยว่าอะหย่วนจะไม่เป็นไรแล้ว”
เย่เทียนยักๆ ไหล่ แล้วตอบไปอย่างสบายๆ ว่า “มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว!”
“แต่ยังไงเขาก็ติดพิษกู่ ถึงหนอนกู่จะถูกขับออกมาแล้ว แต่ร่างกายก็จะอ่อนล้าอยู่บ้าง”
“สักพักพวกคุณค่อยให้ตาแก่นั่นสั่งยาบำรุงให้หัวหน้ากง กินสักสามถึงห้าวันเขาก็จะกลับมาปึ๋งปั๋งเหมือนเดิมแน่นอน!”
ระหว่างที่พูด เย่เทียนก็ชี้ไปยังว่านชิงเฟิงที่ผมหงอกไปหมดแล้ว
“ไอ้หนู อย่าคิดว่าตัวเองมีความสามารถนิดหน่อยก็จะทำตัวไม่เห็นหัวใครก็ได้นะ!”
“แกเรียกใครว่าตาแก่ห๊ะ!”
ไม่รอให้ว่านชิงเฟิงได้ตอบโต้ พวกหมอของโรงพยาบาลที่อยู่ข้างๆ ก็เกิดโมโหขึ้นมา แล้วมองเย่เทียนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
ไอ้หนุ่มนี่มันชักจะทำตัวยโสเกินไปแล้ว ยังไงว่านชิงเฟิงก็ยังคือคนที่เป็นที่นับถือในวงการแพทย์อยู่ดี แต่กลับทำตัวเสียมารยาทถึงขนาดนี้ มันน่าไม่น่าให้อภัยจริงๆ!
ทันใดนั้น ประตูของห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก จี้เยียนหรันที่อ่อนล้าเอามือยันกำแพงแล้วค่อยๆ เดินเข้ามา
พอเย่เทียนเห็นอย่างนั้น เขาก็รีบเดินเข้าไป “เยียนหรัน ร่างกายของคุณยังอ่อนแอแบบนี้ แล้วจะมาที่นี่ทำไมครับ?”
“ฉันเป็นห่วงอาการของหัวหน้ากง เขาไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
จี้เยียนหรันได้หันมองไปยังกงหย่วนที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ซีดเซียวแสดงสีหน้าที่กังวลออกมา
“เขาไม่เป็นอะไรมากแล้ว จากนี้ให้ตาแก่นั่นจะเป็นคนรับผิดชอบต่อก็พอแล้ว”
เย่เทียนชี้ไปยังว่านชิงเฟิงที่อยู่ข้างๆ
ว่านชิงเฟิงที่ยังตกอยู่ในความช็อก พอเห็นเย่เทียนชี้มาที่ตน ก็ตั้งสติได้ทันที
ส่วนจี้เยียนหรันก็มองว่านชิงเฟิงด้วยสีหน้าที่งุนงง
“หัวหน้าจี้ ตอนนี้อาการของหัวหน้ากงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เดี๋ยวผมจะไปสั่งยาบำรุงเลย ให้หัวหน้ากงกินสักห้าวันก็จะหายดีแล้ว”
ระหว่างที่พูด ว่านชิงเฟิงก็หยิบกระดาษกับปากออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วเขียนรายการยาที่ต้องใช้อยู่บนโต๊ะเลย
แต่ทว่า หลังจากที่เขียนเสร็จ เขากลับถือรายการยาแล้วเดินตรงมาที่เย่เทียน
“หมอเทพเย่ ยังไงก็อยากขอให้คุณช่วยดูก่อนว่าสูตรยานี้มันถูกมั้ย”
ระหว่างที่พูด ใบหน้าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายของว่านชิงเฟิงก็ได้แสดงสีหน้าที่ต้อยต่ำออกมา วางตัวต่ำต้อยสายตาที่ขุ่นมัวมองตรงไปยังเย่เทียน
“เชี่ย! นี่ฉันตาฝาดไปรึเปล่าเนี่ย?”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านว่านถึงกับเอาสูตรยาไปถามไอ้หมอนั่นเนี่ยนะ?”
ทุกคนต่างมองดูด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างช็อก ถะ ถึงไอ้หมอนี่จะพอมีฝีมือบ้าง แต่ก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง?
ว่านชิงเฟิงถือเป็นคนที่เคารพนับถือในวงการแพทย์เลยนะ วิชาทางการแพทย์ของเขาจัดอยู่ในระดับที่สุดยอด ใครก็ตามที่ได้รับการสั่งสอนจากเขา มีใครบ้างที่ไม่ได้เป็นหมอดีที่มีชื่อเสียง?
ต่อให้ไอ้หมอนี่จะรักษากงหย่วนจนหาย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาจะเหนือกว่าท่านว่านสักหน่อยจริงมั้ย?
