ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 321

“นั่นมันอะไร?”

หลี่หยางรู้สึกมึนงง พอเขาเห็นชัดแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโต “ไอ้หนูนี่มันรนหาที่ตายรึไงเนี่ย? ข้างหน้ามันเป็นทางโค้งรูปตัวเอส ด้วยความเร็วขนาดนี้ไม่มีทางคุมอยู่แน่นอน!”

ระหว่างที่พูด เขาก็แสดงสีหน้าที่ไม่ชอบใจออกมา “ในเมื่อแกอยากรนหาที่ตาย งั้นมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว”

เขาหัวเราะคริคริ เหมือนได้เห็นภาพที่รถนั้นตกเขาไปแล้ว และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

“จะเสียดายก็แค่ฮั่วยั่นจือ ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น ฉันยังไม่เคยได้ลิ้มลองเลย”

หลี่หยางแอบรู้สึกเสียดาย ลดความเร็วแล้วตามหลังไป อยากเห็นกับตาว่าเย่เทียนจะมีจุดจบยังไง

ระหว่างที่คิดแบบนั้นอยู่ในหัว หลี่หยางก็ขับรถไป แต่ตลอดทางที่มุ่งไป อย่าว่าแต่เงาของเย่เทียนเลย แม้แต่รอยเฉี่ยวชนสักรอยยังไม่มีเลย!

“นี่มันอะไรกัน?”

หลี่หยางมึนงงอีกครั้ง

“หรือมันจะใช้ความเร็วนั้นผ่านโค้งนี้ไปได้?”

พอคิดได้อย่างนั้น หลี่หยางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ จากนั้นก็รีบส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ทางโค้งแบบนี้ ต่อให้เทพนักดริฟท์ลีวายส์มาเอง ด้วยความเร็วขนาดนี้ก็ไม่มีทางผ่านโค้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยได้หรอก เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

หลี่หยางรู้สึกตกใจ ไม่ยอมเชื่อ จึงได้เพิ่มความเร็วแล้วมุ่งตรงไปที่ยอดเขา

ระหว่างทางที่ไป เขาก็พบว่าตลอดเส้นทางไม่มีเงาคนอยู่เลย ราวกับสิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อกี้ไม่ใช่ภาพหลอน

และเป็นแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็มาถึงที่เส้นชัย พอตั้งใจมอง ก็เห็นรถอาวดี้R8ที่เย่เทียนขับได้ขับอย่างมั่นคงอยู่บนถนนแล้ว เหมือนจะมาถึงนานมากแล้วด้วย

พอเห็นแบบนั้น หลี่หยางก็รู้สึกหดหู่มาก

เขารู้ ว่าสิ่งที่ตัวเองได้เห็นเมื่อกี้มันไม่ใช่ภาพหลอก แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ!

มีคนที่สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสี่ร้อยได้จริงๆ!

และในตอนนี้ ฮั่วยั่นจือก็ได้ลงมาจากรถแล้ว สีหน้าของเธอซีดเซียว เหมือนจะยังไม่หายตกใจจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

โค้งมรณะเมื่อกี้ ฮั่วยั่นจือนึกว่าต้องตายแน่ๆ จึงหลับตาตามสัญชาตญาณ แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบินอยู่ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาดู ก็พบว่า รถนั้นได้ผ่านโค้งมาอย่างน่าอัศจรรย์!

มันทำให้เธอรู้สึกตกใจอย่างถึงที่สุด พร้อมกับรู้สึกหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

ต่อให้ตอนนี้จะมาถึงเส้นชัยแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำใจให้สงบได้

“คุณเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

เย่เทียนที่กำลังมองเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะแอบขำในใจ

“มะ ไม่เป็นไร!”

ฮั่วยั่นจือส่ายหัวด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว สายตาที่มองเย่เทียนนั้นซับซ้อนไปแวบหนึ่ง

พอเห็นว่าเธอยังทำตัวเก่ง จึงไม่อยากพูดขัด หันหน้ามา แล้วมองไปที่หลี่หยาง

หลี่หยางก็ทำหน้าซับซ้อนไม่ต่างกัน แต่ในใจกลับสงบลงมาแล้ว สายตาที่จ้องมองเย่เทียนเปี่ยมล้นไปด้วยความนับถือ

“โค้งเมื่อกี้ คุณผ่านมันมาได้ยังไง?”

