"ให้พวกเอ็งเริ่มก่อนจะดีกว่า! ถ้าเราเริ่มก่อน พวกเอ็งจะไม่มีโอกาสได้ลงมือ!"
เซี่ยวหยุนเตือนด้วยความหวังดี ทำให้บอดี้การ์ดทั้งสี่คนถึงกับโกรธจนหัวร้อน และรู้สึกว่ามันจะดูถูกมากเกินไปหรือเปล่า?
"อวดดีชะมัด!"
บอดี้การ์ดคนแรกตะโกนขึ้นมาและกระโดดออกไป จากนั้นต่อยหมัดใส่หน้าของเซี่ยวหยุนอย่างสุดกำลัง
พรึ่บ!
แต่น่าเสียดายที่เซี่ยวหยุนสามารถรับหมัดที่ชกเข้ามาด้วยสุดกำลังของบอดี้การ์ดคนนั้นอย่างง่ายดาย
"เอ็งมีแรงแค่นี้เหรอ?"
เซี่ยวหยุนส่ายหัว จากนั้นใช้แรงที่ข้อมือ จนทำให้บอดี้การ์ดที่มีน้ำหนักประมาณเจ็ดสิบกว่ากิโกกรัมถึงกับลอยออกไป
พุ้ม!
บอดี้การ์ดผู้น่าสงสาร เขาสามารถรับรู้ถึงแรงอันมหาศาลจากมือของเขา ทั้งตัวของเขาลอยขึ้นกลางอากาศ จากนั้นแผ่นหลังกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงและฟาดไปที่พื้นอย่างจัง
เห็นเพียงเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อตู้เคอหลินเห็นอย่างนี้ ดวงตาอันลึกล้ำของเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ดูเหมือนว่าพี่น้องตระกูลเซี่ยวพี่เหตุผลมากพอที่จะเรียกค่าตัวสูงลิ่วขนาดนี้!
ในทางกลับกัน เซี่ยวเจี้ยนยังคงนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายใจ ซึ่งดูเหมือนเขาจะรู้ผลลัพธ์นี้ตั้งแต่แรกแล้ว
“ลุยพร้อมกัน!"
บอดี้การ์ดที่เหลืออีกสามคนต่างมองหน้ากันและต่างก็เห็นความหวาดกลัวนัยน์ตาของกันและกัน
เฮ้!
เมื่อพูดจบ บอดี้การ์ดทั้งสามก็วิ่งเข้าไปหาเซี่ยวหยุน ทั้งเตะและต่อย มุ่งไปยังเซี่ยวหยุนพร้อมกัน
แต่ทว่า ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เซี่ยวหยุนในระยะครึ่งเมตร ทันใดนั้น เซี่ยวหยุนที่มีรูปร่างอวบอ้วนที่อยู่ตรงหน้าก็หายไปต่อหน้าต่อตา!
"โดนซะ!"
เซี่ยวหยุนพูดอย่างเบาๆ ร่างกายที่อวบอ้วนพุ่งเข้าไปหาบอดี้การ์ดคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว และคว้าชายเสื้อของเขามา จากนั้นเหวี่ยงออกไปสุดแรง
พุ้ม!
บอดี้การ์ดร่างใหญ่ก็ลอยตามเพื่อนคนแรกไปและกระแทกกับกำแพงอย่างจัง
ส่วนบอดี้การ์ดที่เหลืออีกสองคนก็หนีชะตากรรมที่ต้องเจอไม่พ้น พวกเขาโดนจับเหวี่ยงใส่ออกไปเหมือนเดิม และไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาสู้อีก
"โอ๊ย! เอวผม!"
เวลาผ่านไปไม่นาน บอดี้การ์ดทั้งสี่ก็นอนกองกับพื้น พร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
แต่สีหน้าของตู้เคอหลินกลับดูมีความสุขมาก แม้เซี่ยวหยุนจะมีรูปร่างอ้วนท้วนไปหน่อย แต่การเคลื่นไหวและพละกำลังของเขานั้น ไวและแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งมาก
"ไม่เลว! ไม่เลว! สมเป็นยอดฝีมือจริงๆ!"
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ตู้เคอหลินก็ยืนขึ้นพร้อมกับความตื่นเต้นและปรบมือให้กับพวกเขา
เซี่ยวหยุนลงมือได้พอเหมาะเท่านั้น จากนั้นเหล่าบอดี้การ์ดก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก และยังคงแตะที่แผ่นหลังของตนด้วยสีหน้าความเจ็บปวด
"ดูพวกเอ็งสิ ปกติยังอวดดีต่อหน้าข้าว่าตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนนี้เจอของจริงเข้าไปแล้วสินะ"
ตู้เคอหลินขมวดคิ้วและตำหนิบอดี้การ์ดของเขา "พวกเอ็งรู้สึกขายหน้ากันบ้างไหม?"
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "คุณชายตู้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ……"
"ยืนทื่ออยู่ทำไม? ยังไม่รีบขอบคุณพี่เซี่ยวหยุนเขาที่ยอมออมมือให้!"
เขายังไม่ทันพูดจบ ตู้เคอหลินก็พูดแทรกขึ้นมาและเพ่งมองไปที่บอดี้การ์ดที่บ่นพึมพำอยู่
"ขอบคุณพี่เซี่ยวหยุนที่ออมมือครับ"
บอดี้การ์ดที่เหลือก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ได้แต่พูดเช่นเดียวกันกับเซี่ยวหยุน
การปะทะการเมื่อสักครู่นี้ ทำให้พวกเขารู้ซึ้งถึงความต่างชั้นของฝีมือ และตอนนี้พวกเขาต่างก็ยอมรับฝีมือของอีกฝ่ายมาก
เซี่ยวหยุนไม่ได้สนใจบอดี้การ์ด ได้แต่หันหลังกลับไปนั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบจานผลไม้ขึ้นมากินต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่