ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 320

“นายบ้ามาก แต่คนที่บ้าเกินไปจะต้องชดใช้เข้าสักวัน”

หลี่หยางก็โกรธขึ้นมานิดหน่อย เขามองเย่เทียนอย่างมีความหมายก่อนจะหันหลังเดินไปที่รถของเขา

ยังไงซะเขาก็เตือนแล้ว แต่เย่เทียนไม่ฟังเอง เขาก็ทำอะไรไม่ได้

“เย่เทียน นายวู่วามไปหน่อยนะ”

เมื่อหลี่หยางไปแล้ว ฮั่วยั่นจือก็ส่งเสียงตื่น “หลี่หยางคนนี้เป็นนักแข่งรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว และวิ่งบนเขาวั่วหลงแห่งนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง ต่อให้ปิดตาเขา เขาก็ยังขับไปได้ถึงจุดหมาย นายใช้ออดี้ที่ไม่ได้ตกแต่งเพิ่มเติมอะไรเลยไม่มีทางชนะหรอก”

“ไม่เป็นไร แค่การแข่งขันเท่านั้น อีกอย่าง ฉันไม่คิดว่าฉันจะแพ้หรอก”

เย่เทียนยิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะทอดสายตาไปที่ฮั่วยั่นจือ “เป็นยังไงครับคุณหนูฮั่วจะนั่งไปกับผมสักรอบมั้ย?”

เห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของเย่เทียนแล้ว แววตาฮั่วยั่นจือฉายแววซับซ้อน แม้ว่าเธอจะรู้จักเย่เทียนได้ไม่นาน แต่เธอรู้ว่าเจ้าคนตรงหน้านี้มั่นใจมาก

ต่อให้ไม่รู้ว่าความมั่นใจนี้เขาเสแสร้งขึ้นมาหรือเพราะมีความสามารถจริงๆ

บัดนี้เห็นว่าเย่เทียนชวนเธอ ฮั่วยั่นจือครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “งั้นก็ดี ฉันจะนั่งไปกับนายสักรอบ จะได้คอยเตือนนายเกี่ยวกับสภาพถนนด้วย”

เมื่อเธอเอ่ยคำนี้ออกมา เย่เทียนก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วและมุดเข้าไป

ฮั่วหลิงเยว่ที่เห็นแบบนี้อดเซ็งไม่ได้ เธอเอ่ยขึ้น “ฉันก็อยากไปด้วย!”

ฮั่วยั่นจือหันกลับมาพูดกับเธอ “เธอไม่ต้องไป อันตรายเกินไป รอฉันอยู่ที่นี่แหละ”

“อืม….”

สีหน้าฮั่วหลิงเยว่หม่นหมองลง ก่อนจะหันไปพูดกับเย่เทียนต่อ “เจ้าหลี่หยางนั่นน่ารังเกียจชะมัด ถ้านายเอาชนะเขาไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาเจอฉันอีก”

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเย่เทียนอดขำไม่ได้ ก่อนจะส่งสายตามั่นใจให้เธอพร้อมกล่าว “วางใจเถอะ รอฉันกลับมาพร้อมกับชัยชนะนะ!”

พูดจบเย่เทียนก็สตาร์ทรถ ขับไปที่จุดออกตัวของเส้นทางแข่งขัน

หลี่หยางขับรถโรลส์-รอยซ์รุ่นเรธเปิดประทุน เนื่องจากผ่านการแต่งมา เสียงสตาร์รถของเขาจึงดังกระหึ่มอย่างดุดัน

“ไอ้หนุ่มนี่ตายแน่!”

“พวกนายว่าหลี่หยางจะถึงก่อนกี่นาที?”

“ไม่รู้สิ สถิติคราวก่อนของเขาคือเก้านาทีครึ่ง ตอนนี้เขาไปเพิ่มสมรรถภาพรถมาอีกหน่อย คงจะใช้เวลาไม่ถึงเก้านาที”

ทุกคนวิจารณ์กันเสียงเบา

ส่วนคนอื่นๆทอดสายตาไปที่เส้นทางแข่ง รอคอยให้การแข่งขันเริ่ม

“นายรอไสหัวออกจากจ๊กกลางได้เลย!”

