“ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฉันในวันนั้น เหมิงหยานก็คงไม่ต้องพลาดการสอบเลย ยิ่งไม่มีทางที่จะล้มเลิกความฝันตั้งแต่เด็กของเธอหรอก”
“ถึงแม้หลังจากนั้นเหมิงหยานจะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ แต่เรื่องนี้มันทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับนางแย่ลงเรื่อย ๆ ถึงที่สุด”
ท่ามกลางสายลมจากทะเลที่พัดเข้ามา จี้เยียนหรันส่ายหัวอย่างขมขื่น ในเวลานี้ เธอได้เปิดเผยความลับที่ถูกฝังลึกลงไปในหัวใจของเธอให้กับเย่เทียนฟัง
“แต่นี่มันก็นานมากแล้ว ตอนนี้เธอคงมีชีวิตที่ดีในกองทัพแล้ว......”
เย่เทียนยกมือขึ้นแล้วลูบคางของเขาและแนะนำว่า “ถ้าคุณขอโทษเธอหน่อย บางทีความสัมพันธ์ของพวกคุณอาจจะคืนดีได้นะ”
“ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด แต่ว่า......”
จี้เยียนหรันสีหน้าขมขื่นและพูดอย่างจนใจว่า “ฉันกล้าบอกคุณได้เลยนะ ทุกครั้งที่เราเจอกัน ฉันอยากขอโทษนางมาก แต่ทุกครั้งนางจะพูดจาเสียดสีฉัน คุณก็รู้จักฉันดี ฉันจะขอโทษในตอนนี้ฉันโกรธอยู่ได้ไงล่ะ?”
“หรือว่าให้ผมลองไปคุยกับหยุนเหมิงหยานก่อน?”
เย่เทียนขว้างบุหรี่ที่มุมปากของเขาลงไปในทะเลและมองไปที่จี้เยียนหรันอย่างจริงใจ
ซึ่งดูจากสีหน้าของจี้เยียนหรันแล้ว เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าเธอต้องการขอโทษอย่างสุดซึ้งมากแค่ไหน แต่ว่ากำแพงของนิสัยความเคยชินมาขวางกันเธอไว้ ทำให้เธอไม่สามารถละทิ้งศักดิ์ศรีนั้นได้
รวมไปถึงทุกครั้งที่พวกเธอเจอกัน หยุนเหมิงหยานก็จะหาเรื่องทะเลาะกับเธอก่อน ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เธอยากที่จะเอ่ยคำขอโทษ
ถึงแม้การเข้าหาหยุนเหมิงหยานก่อน ด้วยนิสัยแข็งกร้าวของหยุนเหมิงหยานแล้วอาจจะถูกปฏิเสธหรือเหวี่ยงกลับ แต่ถ้าสามารถคลี่คลายความเหินห่างของพวกเธอทั้งสองได้ เย่เทียนก็ยอมรับความรู้สึกแย่ๆ นี้!
“อื้ม”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จี้เยียนหรันก็รวบรวมความกล้าและพยักหน้าตอบ
โดยที่ไม่รอช้า ในเมื่อจี้เยียนหรันเจ้าของเรื่องไม่ปฏิเสธ เย่เทียนก็ไม่เลือกที่จะอยู่ต่อบนดาดฟ้า เขาจึงลากจี้เยียนหรันกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงอีกรอบ
เมื่อกวาดมองไปโดยรอบ ด้วยไหวพริบที่ดี เย่เทียนก็สามารถมองเห็นหยุนเหมิงหยาน
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นการรวมตัวของเหล่ากองทัพ ซึ่งแน่นอนว่าหมาป่าต้องมีมากกว่าเหยื่ออยู่แล้ว ดังนั้นผู้หญิงที่อยู่ในนี้จะต้องมีชายฉกรรจ์มากมายคอยรุมล้อม
แต่ว่าหุ่นอันร้อนแรงของหยุนเหมิงหยานนั้นกลับตรงกันข้าม เพราะมีผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ข้างกายเธอ ซึ่งมันแต่ต่างกับผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง
สาเหตุเพราะว่าชายเหล่านั้นรู้ว่าตนไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าหาหยุนเหมิงหยาน เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุดในงานนี้!
ในสถานะที่พวกเขาไม่สามารถสู้กับหยุนเหมิงหยานได้ ถ้าหากพวกเขาเลือกที่จะเข้าหาเธอ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะถูกเธอทารุณกรรมได้
แต่เย่เทียนไม่ได้เหมือนคนกลุ่มนี้ เขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องจิปาถะเหล่านี้
“เยียนหรัน คุณรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวผมลองเข้าไปคุยกับเธอก่อน”
ในขณะนี้ หลังจากคุยกับจี้เยียนหรันเสร็จ เย่เทียนก็ตรงเข้าไปหาหยุนเหมิงหยาน
“หยุนเหมิงหยาน ว่างคุยเป็นการส่วนตัวไหมครับ?”
เมื่อเหลือบมองไปที่ชายร่างกำยำสองคนที่ยืนอยู่ข้างหยุนเหมิงหยาน เย่เทียนก็ขมวดคิ้วขึ้นเบาๆ
“ฉันจำคุณได้ คุณชื่อเย่เทียนใช่ไหม?”
เมื่อเสียงดังขึ้นข้างหู หยุนเหมิงหยานก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เธอหันมองไปก็พบว่าเย่เทียนเป็นคนที่เรียกชื่อเธอ จากนั้นรอยยิ้มอันแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น ชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างเธอก็ยิ้มแปลกๆ และถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกัน
“หืม?!” เย่เทียนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขา และเกิดความสับสนนัยน์ตาสีเข้มของเขา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหมายถึงอะไร
กูไม่ใช่เสือกินคนนะ ทำไมต้องถอยไปไกลขนาดนี้?
“ได้ข่าวว่าคุณไม่ใช่สมาชิกในกองทัพเลย แต่ท่านถังกลับชื่นชมในตัวคุณมาก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่