“เจ้าหนุ่มนี่โผล่มาจากไหนกันแน่? ถึงขั้นใช้การฝังเข็มพลังชี่เป็น?”
“เป็นไปไม่ได้? เขาอายุแค่เท่าไหร่เอง!”
“หรือว่า เขาจะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แพทย์ที่ไม่ออกจากเขาอะไรทำนองนั้น?”
ชายชราชุดราชวงศ์ถังพูดทิ้งบอม ทำให้ทุกคนค่อยๆส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันออกมา
ในทางกลับกัน สีหน้าพึงพอใจของลู่โหย่วจื้อได้หายไปแล้ว และถูกแทนที่ด้วยสีหน้าอึมครึม
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเย่เทียนไม่เพียงแค่สามารถรักษาอาการป่วยของลุงคนนั้นได้ เขายังรู้จักการฝังเข็มพลังชี่อีกด้วย!
เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่เขารู้สถานะของชายชราชุดราชวงศ์ถังดี แม้เขาเป็นศิษย์ของว่านชิงเฟิง ก็ไม่กล้าถามอะไรทั้งนั้น!
จนถึงตอนนี้ในที่สุดเขาก็คิดได้ เข้าใจแล้วว่าทำไมว่านชิงเฟิงถึงเรียกเย่เทียนว่าหมอเทพเย่ คงเห็นถึงฝีมือการฝังเข็มพลังชี่ของเขาแล้ว?
“สารเลว เขาจะใช้การฝังเข็มพลังชี่เป็นได้ยังไง? ถ้าเขาใช้เป็นคงดีมากๆ!”
ลู่โหย่วจื้อคับแค้นในใจ ไม่มีกะจิตกะใจกับการแข่งครั้งนี้แล้ว คิดแค่ว่าอยากออกไปจากที่ที่ทำให้เขาขายหน้าแห่งนี้โดยเร็วที่สุด
เพียงแต่ลู่โหย่วจื้อเพิ่งหันไป ก็เห็นเงาดำๆแวบหนึ่งผ่านหน้า แล้วมีร่างร่างหนึ่งมาขวางทางเขาไว้
จะเป็นใครได้อีกนอกจากเย่เทียน?!
“คุณมายืนทำไมตรงนี้? ยังไม่รีบหลีกให้ผมอีก! ”
ลู่โหย่วจื้อลนลาน แต่ก็กลับมาปกติอย่างรวดเร็ว พลางพูดตำหนิด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณยังมีหน้ามาถามผมอีกเหรอว่าจะทำอะไร?”
เย่เทียนส่ายหัวไปมา กระตุกยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ผมอยากถามคุณว่า เมื่อกี้คุณเห็นผู้ป่วยอาการผิดปกติ ทำไมต้องตะโกนเรียกคนเสียงดังด้วย?”
“ผะ ผมนึกว่าคุณรักษาผิดพลาด ผมกลัวเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องเรียกคนให้มาดูสิ!”
ลู่โหย่วจื้อไม่คิดว่าตัวเองผิดสักนิด มีท่าทางว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว
“คุณยังคิดว่าตัวเองไม่ผิดอีกเหรอ?”
เย่เทียนเลิกคิ้วพลางพูดเสียงดัง:“ในฐานะที่คุณเป็นหมอคนหนึ่ง พบว่าผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ปฏิกิริยาแรกของคุณไม่ใช่รีบเข้าไปตรวจ แต่กลับจงใจร้องตะโกนเสียงดังให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะผม”
“คุณไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้ผู้ป่วยหายใจลำบาก? คุณให้คนเข้ามามุงเยอะขนาดนี้ทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกหรือเปล่า? พูดมาสิว่าตกลงแล้วคุณผิดไหม?!”
ดวงตาสีดำเข้มของเย่เทียนเย็นยะเยือก เขารู้ดีว่า ลู่โหย่วจื้อไม่พอใจตนเอามากๆ แต่เขาไม่ได้แคร์
แต่ลู่โหย่วจื้อกลับไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วย เพียงเพราะอยากเห็นเขาขายหน้า เรื่องนี้เย่เทียนทนไม่ได้จริงๆ!
“คุณพูดอะไร?!”
ลู่โหย่วจื้อมีสีหน้าเคร่งขรึมเข้าไปอีก “ผมเห็นว่าผู้ป่วยอยู่ในสถานการณ์อันตราย ผมกลัวคุณจัดการไม่ได้เลยเรียกทุกคนมานี่ผิดเหรอ?”
“คนที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่คนนอกอะไร เป็นสมาชิกสมาคมแพทย์แผนจีนทั้งนั้น มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มากมาย ให้พวกเขาจัดการไม่ดีกว่าเหรอ?”
“มันก็แค่ข้ออ้างของคุณ! ”
“ยังไงผมก็รู้สึกว่าการเป็นหมอคนหนึ่ง ควรมีจิตใจที่เมตตาต่อโลก แต่คุณกลับปล่อยให้ความริษยาในใจมาบดบัง ตัดสินใจอย่างไร้สติปัญญา”
“คนอย่างคุณ ไม่เหมาะที่จะเป็นหมอเลยสักนิด!”
เห็นท่าทีไร้สติของลู่โหย่วจื้อ คิ้วที่ขมวดเป็นปมของเย่เทียนกลับคลายลง
เดิมทีเขาแค่อยากกดความอวดดีของลู่โหย่วจื้อ แต่ใครจะไปคิดว่าลู่โหย่วจื้อไม่กลับใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่ยอมรับผิด คนที่ไม่กล้ายอมรับผิดแบบนี้คงก่อเรื่องใหญ่เข้าสักวัน!
“คุณเป็นใคร? คุณไม่ใช่สมาชิกสมาคมแพทย์แผนจีนของเรา คุณมีสิทธิ์อะไรบอกว่าผมไม่คู่ควรกับการเป็นหมอ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่