หลี่หยางที่นั่งอยู่บนรถยกนิ้วโป้งให้เย่เทียน ก่อนจะหมุนและชี้นิ้วโป้งไปด้านล่างด้วยความท้าทายสุดขีด

สำหรับเรื่องนี้ เย่เทียนไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ มือซ้ายของเขาพิงกับหน้าต่างพยุงหัวตัวเอง รอให้การแข่งขันเริ่มต้นเงียบๆ

ฮั่วยั่นจือเห็นแบบนั้นแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย รำพึงในใจ เจ้านี่มั่นใจจริงๆหรือแค่เสแสร้งแกล้งทำ?

ในนั้นเอง เริ่มมีรถสปอร์ตขับเข้ามากัน เนื่องจากเส้นทางแข่งแคบเกินไป จึงมีรถเข้าร่วมได้เพียงสี่คันเท่านั้น

แต่การแข่งขันของพวกเขาดำเนินไปตามลำดับ มีทั้งหมดสี่รอบด้วยกัน มีเพียงคนที่ได้ที่หนึ่งเท่านั้นถึงสามารถเข้าร่วมในรอบต่อไปของการแข่งขัน และชิงเงินรางวัลมหาศาลถึงห้าล้าน

ในไม่ช้ารถทั้งสี่คันก็ทยอยเข้ามาจอด นาทีที่หญิงสาวแต่งตัวเปิดเผยคนหนึ่งสะบัดธง รถทั้งสี่คันก็ทะยานออกไปอย่างแรงราวกับจรวด

ในหมู่พวกเขารถของหลี่หยางเร็วที่สุด เขานำโดดไปเพียงคนเดียว เขานำหน้าไปไกลเท่ารถสองคันเกือบจะทันที

"โอ้โห เจ้าหลี่หยางเก่งจริงๆ!"

"เขาติดตั้งเทอร์โบในรถของเขาด้วย นี่เป็นอะไหล่รถแข่งที่ทันสมัยที่สุด หลี่หยางตั้งใจซื้อมาจากประเทศM ก่อนเริ่มเขาได้อุ่นเครื่องก่อนแล้ว เร็วได้ขนาดนี้ถือเป็นเรื่องปกติ"

มีคนวิเคราะห์อย่างใจเย็น

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนอดเซ็งไม่ได้ "ก็หมายความว่าหลี่หยางชนะแน่ๆน่ะสิ?"

"จะแข่งกันได้ยังไง แค่อะไหล่ก็ห่างชั้นกันแล้ว!"

ทันใดนั้นทุกคนก็สิ้นหวังขึ้นมาในใจ

ในเวลาเดียวกัน หลี่หยางมีสีหน้าได้ใจเช่นกัน

เขามีความมั่นใจต่อฝีมือของตัวเองมาก บวกกับรถของตัวเองดีกว่ารถของคนอื่นๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะมีโอกาสที่ดีกว่า

"ช่างกล้าเอาออดี้มาแข่งกับฉัน น่าขำสิ้นดี!"

หลี่หยางดูหมิ่นในใจ เขามองรถสองสามคันที่โดนทิ้งห่างออกไปแล้วพุ่งทะยานนำโดดไปถึงเส้นชัย!

ในขณะเดียวกัน ฮั่วยั่นจือที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา

ออดี้R8ของพวกเขาแค่เปรียบเทียบจากอะไหล่ก็สู้อีกฝ่ายไม่ได้แล้ว จะเอาอะไรมาชนะ?

ส่งผลให้เธอผิดหวังในตัวเย่เทียนอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกว่าชายคนนี้ก็เท่านี้แหละ

“เธอนั่งดีๆนะ ฉันจะเร่งความเร็วแล้ว”

ขณะนั้น เสียงพูดของเย่เทียนดังฉับพลันขึ้นจากด้านข้าง

ฮั่วยั่นจือได้ฟังดังนั้นก็อดหันไปมองไม่ได้ และได้เห็นสีหน้าเอ้อระเหยลอยชายของเย่เทียนเปลี่ยนไปเป็นจริงจังในวินาทีนั้น แม้แต่ตาของเขายังมีประกายคมกริบแวบผ่าน!

