กับหยางซิงไห่นั้น เย่เทียนก็ถือว่าถูกใจมาทีเดียว ถ้าเกิดว่าเขามีความสามารถจริง เย่เทียนก็ไม่รังเกียจที่จะรับศิษย์ในนามเพิ่มอีกสักคน
และด้วยเหตุนี้ เย่เทียนจึงไม่ได้ใช้สุดกำลัง ทำเหมือนกำลังสอนวิชาไปด้วยเพื่อดูความอดทนของหยางซิงไห่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงหยางซิงไห่จะเป็นแค่คนธรรมดาแต่ก็มีความมั่นใจการต่อสู้มาก ให้ความสำคัญกับทุกการโจมตี เป็นบ็อกซิ่งมือดีคนหนึ่งเลย!
ผ่านไปไม่นาน หยางซิงไห่ที่สู้กับเย่เทียนตรงๆ ก็เริ่มต้านต่อไปไม่ไหว เหงื่อไหลออกจากหน้าผากเต็มไปหมด
ถึงเย่เทียนจะไม่ได้ใช้พลังอะไร แต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาก็ไม่ธรรมดา ทุกครั้งที่ปะทะกัน มันก็ทำให้หยางซิงไห่รู้สึกเหมือนกระดูกจะแตกหักไปทุกครั้ง
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับกัดฟันทนสู้ ราวกับเครื่องทำลายล้างที่ไม่รู้จักเหนื่อยไม่รู้จักเจ็บ โจมตีใส่เย่เทียนครั้งแล้วครั้งเล่า
แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกประมาณสิบนาที หลังจากที่เย่เทียนตั้งใจถอยออกมา ทั้งสองก็ได้ปะทะกันไปไม่ต่ำกว่าร้อยหมัดแล้ว มีแผลเกิดขึ้นตามตัวหยางซิงไห่เต็มไปหมด เลือดท่วมไปทั้งตัว จนทนดูไม่ได้เลย
แต่เขาก็ยังมีใจที่จะสู้ สายตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงฮึดอันกล้าแกร่ง!
“คุณใช้ได้เลย!”
พอเห็นว่าหยางซิงไห่น่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว เย่เทียนก็ไม่รีรอ ซัดหมัดอันรุนแรงออกไป
หยางซิงไห่ตกใจทันที ในใจอยากปัดป้อง แต่ร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับตามความคิดไม่ทัน ได้แต่มองดูกำปั้นที่อยู่ในดวงตาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ตุบ!
เสียงที่น่าอึดอัดดังขึ้น เย่เทียนได้ชกใส่หน้าอกของหยางซิงไห่อย่างจัง ทำเอาร่างกายที่น้ำหนักไม่น้อยกว่าร้อยห้าสิบปอนด์กระเด็นออกไป!
“โอ๊ย!”
หยางซิงไห่ทนไม่ได้จนต้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด ในใจอยากที่จะลุกขึ้น แต่ร่างกายที่เหนื่อยจนสุดขีดกลับไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย
“ผมแพ้แล้ว”
พอเห็นเย่เทียนค่อยๆ เดินเข้ามา หยางซิงไห่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมาที่มุมปาก เขารู้ดีแก่ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เทียนอ่อนข้อให้ เขาก็คงจะตายจนไม่รู้จะตายยังไงไปนานแล้ว
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน! หวังว่าต่อไปไม่ว่าคุณจะทำเรื่องอะไรก็ให้คำนึงถึงผลที่จะตามมาด้วย!”
เย่เทียนส่ายหน้าเบาๆ หมุนตัวแล้วเตรียมที่จะไป
หยางซิงไห่รู้สึกร้อนรนขึ้นมา ไม่สนใจความเจ็บที่เกิดขึ้นทั่วตัว ตะโกนออกมาดังๆ ว่า “รอเดี๋ยว! ผมอยากฝึกวิชากับคุณ คุณช่วยรับผมเป็นศิษย์ไม่ได้เหรอครับ?”
“ผมมันเป็นแค่คนที่ธรรมดา การที่คุณมาอยู่กับผมมันไม่มีอนาคตหรอก!”
เย่เทียนหยุดเดินทันที ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ยิ่งไปกว่านั้น รวมๆ แล้ว เราพบกันยังไม่ถึงชั่วโมงเลยใช่มั้ย? ผมยังไม่รู้จักคุณเลยสักนิด ถ้าเกิดได้ศิษย์ที่ทรยศขึ้นมาจะทำยังไง?”
“หืม?!”
หยางซิงไห่ถึงกับอึ้ง กัดฟันแล้วพูดไปว่า “งั้นก็ให้ผมติดตามคุณไปช่วงหนึ่งก่อน เมื่อผมพิสูจน์ตัวเองได้ คุณค่อยรับผมเป็นศิษย์จะได้มั้ยครับ?”
“จำเป็นต้องบีบให้ผมอธิบายอย่างชัดเจนให้ได้เลยใช่มั้ย?”
เย่เทียนถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ส่ายหน้าแล้วพูดไปว่า “ถ้าผมรับรู้ไม่ผิด ก่อนหน้านี้คุณเคยเป็นนักบู๊มาก่อน แต่ถูกคนทำลายวิชาไปใช่มั้ย?”
“ต่อให้ผมรับคุณเป็นศิษย์แล้วจะยังไง? ตันเถียนของคุณถูกทำลาย นอกจากว่าจะมียาชั้นยอดมารักษา ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้คุณก็ไม่มีทางได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักบู๊อีกแน่นอน!”
ถูกต้อง! เมื่อกี้ตอนที่ทั้งคู่ประมือกัน เย่เทียนก็ได้ตรวจสอบสภาพของหยางซิงไห่อย่างเงียบๆ ถ้าตัดเรื่องนี้ออก เขาก็พอใจในตัวหยางซิงไห่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่