“คุณคิดว่า ลำพังนักฆ่าเพียงไม่กี่คนก็พอที่จะรั้งผมได้แล้วอย่างนั้นเหรอครับ?”
ระหว่างจ้องมองไปยังสีหน้าที่เยือกเย็นของฮั่วยั่นจือ เย่เทียนก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“คุณรู้แผนการของฉันอีกแล้วเหรอ?”
พอฮั่วยั่นจือได้ยินอย่างนั้น คิ้วสวยๆ ของเธอก็ขมวดขึ้นมา แล้วมองเย่เทียนด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
“ตอนแรกผมก็ไม่รู้ แต่พอมาถึงที่นี่ ผมก็รู้ตัวแล้ว”
เย่เทียนยิ้มๆ แล้วพูดไปว่า “ตอนแรกผมเข้าใจว่า เพราะผมหน้าตาดี มันเลยทำให้คุณหวั่นไหว พอเอาเข้าจริง ผมก็เข้าใจผิดไป พูดมา ว่าคุณคิดจะจัดการกับผมยังไง?”
พอเห็นเย่เทียนที่ดูจะไม่กลัวเลยสักนิด ในใจของฮั่วยั่นจือก็รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
แต่ไม่นาน เธอก็ใจเย็นลง
ตนนั้นได้กางตาข่ายไว้ทั้งบนและล่างแล้ว ต่อให้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะพอมีฝีมือบ้าง ก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน!
พอคิดได้อย่างนั้น ฮั่วยั่นจือก็ยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ แล้วพูดไปว่า “ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าจะจัดการ ฉันก็แค่อยากร่วมมือกับคุณเย่เท่านั้น”
เย่เทียนอึ้งไป “ร่วมมือ? ร่วมมือเรื่องอะไรครับ?”
“ฉันแค่อยากให้คุณให้ความร่วมมือ ช่วยฉันยึดตระกูลซู!”
ระหว่างที่พูด บรรยากาศรอบตัวฮั่วยั่นจือก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่สาวน้อยที่น่าหลงใหลอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นราชินีแห่งวงการธุรกิจของจ๊กกลางอย่างแท้จริง จ้องมองเย่เทียนอย่างหยิ่งยโส ราวกับกำลังจ้องมองมดตัวหนึ่ง
“ช่วยคุณยึดตระกูลซู?”
พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้น กลับขำเยาะเย้ยออกมาอย่างน่าประหลาด “ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน คุณไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน?”
“ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรือแม้แต่ในอนาคต กำปั้นใหญ่ก็จะเป็นฝ่ายที่ถูกเสมอ!”
ฮั่วยั่นจือทำหน้าได้ใจ และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ในเมื่อฉันกล้าพูดออกจากปากว่าจะยึดตระกูลซู ฉันก็ต้องมีความสามารถที่มากพออยู่แล้ว!”
ระหว่างที่พูด เธอก็ปรบมืออย่างสบายๆ
ซิ่ว!
ทันทีที่เสียงปรบมือดังขึ้น ก็มีเงาของคนหลายคนพุ่งเข้ามาจากมุมต่างๆ ของวิลล่า ยืนอยู่ทุกด้าน และล้อมเย่เทียนเอาไว้
กลุ่มคนที่ออกมามีทั้งหมดสี่คน บนตัวของแต่ละคนต่างก็แผ่รังสีที่แข็งแกร่งออกมา เห็นได้ชัดว่าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
ฮั่วยั่นจือไม่ได้ปิดบังความได้ใจที่ตัวเองรู้สึกเลย
ความจริงแล้ว เธอก็มีสิทธิ์ที่จะทำตัวได้ใจแบบนี้
สมัยนี้ระดับดำนั้นสามารถเดินเบ่งไปทั่วประเทศจีนแล้ว นักบู๊ระดับเหลืองสี่คนนี้กลับยินดีที่จะเชื่อฟังคำสั่งของฮั่วยั่นจือด้วยความเต็มใจ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเธอมีความสามารถมากขนาดไหน
“ต่อให้ตอนนี้ผมจะรับปากกับคุณ แต่คุณไม่กลัวว่าหลังจากที่ผมจากไป แล้วผมจะกลับคำและเอาเรื่องนี้ไปบอกตระกูลซู ทำให้พวกเขาระวังตัวมากขึ้นเหรอครับ?”
เย่เทียนส่ายหน้าเบาๆ ยิ้มเยาะออกมาที่มุมปาก พร้อมกับทำหน้าลึกซึ้ง
“กลัวสิ!”
ฮั่วยั่นจือพยักหน้าอย่างจริงใจ “ถึงแม้คนของตระกูลซูจะรู้เรื่องเข้า ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่เปลี่ยน มันแค่จะทำให้ฉันเสียเวลามากขึ้นเท่านั้น”
“ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน คุณจึงต้องกินยาลูกกลอนในขวดนี้เข้าไป!”
ระหว่างที่พูด ฮั่วยั่นจือก็หยิบยาลูกกลอนขวดหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ
“มันคืออะไร?”
เย่เทียนลองดมกลิ่นดู สีหน้าก็ดูบูดเบี้ยวขึ้นมาทันที
“นี่คือยาพิษที่ฉันให้ปรมาจารย์ปรุงออกมา มันสามารถหลบซ่อนอยู่ในร่างกาย ต่อไปในวันนี้ของทุกเดือนคุณก็จำเป็นต้องกินยาถอนพิษหนึ่งเม็ด ไม่อย่างนั้นเลือดก็จะไหลออกจากทวานทั้งเจ็ด และท้องไส้เน่าเสียจนตาย!”
ฮั่วยั่นจือยังคงทำหน้าได้ใจ แต่ในส่วนลึกของดวงตากลับปรากฏความร้อนรนออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่