นี่ทำให้ฮั่วยั่นจือตกอยู่ในภวังค์ในชั่วขณะ ผู้ชายประเภทไหนกันที่มีเสน่ห์มากขึ้นได้ในชั่วพริบตาเดียว

แต่ไม่นานนักเธอก็สลัดความคิดไร้สาระในหัวทิ้งไป ยิ้มเฝื่อนๆและกล่าว “นายล้าหลังไปแล้ว จะไล่ตามตอนนี้ได้ทันเหรอ?”

“ไม่ลองดูจะรู้ได้ไงเล่า เธอคาดเข็มขัดด้วย”

เย่เทียนชำเลืองมองเธอและพูดเรียบๆ

เขาพูดแบบนี้ออกมา ทว่าฮั่วยั่นจือไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

รถคันนี้มีความเร็วแค่ร้อยเจ็ดสิบเท่านั้น สำหรับเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย เธอคิดว่าตัวเองรับไหว

ทว่าด้วยคำเตือนของเย่เทียน เธอก็ยังคาดเข็มขัดด้วยสัญชาตญาณ

นาทีที่เธอคาดเข็มขัดเรียบร้อย ความเร็วรถก็ทวีคูณขึ้นฉับพลัน ด้วยแรงดันนี้ ร่างของเธอถลาไปด้านหลังแนบติดไปกับเบาะ

เธอเหลือบมองหน้าปัดบอกความเร็วด้วยหางตา สองร้อยสามสิบ!

แต่นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ความเร็วของรถยังคงเพิ่มต่อเนื่อง

สองร้อยห้าสิบ สองร้อยแปดสิบ สามร้อยยี่สิบ!

“นายเป็นคนที่บ้าจริงๆ”

ฮั่วยั่นจือใจหายวูบ เธอจำได้ว่าด้านหน้ามีทางโค้งรูปเอส ด้วยความเร็วขนาดนี้ยากจะขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย จึงรีบเอ่ยปากเตือน “นายช้าลงหน่อย ด้านหน้าเป็นทางโค้งรูปเอสขนาดใหญ่ ความเร็วแบบนี้จะเกิดอุบัติเหตุง่ายๆเอา”

ความเร็วสามร้อยสามสิบ หากไม่ระวังต้องตกลงไปที่ก้นเหวอย่างแน่นอน และตายลงโดยไม่มีที่ฝัง

“อืม ฉันรู้แล้ว”

เย่เทียนตอบส่งๆ แต่ไม่มีทีท่าจะลดความเร็วเลยสักนิด กลับยิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม

พริบตาเดียวความเร็วรถก็เร่งไปถึงสามร้อยแปดสิบ

ความเร็วขนาดนี้ รถเร็วจนเหลือเพียงเงาให้เห็นบนเส้นทางแข่ง

“นายอยากตายเหรอ?”

เมื่อเห็นเย่เทียนไม่สนคำเตือนของตัวเองเลยสักนิด กลับยิ่งขับรถเร็วขึ้นฮั่วยั่นจือก็ตะลึงในใจ รีบส่งเสียงเรียก

“เงียบเถอะ ไม่ตายหรอก!”

เย่เทียนกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด ราวกับเขาต่างหากที่เป็นเทพแห่งการขับรถที่แท้จริง

"นาย……"

ฮั่วยั่นจือสิ้นหวัง ความเร็วขนาดนี้ต่อให้จะลดก็ต้องชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอรู้สึกเสียใจมาก ทำไมตัวเองต้องขึ้นรถของเย่เทียนด้วย?

ทว่าในตอนนี้เธอจะเปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้ว ได้แต่หลับตาด้วยความสิ้นหวัง ภาวนาให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

"แค่ผ่านทางโค้งนี้ไปฉันก็ชนะได้แน่ๆ!"

หลี่หยางในตอนนั้นก็มาถึงทางโค้งเดียวกัน

แต่ในที่แบบนี้เขาก็ไม่กล้าประมาท จึงลดความเร็วลงเล็กน้อย

ทว่าในตอนนั้นเอง เสียงฟึ่บดังขึ้นข้างหู เขาเห็นเงาหนึ่งแวบผ่านไป ภายใต้แรงดันอากาศอันรุนแรงนี้ เขาเกือบคุมรถไม่อยู่และลื่นไถลออกไป!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่