ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 224

“แค่คุณเนี่ยนะ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร?!”

กัยการท้าสู้ตัวต่อตัวของหนิงหยวนนั้น เย่เทียนก็ปฏิเสธไปอย่างไม่ต้องคิดเลย

ล้อเล่นอะไรกัน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบ แล้วทำไมยังต้องไปสู้กับลูกน้องที่ขี้แพ้นั่นด้วย?

หนิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้น ก็ทั้งโกรธทั้งเคือง

ยังไงตอนนี้เขาก็เป็นหนึ่งในสี่ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ของเซิ่งเหอเซิ่งแล้ว เป็นคนที่ชื่อเสียงโด่งดัง เย่เทียนไม่ดูยโสเกินไปหน่อยเหรอ?

“ทำไม? นี่แกกลัวอย่างนั้นเหรอ?”

หนิงหยวนขำต่อเนื่องอย่างไม่ชอบใจ เหมือนจงใจยั่วยุอีกฝ่ายด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

แต่ทว่า ทำไมเย่เทียนจะมองแผนของเขาไม่ออก จึงได้พูดพร้อมกับยิ้มเยาะไปว่า “ถ้าให้ผมออกโรง คุณก็มีแต่จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น!”

“ในเมื่อคุณไม่สู้ งั้นฉันจะสู้เอง!”

ไม่รอให้หนิงหยวนได้ทันตั้งตัว จี้เยียนหรันก็ก้าวออกมาก่อนแล้ว

เด็กสาวจ้องมองหนิงหยวนด้วยสีหน้าที่เย็นชา ความต้องการที่จะสู้เอ่อล้นออกมาจากแววตาของเธอ

ตอนที่หนิงหยวนปรากฏตัวออกมาเธอก็รู้สึกคุ้นหน้าคนคนนี้แล้ว หลังเวลาผ่านไป ในที่สุดเธอก็นึกฐานะของหนิงหยวนออก

นักสู้ใต้ดินของสนามประลองที่ชื่อเสียงไม่ดีแห่งเมืองเอกคนนี้ ฆ่าคนและทำคนพิการไปแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ถึงจะหายหน้าไปนานกว่าเจ็ดปี มันก็ไม่สามารถลบล้างความผิดที่เขาเคยทำไว้ได้หรอก

คนชั่วที่โหดเหี้ยมระดับนี้ เธออยากจับไปรับโทษตั้งนานแล้ว!

กับคำท้ารบของตำรวจแสนสวยอย่างจี้เยียนหรันนั้น มันก็ทำให้เย่เทียนตกใจไปทีหนึ่ง แล้วตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและพูดอย่างจนใจว่า “ความจริง บางที ประมาณว่าคุณไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้”

ถึงจี้เยียนหรันจะฝึกฝนมาได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไงก็ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการของนักบู๊อย่างเป็นทางการ ยังนับว่าเป็นนักบู๊ระดับเหลืองไม่ได้

แต่หนิงหยวนนั้นไม่เหมือนกัน ครั้งแรกที่เจอกัน เขาก็เพิ่งเข้าสู่ระดับเหลืองตอนปลาย หลังจากความเพียรในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นชินกับพลังของระดับของระดับเหลืองตอนปลายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันแน่นอน ไม่ต่างอะไรกับการต่อสู้ระหว่างเด็กทารกกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง เด็กทารกจะไปมีโอกาสชนะได้มากขนาดไหน?

เพียงแต่ กับความหวังดีที่เย่เทียนมีให้ มันกลับไปกระตุ้นจี้เยียนหรันเข้า เธอคิดว่าเขาดูถูกตัวเอง

“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าไอ้หมอนี่มันจะเก่งสักแค่ไหน!”

แน่นอนว่าถ้าตัดเรื่องความไม่พอใจออก จี้เยียนหรันก็อยากรู้เหมือนกันว่าระดับของตัวเองนั้นแตกต่างกับหนิงหยวนมากขนาดไหน

ความดื้อด้านของจี้หยียนหรันทำให้เย่เทียนถึงกับจนปัญญา แต่ก็ไม่อาจขวางต่อไปได้อีก

“เอางั้นก็ได้ แต่คุณต้องระวังตัวด้วยนะ”

“ถ้าสู้ต่อไม่ไหวแล้ว ก็ตะโกนว่า ‘ที่รักช่วยฉันด้วย’ ผมสัญญาว่าจะเป็นคนแรกที่เข้าไปช่วยคุณเลย”

ระหว่างที่พูด เย่เทียนก็ได้เผยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ออกมา แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังเอาเปรียบจี้เยียนหรันอยู่

นั่นมันก็ทำให้เชิ่งหู่หลิวชิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังต่างพากันนับถือในตัวเย่เทียน จี้เยียนหรันเป็นคนระดับไหน กับคนที่ใช้ชีวิตเสี่ยงไปวันๆ อย่างพวกเขาทำไมจะไม่เข้าใจ

“ไม่เสียแรงที่เป็นคุณชายเย่ แม้แต่ไข่มุกในมือของตระกูลจี้ยังกล้าแซวเล่น ช่างเป็นคนที่ผู้ชายอย่างเราต้องเทิดทูนบูชาจริงๆ!”

ความจริงแล้ว ตอนแรกที่เห็นจี้เยียนหรัน เชิ่งหู่กับหลิวชิงก็ตกใจจนคางแทบกระแทกพื้นแล้ว

ไม้งามของวงการตำรวจแห่งเมืองเจียงหนันผู้เลื่องลือ ต่อให้ลูกน้องของพวกเขามากมายจะตกไปอยู่ในมือของจี้เยียนหรัน แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดที่จะแก้แค้นเลย

ไม่ใช่อะไร นอกจากตำแหน่งในทางตำรวจแล้ว ใครให้จี้เยียนหรันยังเป็นไข่มุกในมือของกองทัพแห่งตระกูลจี้อีกล่ะ?

แต่ภายใต้การนำทีมปฏิบัติการของเย่เทียนในคืนนี้ กลับทำให้ตำรวจที่เที่ยงตรงคนนี้มาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ซะได้ แถมยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา แล้วจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง?

จี้เยียนหรันมองบนใส่เย่เทียนอย่างไม่ชอบใจ นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังมีอารมณ์มาเอาเปรียบเธออีก

“คุณฝันไปเถอะ!”

เด็กสาวตอบกลับด้วยความโมโห จากนั้นก็ส่งสายตาที่เย็นชาไปยังหนิงหยวน

หนิงหยวนที่เห็นแบบนั้น สองตาก็เกิดประกายสนุกขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่