สองวันนี้เป็นช่วงที่เย่เทียนสบายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ต้องเสียแรงไปเข่นๆ ฆ่าๆ ยิ่งไม่ต้องวางแผนอะไรให้เปลืองสมอง
ตั้งแต่จัดการกับจูยิ่วถิงกับพวกระดับสูงของเซิ่งเหอเซิ่งไปเมื่อสองวันก่อน โลกใต้ดินของเมืองเอกก็วุ่นวายกันไปใหญ่
เหล่าคนที่ใช่ชีวิตเสี่ยงไปวันๆ ต่างก็ลับมีดกันใหญ่ เหมือนถือโอกาสนี้ทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้น และอยากที่จะขึ้นมาแทนที่จูยิ่วถิงเลยด้วยซ้ำ
แม้แต่กลุ่มคนของโลกใต้ดินจากเมืองใกล้เคียงก็ยังอยากเข้ามามีส่วนร่วม
ยกตัวอย่างเช่นเชิ่งหู่กับหลิวชิง ภายใต้คำสั่งของเย่เทียน พวกเขาก็ชิงส่งคนกลุ่มหนึ่งไปยึดเมืองเอกไว้ก่อน เพื่อหวังว่าจะชิงจุดยุทธศาสตร์ให้ได้ก่อนสักที่ รอให้เจียงหนันสงบลงก่อนค่อยเคลื่อนไหวใหญ่
สรุปสุดท้าย โลกใต้ดินของเมืองเอกได้กลายเป็นสมรภูมิที่วุ่นวายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เกรงว่าในเวลาหลายเดือนข้างหน้าคงไม่มีทางสงบอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เย่เทียนไปยุ่งย่ามกับผู้ต้องหาเลย
ด้วยการมีอยู่ของค่ายกลรวมจิตมันจึงทำให้ชี่ทิพย์ในวิลล่าหนาแน่นกว่าที่อื่นมาก นอกจากรับส่งเฉินหวั่นชิงไปที่ทำงานแล้ว เย่เทียนก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ฝึกฝนอยู่ในวิลล่า
เมื่อเทียบกับความสบายของเย่เทียนแล้ว เฉินหวั่นชิงกลับยุ่งจนไม่ได้พักเลย
ถึงจะบอกว่าสงครามทางด้านหุ้นจะผ่านไปแล้ว แต่คลื่นลมก็ยังไม่สงบ บวกกับบริษัทก่อสร้างเทียนเฉินของจังเวยก็ถูกบริษัทแซ่เฉินเทคโอเวอร์แล้ว เรื่องที่เธอต้องจัดการจึงมีเยอะมาก
อีกอย่าง พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของท่านปู่เฉินชังไห่ ถ้างานเธอไม่ยุ่งนี่สิแปลก
กริ้งกริ้ง!
ในวันนี้ หลังจากที่เย่เทียนเพิ่งส่งเฉินหวั่นชิงไปที่บริษัทแซ่เฉิน กลับมาที่วิลล่าเจียงเฉิงเตรียมที่จะฝึกวิชา แต่เสียงมือถือก็ชิงดังขึ้นมาก่อน
คิ้วของเย่เทียนกระตุก
หยิบมือถือออกมาดู มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ไม่ใช่อื่นใด เพราะคนที่โทรมาก็คือ เด็กสาวที่ชื่อเหลียงเยว่หรูนั่นเอง
หลังจากที่ช่วยเธอจากเงื้อมมือของสามผู้อาวุโสแห่งสำนักหวู่หันตอนละทิ้งโกดังเมื่อครั้งก่อน ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีก
ถึงเหลียงเยว่หรูจะโทรมาหา แต่เนื่องด้วยหลายวันก่อนเย่เทียนธุระค่อนข้างรัดตัว จึงพูดไปไม่กี่คำก็ต้องวางสายไป
พอคิดได้อย่างนั้น เย่เทียนก็รับสาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คนสวย ว่ายังไง? คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
อีกฟากของสาวก็ได้มีเสียงที่อ่อนโยนของเด็กสาวดังขึ้น “เย่เทียน พ่อฉันอยากเจอคุณหน่อยค่ะ”
“พ่อคุณอยากเจอผม?”
เย่เทียนอึ้งไปชั่วขณะ สีหน้าก็ดูประหลาดขึ้นมาทันที แล้วพูดหยอกไปว่า “ไม่ใช่ว่าผมทำตัวเป็นฮีโร่ที่ช่วยสาวงามแล้วจะให้ตอบแทนด้วยร่างกาย เลยอยากให้ผมไปพบพ่อตาก่อนใช่มั้ย?”
สิ่งที่เกินความคาดหมายของเย่เทียนก็คือ เหลียงเยว่หรูนั้นไม่ได้ปฏิเสธเขา แต่กลับถามมาว่า “แล้วคุณจะมาหรือไม่มาคะ?!”
นั่นทำให้เย่เทียนถึงกับตาค้าง
นี่มันสื่อถึงอะไรได้บ้าง? หรือเหลียงเยว่หรูตั้งใจที่จะยกร่างกายให้เขาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เย่เทียนก็ไม่ได้แตกตื่น พยักหน้าแล้วตอบไปว่า “ไป!”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่กับเวลาไปให้ คุณห้ามมาสายเด็ดขาด!”
เหลียงเยว่หรูนั้นพูดเตือนอย่างเขินๆ จากนั้นก็วางสายไป
“……”
เมื่อได้ยินเสียงตู้ดตู้ดที่ดังอยู่ในหู เย่เทียนก็ส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่น ตบปากเบาๆ แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “แกไอ้คนชั่ว!”
ในโลกใบนี้หนี้สินอะไรที่ชดใช้ได้ยากที่สุด?
มันคือหนี้ทางความรู้สึก!
เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่มีค่าอะไรมากมาย แต่มันกลับรู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่มาทับอยู่กลางอก ทำให้อึดอัดอย่างถึงที่สุด
ยังไงเย่เทียนก็เป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์อยู่บ้าง เขาเอานิ้วออกมาคำนวณ ความสัมพันธ์ของสาวๆ หลายคนกับเขานั้นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่