พวกเขานั้นคิดไม่ออกจริงๆ ว่าในหัวของว่านชิงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ ตั้งแต่เย่เทียนแสดงวิชาต่อชีวิตสามเข็มที่สาบสูญไปนานหลายปี เขาก็รู้ในทันทีว่า ทักษะทางการแพทย์ของชายหนุ่มนามว่าเย่เทียนที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ด้อยไปกว่าตนแน่นอน และน่าจะสูงส่งกว่าด้วย!
ด้วยเหตุนี้เอง กับการที่เขาจงใจเอาสูตรยามาถามเย่เทียนนั้น จุดประสงค์จริงๆ ก็เพื่ออยากจะลองภูมิเย่เทียนนี่แหละ!
แต่เย่เทียนก็ไม่รู้ว่าว่านชิงเฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาแค่กวาดตามองอย่างสบายๆ แล้วมุมปากก็ฝืนยิ้มออกมา จ้องมองว่านชิงเฟิงด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง แล้วเข้าใจความคิดของว่านชิงเฟิงทันที
“นี่ตาแก่ นี่คุณแก่จนสายตาเลอะเลือนแล้วรึไง?”
” ถึงไป๋จู๋กับโกฐเขมาจะเขียนคล้ายๆ กัน ถ้ายึดตามยาที่คุณออก ถึงหัวหน้ากงจะไม่ถึงตาย แต่อย่างน้อยก็น่าจะทรมานไปหลายวันเลยไม่ใช่รึไง?”
“ครับๆครับ หมอเทพเย่สั่งสอนถูกแล้ว”
“นี่พวกคุณพูดอะไรออกมา ถึงแม้ว่าอายุของหมอเทพเย่จะยังน้อย แต่ก็เป็นหมอเทพอย่างแท้จริง ช่วยทำตัวให้มันเหมาะสมกันหน่อย!”
พอพูดอย่างนั้นออกไป ทุกคนต่างพากันทำหน้าประหลาด หุบปากสนิท ไม่มีใครกล้าพูดมากอีก
อย่ามองว่านชิงเฟิงทำตัวต่ำต้อยต่อหน้าเย่เทียน ถ้าไม่นับฐานะของเขาในวงการแพทย์ แค่ลำพังตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยแพทย์ ก็เป็นคนที่หมอในโรงพยาบาลอย่างพวกเขาจะสามารถต่อต้านได้แล้ว
พอเห็นพวกเขาที่ไม่กล้าพูดอะไร ว่านชิงเฟิงก็รู้สึกผิดหวังกับความไม่เอาไหนของพวกเขามาก จึงได้ตวาดออกมาเสียงดังว่า
“นี่พวกคุณนี่มันเป็นสมองหมูรึไง? ยังจะยืนบื้ออยู่ทำไม? ยังไม่รีบๆ ขอโทษหมอเทพเย่อีก!”
“ไม่ใช่ ท่านผู้อำนวยการ ถ้าเราขอโทษเขา มันไม่เท่ากับว่า……”
หมอที่เป็นหัวหน้าทำหน้าประหลาด อยากที่จะต่อต้าน
“หืม?!”
แต่ทว่า ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ว่านชิงเฟิงก็เบิกตาโต แล้วปลดปล่อยรังสีที่รุนแรงออกมา
“ท่านผู้อำนวยการ คุณอย่าเพิ่งโมโห เราจะขอโทษ เราจะขอโทษเดี๋ยวนี้เลยครับ”
หมอที่เป็นหัวหน้ารีบเปลี่ยนคำพูด แล้วหันมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน หลังจากการที่รอคอยไปนานหลายวิ สุดท้ายก็พยายามฝืนพูดออกมาว่า “มะ หมอเทพเย่ ขอโทษครับ!”
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีคนเป็นตัวแทน คนอื่นๆ ที่เหลือก็ไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้ได้ยากขนาดนั้นเเล้ว
ทันใดนั้น พวกคนใหญ่คนโตในวงการตำรวจรวมทั้งจี้เยียนหรัน ก็ได้เห็นบรรดาหมอที่อยู่ในห้องทำการแสดงบทละครออกมาฉากหนึ่ง
เหล่าหมอของโรงพยาบาลที่อยู่ตรงนั้น ภายใต้การกดดันจากว่านชิงเฟิง ต่างก็พากันก้มหัวคำนับแล้วกล่าวขอโทษกับเย่เทียนชายที่ยืนอยู่ด้านหลังของเฉาจื้อเหาได้หรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาที่ลึกซึ้งกำลังหมุนวนไปมา ไม่รู้ว่าเขากำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่
พอเห็นว่าทุกคนขอโทษหมดแล้ว ว่านชิงเฟิงก็พูดอย่างแน่วแน่ว่า “หมอเทพเย่ ตอนนี้คุณจะรับผมเป็นศิษย์ได้รึยังครับ?”
ทันใดนั้น เย่เทียนก็เปล่งคำพูดที่ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจออกมาว่า “ต้องขออภัยด้วย ผมไม่สนใจครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...