ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 462

"แกใช่มั้ย เย่เทียนที่ทำฉันเสียเรื่องไปหลายหน?"

เจิ้งเหวยกั๋วที่บุกเข้ามาไม่ได้สนใจเจิ้งเหวยหวาเลยสักนิด สายตาเขาจับจ้องเย่เทียน

“ฟังจากที่นายพูด เรื่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทแซ่เฉินก่อนหน้านี้เป็นฝีมือนายเหรอ?”

เย่เทียนกวาดสายตามองเจิ้งเหวยหวาอย่างมีความหมายอีกครั้ง ก่อนจะมองตาแก่สองคนนั้น แล้วจึงเบนสายตาไปที่เจิ้งเหวยกั๋ว

เจิ้งเหวยกั๋วคนนี้ตั้งแต่เข้ามาไม่ชายตามองเจิ้งเหวยหวาเลย เป็นที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของพี่น้องยังไม่ได้กลับมาดีดังเดิม แค่โดนกดดันมามาก

ประเด็นสำคัญคืออิทธิพลฝ่ายไหนที่กดดันสองพี่น้องตระกูลเจิ้ง? จะเป็นพรรคชิงเฉิงที่คาดเอาไว้? หรืออิทธิพลอื่นที่ใหญ่กว่านั้น?

แน่นอนว่าเย่เทียนไม่ได้เปลืองแรงใจไปขบคิดเรื่องนี้มากเกินไปนัก

เขาเชื่อว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจิ้งเหวยกั๋วจะเปิดเผยคำตอบในเร็ววัน!

"ใช่แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือพนักงานโรงงานไปขอค่าแรง หรือแม้กระทั่งรถที่ถูกปรับแต่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ฉันสั่งให้คนไปทำ!"

เจิ้งเหวยกั๋วยอมรับเรื่องเลวทรามที่เคยทำอย่างตรงไปตรงมา และมีสีหน้าเย้ยหยันดูหมิ่น "ตอนนี้แกรู้แล้วยังไง? แกจะกัดฉันรึไง?"

"ฉันยอมรับว่านายยั่วโมโหฉันสำเร็จ!"

เมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนแล้ว นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนฉายแววอาฆาต "ฉันรับรองเลยว่านายจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป!"

ถ้าไม่ใช่ว่ามีเขาอยู่ที่นั่นด้วย ตอนนั้นเฉินหวั่นชิงได้ตกสะพานไปกับรถคันนั้นแน่นอน

ใครก็ตามที่พยายามทำร้ายเฉินหวั่นชิง เขาไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆเด็ดขาด!

"เย่เทียน ฉันรู้ว่าแกพอมีความสามารถอยู่เล็กน้อย แต่……"

เจิ้งเหวยกั๋วยิ้มเย็นๆ ขยับเท้าหลีกทาง "มีผู้ใหญ่สองคนนี้อยู่ วันนี้แกอย่าหวังว่าจะได้ออกจากที่นี่!"

"ก็แค่ตาแก่เดนตายสองคน อย่างพวกเขาน่ะเหรอจะหยุดฉันไว้ที่นี่ได้ นายจะดูถูกฉันเกินไปหรือเปล่า"

เย่เทียนพึมพำในใจ เพิ่งความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า แต่ยังแกล้งทำหน้าตาดูหมิ่น

"สามหาว!"

เมื่อเขาพูดแบบนี้ ชายชราทางซ้ายยืนขึ้นในบัดดล "เหนือฟ้ายังมีฟ้า ต่อให้นายฆ่าธรรมบาลฝั่งซ้ายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไร้เทียมทาน!"

"เย่เทียน นายทำลายฐานทัพของพรรคชินเฉิงที่เมืองเจียงหนันไปไม่เท่าไหร่ เรื่องนั้นได้แต่โทษเจิ้นเซาสเฉินที่ไร้ประโยชน์เกินไป แต่….."

ชายชราทางขวาก็ยืนขึ้นเช่นกัน และตะคอกเสียงดุ "นายไม่สมควรไปฆ่าธรรมบาลฝั่งซ้ายเลย แค้นนี้ไม่ชำระ พรรคชิงเฉิงของเราจะเอาหน้าที่ไหนยืนอยู่ในโลกศิลปะการต่อสู้!"

“พรรคชิงเฉิงเหรอ? ฉันเย่เทียนไม่ฆ่าพวกคนกระจอกไร้นามอยู่แล้ว ตาแก่เดนตายอย่างพวกนายเป็นใครกัน กล้าบอกชื่อรึเปล่า?”

เย่เทียนผงะ แกล้งทำทีเป็นไม่แยแส ทว่านัยน์ตาดำทมิฬคู่นั้นกลับหรี่ลงเล็กน้อย หนักใจถึงขีดสุด

แม้ว่าเขาจะเดาเรื่องนี้ออกนานแล้ว แต่ตอนที่ต้องเผชิญหน้าจริงๆ ก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล!

ตาแก่ที่ผมขาวโพลนสองคนตรงข้ามต่างมีดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า บางครั้งถึงขั้นมีแรงกดดันใหญ่หลวงจางๆแผ่ซ่านออกมาด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่พวกอ่อนหัด!

ชายชราทางซ้ายก้าวออกมาก่อน เขาแค่นเสียงเย็น “ฉันคือรองเจ้าโถงแห่งโถงชิงยี พรรคชิงเฉิง ไต้หงเล่อ!”

ชายชราทางขวาบอกนามด้วยสีหน้าอึมครึมเช่นกัน “เจ้าโถงโถงชิงยี พรรคชิงเฉิง เหลยเฉิงยุ่น!”

เย่เทียนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปมทันที รำพึงในใจว่าพรรคชิงเฉิงสมกับเป็นการดำรงอยู่ที่อยู่ในยี่สิบอันดับแรกของโลกศิลปะการต่อสู้ พวกเขาจะไม่แก้แค้น แต่หากได้แก้แค้นแล้วย่อมใช้วิธีดุดัน!

แม้เขาจะไม่รู้ว่าโถงชิงยีคืออะไร แต่ตาแก่สองคนนี้คนหนึ่งเป็นรองเจ้าโถง อีกคนเป็นเจ้าโถงใหญ่ คิดแล้วต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่