เขาอดไม่ได้ที่จะก้าวมาข้างหน้า แล้วถามออกไป

เย่เทียนยักไหล่ แล้วตอบไปว่า “ก็ผ่านมาทั้งอย่างนั้นแหละ เอาล่ะ การแข่งได้จบลงแล้ว ตอนนี้รู้สึกพอใจรึยังครับ?”

เย่เทียนจบการแข่งด้วยความเร็วขนาดนี้ หลี่หยางจะพูดว่าไม่พอใจได้เหรอ?

พูดได้เลยว่า ทักษะการขับรถของเย่เทียนเมื่อเทียบกับเจ้าแห่งความเร็วอย่างลีวายส์แล้ว มันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย

“คุณชนะแล้ว”

หลี่หยางนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเองจะแพ้ให้กับไอ้หมอนี่ได้ แต่ตอนนี้เขาก็พูดอะไรอย่างอื่นไม่ได้ กัดฟันแน่น แล้วหยิบบัตรเดบิตของตัวเองออกมา

“ในนี้มีเงินอยู่สิบล้าน รหัสคือศูนย์หกตัว มันเป็นของคุณแล้ว”

พูดจบ เขาก็ยื่นบัตรนั้นออกไป

เย่เทียนยิ้มออกมาที่มุมปาก รับบัตรนั้นมาอย่างไม่รังเกียจ แล้วเก็บเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

จากนั้น เย่เทียนก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรเขาอีก พาฮั่วยั่นจือที่ตั้งสติได้แล้วขึ้นรถ แล้วใช้อีกทางลงจากเขาวั่วหลงไป

หลังจากที่เย่เทียนไปแล้ว รถสองคันด้านหลังก็ตามมาทัน

“คุณชายหลี่”

คนหนึ่งเดินมาข้างหน้า สีหน้าดูแย่มากๆ “ความเร็วของไอ้หมอนั่น มันเร็วมากๆ รถของมันคงไม่ได้ปรับแต่งมาใช่มั้ยครับ?”

“ไม่หรอก”

หลี่หยางส่ายหน้า แล้วพูดไปว่า “นั่นเป็นรถของซูเย่าหมิงผมเคยเห็น เขาใช้รถนั่นเอาชนะผมได้ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด”

พอคำพูดนั้นถูกพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันงง

“เป็นไง ฝีมือการขับรถของผมมันสุดยอดไปเลยใช่มั้ย?”

เย่เทียนขับรถลงเขาอย่างสบายๆ จ้องมอง ฮั่วยั่นจือด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้ม

ตอนนี้ฮั่วยั่นจือได้กลับมาเป็นปกติแล้ว พอได้ยินสิ่งที่เย่เทียนพูด เธอก็ต้องพยักหน้า และพูดไปว่า “สุดยอดจริงๆ ค่ะ!”

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรให้รางวัลผมหน่อยแล้วจริงมั้ย?”

เย่เทียนพูดออกมาอีกครั้ง

“รางวัล?”

พอได้ยินอย่างนั้น ฮั่วยั่นจือก็แอบหลบตาเล็กน้อย จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่เย้ายวนว่า “แล้วคุณอยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะคะ? เงิน? หรือว่า……คนคะ?”

“ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากได้ทั้งสองอย่างเลยครับ!”

