“หยินหยิน พูดอะไรของหลานน่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินโล่หยินและผู้เฒ่าทำท่าจะทะเลาะกัน ฉินเจิ้งรีบออกตัว
หลังจากตำหนิไปทีหนึ่ง ฉินเจิ้งถึงแนะนำกับเย่เทียนอย่างมีความหมาย
“คุณชายเย่ คนคนนี้เป็นเพื่อนของฉัน ชื่อว่าหลัวจิ่ง เป็นลูกคนที่สามของที่บ้าน จึงถูกเรียกว่าหลัวสาม เป็นจอมขี้เมาที่เลื่องชื่อไปถึงต่างแดน”
เลื่องชื่อไปถึงต่างแดน?!
เย่เทียนจับผิดคำสำคัญที่ฉินเจิ้งพูดออกมาได้อย่างฉับไว นัยน์ตาสีนิลหรี่ลงเล็กน้อย
กลิ่นอายอันตรายที่แผ่ซ่านออกจากตัวหลัวสามจางๆนั้น เย่เทียนไม่คิดอย่างไร้เดียงสาว่าเขาเลื่องชื่อไปถึงต่างแดนได้ด้วยการกินเหล้าเก่งหรอก เห็นท่าคงจะไม่ใช่คนธรรมดา!
เย่เทียนระแวงในใจ ทว่าไม่แสดงออกทางสีหน้าเลยสักนิด เขาพยักหน้าให้หลัวสามด้วยท่าทีสงบ “สวัสดีครับ”
“ดีอะไรกัน ฉันหลัวจิ่งเกลียดพิธีรีตองแบบนี้ที่สุด!”
“ไอ้หนุ่ม ฉันดูแล้วนายไม่ชอบฉันมากเลยนี่ มาสู้กับฉันสักตั้งมั้ยล่ะ”
ประโยคของหลัวสามเหมือนเป็นประโยคคำถาม แต่ความจริงแล้วเป็นประโยคบอกเล่า
“มาเจอกันโดยบังเอิญจริงเหรอ? หรือว่าเป็นการจัดฉากอย่างตั้งใจ?”
เย่เทียนผงะ เขาหันไปมองฉินเจิ้งอย่างมีความหมายและพึมพำในใจอย่างอดไม่ได้
แต่ไม่รอให้เย่เทียนตอบอะไร จู่ๆหลัวสามก็ลงมือฉับพลัน กระทืบเท้าและพุ่งไปหาเย่เทียนว่องไวดุจเสือดาว
กรงเล็บผอมโกรกราวกับฉีกขาดมิติได้ ส่งเสียงกึกก้อง พุ่งตรงไปที่ส่วนหัวของเย่เทียนอย่างดุดัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลัวสามบอกว่าจะลงมือแล้วจะลงมือจริงๆ ทุกคนในที่นี้ตั้งตัวไม่ทัน
ฝ่ามือดุดันที่สะท้อนในแววตาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าทางของหลัวสามคงตั้งใจจะปะทะกันจริงๆ แม้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ต้องมีกระดูกหักบ้างแน่ๆ
เย่เทียนใจกระตุก ลงมือโดยไม่มีความลังเล สองมือเหมือนฟาดลงบนโซฟาสบายๆ ทว่าคนทั้งคนกระโจนขึ้นกลางอากาศในพริบตาเดียว เฉียดกับฝ่ามือของหลัวสามและกระโดดข้ามหัวเขาไป
“โอ้โหไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่าไวดีเหมือนกันนี่”
นัยน์ตาขุ่นมัวของหลัวสามเปล่งประกายแวววับ เขาหันกลับมาอย่างคล่องแคล่ว กระโจนไปอยู่ตรงหน้าเย่เทียนด้วยท่าทางที่ดูเหมือนเชื่องช้า แต่แท้จริงแล้วรวดเร็ว
เขายังจู่โจมด้วยมือข้างเดียวตามเดิม ล็อคข้อมือเย่เทียนอย่างแม่นยำและพยายามจะจับมือเย่เทียนไพล่หลัง
เวลานั้น นัยน์ตาดำสนิทของเย่เทียนฉายแววกราดเกรี้ยวจางๆ เริ่มจะโดนยั่วโมโหบ้างแล้ว
อยู่ๆบอกจะลงมือแล้วก็ลงมือเลย ไม่ว่าใครก็คงไม่อารมณ์ดีนักหรอก
“คุณปู่!”
ฉินโล่หยินก็ได้สติกลับมา ตั้งท่าจะพูดอะไรกับฉินเจิ้งอย่างแตกตื่น
แต่ไม่รอให้เธอพูดอะไร ฉินเจิ้งกลับโบกมือและส่ายหัวเล็กน้อยไม่ให้ฉินโล่หยินยุ่ง
หน้าสวยๆของฉินโล่หยินนิ่งไป เธอมองฉินเจิ้งด้วยสีหน้าประหลาด และมองคนสองคนที่สู้กันอยู่ด้วยสีหน้ากังวล
ขณะเดียวกัน เย่เทียนมีการตอบสนอง เขาหมุนตัวราวกับเป็นงูและหลุดพ้นจากพันธนาการของหลัวสามอย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแค่นั้น พริบตาที่หมุนตัว เย่เทียนผู้เกรี้ยวกราดต่อยหลัวสามในพริบตาที่หันไปด้วยกำปั้นที่ส่งเสียงลมอื้ออึง
“ไม่เลวๆ อายุแค่นี้กลับมีฝีมือขนาดนี้ หาได้ยากจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่