“เซ่อัน เย่เทียนไปไหนเหรอ?!”
การที่เฉินหวั่นชิงสามารถเป็นผู้นำของบริษัทแซ่เฉินได้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเลยล่ะ
แม้ว่าตอนเริ่มต้นจะไม่ได้คิดมากกับคำพูดที่ไพเราะเสนาะหูของเย่เทียนแต่ตอนนี้ที่เซ่อันพามาที่โฮมสเตย์ที่อยู่ห่างไกลออกมา เธอจึงสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
“เขาไปซื้อผักครับ!”
เซ่อันตะลึงและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณเย่ต้องการทำอาหารด้วยตนเอง จะไม่มีส่วนประกอบได้ยังไงกันล่ะครับ?”
“เซ่อัน นายคิดว่าฉันหลอกง่ายหรือไงกัน?จริงๆแล้วเย่เทียนไปไหนกันแน่!”
สีหน้าของเฉินหวั่นชิงมืดมนลงในทันที ดวงตาสีเข้มของเธอจ้องมองไปที่เซ่อันอย่างเย็นยะเยือกพร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “ทางที่ดีที่สุดคือนายบอกความจริงฉันมาไม่เช่นนั้นอย่าคิดที่จะอยู่ที่เมืองเจียนหนันอีกต่อไป!”
“ผม…..”
เซ่อันมีใจอยากคัดค้านแต่แรงกดดันจากเฉินหวั่นชิงนั้นมากเกินไป ในที่สุดเขาก็ต้องส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นและพูดว่า “เขาน่าจะไปพบตู้เคอหลินน่ะครับ”
“อะไรนะ?!”
เฉินหวั่นชิงเริ่มวิตกกังวลในทันที เธอรีบหันหลังและเดินออกไปข้างนอกอย่างไม่ลังเล “ไป!พาฉันไปหาพวกเขา!”
“ไม่ใช่นะครับ คุณเฉิน”
เซ่อันรีบวิ่งออกไปสองก้าวเพื่อหยุดเฉินหวั่นชิงเอาไว้พร้อมกับพูดอย่างขื่นขมว่า “คุณเย่เป็นกังวลว่าจะเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นเลยให้ผมพาคุณมาที่นี่ หากพวกเราไปตอนนี้ หากว่า.....”
“ฉันไม่ต้องการฟังสิ่งไร้ประโยชน์พวกนี้!”
ไม่รอให้เขาได้พูดจบ เฉินหวั่นชิงก็ตัดบทด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “หากนายไม่พาฉันไปแล้วเขาเกิดปัญหาอะไรขึ้นล่ะก็ฉันจะต้องสูญเสียบริษัทแซ่เฉินไปและจะฝังทั้งตระกูลของนายไปกับเขาด้วย!”
“ผม…….”
เซ่อันหมดหนทางและพูดอย่างขมขื่น “ผมเข้าใจแล้ว ผมจะพาคุณไปเองครับ”
……….
เมื่อเหลือบมองตู้เคอหลินที่เกรงกลัว เย่เทียนก็ได้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาหมดความสนใจในสิ่งๆนี้โดยสิ้นเชิง
เขาถามคำถามไปหลายอย่างแต่ตู้เคอหลินนั้นกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ไม่ต้องพูดถึงข่าวคราวของแก๊งหย่งเย่ แม้กระทั่งสำนักกุยอีเขายังไม่รู้เลย
“นายนี่ช่างเป็นลูกผู้ลากมากดีอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ นอกจากกินดื่มเที่ยวแล้วก็ดูจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ!”
เย่เทียนรู้สึกเสียอารมณ์กับตู้เคอหลิน ได้แต่ส่ายหัวและพูดว่า “นายทำให้ฉันไม่พอใจมากเลยล่ะ แบบนี้ก็แล้วกัน ฉันจะให้ทางเลือกนายสองทาง!”
“ทางแรก นายทำเหมือนกับหลู่อี้ กระโดดลงไปจากหน้าต่างเอง หรือทางที่สอง ฉันจะผ่าหัวของนายซะและจากนั้นก็ไปโรงพยาบาลเย็บแผลยาวๆสักสองสามเข็ม จะได้ไม่ต้องรู้เรื่องอะไรในอนาคตอีก”
“ฉัน ฉันเลือกได้เหรอ?” ใบหน้าของตู้เคอหลินเปลี่ยนเป็นขมขื่นในทันที
“แน่นอนว่าได้”
เย่เทียนยิ้มพร้อมกับหยิบขวดไวน์เปล่าที่ตั้งอยู่ที่พื้นขึ้นมาและลุกขึ้นจากเก้าอี้ จากนั้นค่อยๆเดินเข้าไปหาพร้อมกับพูดอย่างขี้เล่นว่า “ฉันก็พอเดาได้แหละว่านายคงไม่เลือกหรอก ฉันช่วยนายเลือกเองดีกว่า!”
“แก แกอย่าเข้ามานะ!”
เมื่อตู้เคอหลินได้ยินก็ตกใจกลัวจนตัวค้างร่นถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่ถอยเพียงไม่กี่ก้าวก็ติดกับผนัง หมดหนทางให้ถอยต่อ
“วางใจเถอะ!อย่างมากฉันก็แค่หักขานายสองข้างและนอนลงไปก็แค่นั้น นอนร้อยวันเดี๋ยวก็หายดี!”
เย่เทียนเดินไปถึงด้านหน้าของตู้เคอหลินพร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นอันตรายและค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ
โพล้ง!
แต่ในเวลานั้นเอง ประตูห้องก็ถูกเตะออกอย่างรุนแรง ร่างสองร่างพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วซึ่งนั่นก็คือเฉินหวั่นชิงและเซ่อัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่