เย่เทียนจ้องเขม็งไปที่ฮั่วยั่นจือ ในตาเหมือนมีเปลวไฟกำลังลุกโชน

ฮั่วยั่นจือที่ได้ยินอย่างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะแอบขำอย่างไม่ชอบใจ แต่กลับไม่ได้แสดงอะไรออกมาทางสีหน้าเลย เกิดอาการแดงขึ้นบนแก้มบางๆ

“ปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณทำให้ฉันรู้สึกตกใจจริงๆ

ระหว่างที่พูด ฮั่วยั่นจือก็ยื่นหน้ามา แล้วพูดอย่างไพเราะที่ข้างหูของเย่เทียนว่า “ตอนนี้ยังเร็วไป เราไปหาที่นั่งเล่นกันก่อนนะ”

จากการที่ฮั่วยั่นจือมาพ่นลมตรงข้างหูของเย่เทียน ทันใดนั้นก็มีกลิ่นน้ำหอมที่น่าหลงใหลหอมโชยมา มันก็ทำให้เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง และพูดอย่างร้อนใจว่า “ต้องได้อยู่แล้ว คุณพูดมาได้เลยครับว่าตอนนี้คุณอยากไปไหน ผมจะไปด้วยทุกที่เลย”

ฮั่วยั่นจือหัวเราะคริคริ “งั้นไปที่วิลล่ากลางเขาของฉันก็แล้วกัน เราไปนั่งคุยกันหน่อย”

ระหว่างที่พูด ฮั่วยั่นจือก็คอยบอกทาง เพื่อให้เย่เทียนขับรถไป

เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวงาม เย่เทียนก็ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปตามทางที่ฮั่วยั่นจือแนะนำ

ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง รถก็ขับมาถึงที่จุดหมาย

“เข้าไปข้างในกัน”

ฮั่วยั่นจือลงจากรถก่อน แล้วเดินไปยังวิลล่าเล็กที่อยู่กลางเขา

เย่เทียนยืนอยู่ด้านหลัง จ้องมองไปยังเอวที่ค่อนขอดกับบั้นท้ายกลมๆ ที่โยกย้ายเวลาที่เธอเดิน ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

“ผู้หญิงคนนี้น่าหลงใหลตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่หัวใจกลับอำมหิต…..”

เย่เทียนแอบวิจารณ์อยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรทางสีหน้า ได้แต่เดินตามเข้าไปข้างใน

วิลล่าหลังเล็กกลางเขาหลังนี้ค่อนข้างสะอาด ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมีครบทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่ามีคนมาพักอาศัยอยู่เป็นประจำ

เย่เทียนที่เห็นอย่างนั้น ก็ต้องแอบพยักหน้า ช่างเป็นวิลล่าเล็กๆ ที่เงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายจริงๆ เหมาะกับเอาไว้พักผ่อนในช่วงวันหยุดได้ดีที่สุดแล้ว!

แต่ทันใดนั้น ฮั่วยั่นจือที่ไม่รู้ว่าในใจของเย่เทียนกำลังคิดอะไรอยู่ เธอหันหน้ากลับมา แล้วหันมองเย่เทียนเบาๆ จากนั้นก็พูดไปว่า “คุณเย่คะ การที่คุณเดินทางมาจากที่อันแสนไกล คุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่คะ?”

“มีเป้าหมายอะไร? ผมไม่เข้าใจความหมายที่คุณต้องการจะสื่อครับ”

“ถึงตอนนี้ ฉันคิดว่า ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องเล่นละครใส่กันแล้วนะคะ”

ระหว่างที่พูด สีหน้าอันสวยงามของฮั่วยั่นจือก็ค่อยๆ เฉยชาลง

“แร่นั้นไม่ใช่อะไรที่คุณจะสามารถเอาไปได้ ฉันขอเตอนคุณให้กลับไปซะดีกว่า ฉันไม่อยากทำร้ายคุณ”

“ทำร้ายผม? มันหมายความว่ายังไงครับ?”

พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา สายตาปรากฏความไม่ชอบใจออกมา “คุณคิดว่า การล่อผมให้มาที่นี่ แล้วจะคุมผมไว้ที่นี่ได้อย่างนั้นเหรอครับ?”

“ตอนแรกผมยังคิดว่า คุณจะมีแผนการที่ล้ำเลิศขนาดไหน ตอนนี้ดูแล้ว มันก็เท่านั้นเอง”

ระหว่างที่พูด เย่เทียนก็ส่ายหัว พร้อมกับทำหน้าที่ผิดหวังอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่