“ยังมีใครจะขึ้นมาอีกมั้ย? ถ้าไม่มีแล้ว ผมก็สามารถสู้กับอิจิโร ยามาโมโตะ ได้แล้วใช่มั้ย?”
กรรมการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ปกติแล้ว ผู้ท้าชิงจำเป็นต้องชนะติดต่อกันสามครั้งก่อนถึงจะมีสิทธิ์ท้าดวลกับผู้คุมสังเวียนได้ แต่ว่าตอนนี้เย่เทียนได้แสดงความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งออกมา แล้วยังจะมีใครกล้ามาท้าทายอีก?
คำพูดของเย่เทียนนั้นเป็นเหมือนหินก้อนเดียวที่ทำให้เกิดคลื่นมากมาย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นนึกไม่ถึงว่าชายนิรนามชาวตะวันออกคนนี้ จะมาที่นี่เพราะอิจิโร ยามาโมโตะ !
“ปรมาจารย์ยามาโมโตะนั้นเป็นถึงปรมาจารย์แห่งดาบ แต่ไอ้หนุ่มนั่นกลับไปหาเรื่องเขาเนี่ยนะ?”
“ชนะไปแค่สองครั้งก็ทำตัวยโสขนาดนี้แล้ว ช่างไม่รู้จักเจียมตัวซะเลย!”
“ถึงไอ้หมอนั่นจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ถ้าปรมาจารย์ยามาโมโตะออกโรงจริงฉันว่ามันคงทนได้ไม่เกินห้านาทีหรอก”
ถึงเย่เทียนจะชนะสองครั้งติด แถมยังล้มไชยเชื้อที่เป็นนักมวยไทยชื่อดังเพียงการโจมตีเดียว แต่ผู้ชมที่อยู่ใต้เวทีก็ยังดูถูกเขาอยู่ดี จนพากันส่งเสียงที่ไม่ชอบใจออกมา
นี่มันก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ายังไงอิจิโร ยามาโมโตะ ก็คือคนที่ครองสังเวียนได้นานเป็นอาทิตย์ เอาชนะผู้ท้าชิงไปแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ทุกคนต่างเห็นพ้องที่จะพนันในความแข็งแกร่งของเขา
หันมองมาที่ตัวอิจิโร ยามาโมโตะ เอง เหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
“สามหาว! แกมาเรียกชื่อของอาจารย์ตรงแบบนี้ได้ยังไง?”
แต่ชายชาวประเทศหมิงที่ยืนอยู่ข้างๆ อิจิโร ยามาโมโตะ แสดงสีหน้าที่โมโหออกมา แล้วตะโกนออกไปว่า “ในเมื่อจงใจที่จะท้าทายอาจารย์ ถ้าอย่างนั้นก็ผ่านด่านของฉันให้ได้ก่อน!”
พูดจบ ชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วพูดกับอิจิโร ยามาโมโตะ อย่างนอบน้อม “อาจารย์ครับ ไอ้หมอนั่นมันโอ้อวดเกินไปให้ผมไปเจอกับมันหน่อยนะครับ!”
“เอาเลย!”
อิจิโร ยามาโมโตะ หันมองเย่เทียน แล้วพูดเตือนไปว่า “ระวังตัวด้วย ไอ้หมอนั่นไม่น่าจะรับมือได้ง่ายขนาดนั้น”
“อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง! ผมจะสั่งสอนมันให้เป็นอย่างดีเลยครับ!”
ชายหนุ่มขำออกมาอย่างชั่วร้าย แล้วเดินดุ่มๆ ออกไป เดินตรงไปบนเวที
เขามีชื่อว่าทาคาโอะ อูโนะ เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอิจิโร ยามาโมโตะ ได้รับความรักใคร่จากอิจิโร ยามาโมโตะ เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้ตามมาด้วย ตอนอยู่ที่ประเทศหมิงก็ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง
“ทาคาโอะ อูโนะนี่! ลูกศิษย์คนโปรดเพียงคนเดียวของปรมาจารย์ยามาโมโตะที่ใช้สามดาบ!”
“ถึงปรมาจารย์ยามาโมโตะจะไม่ได้ออกโรงด้วยตนเอง แต่การที่ทาคาโอะ อูโนะขึ้นสังเวียน เชื่อว่าไอ้หนุ่มนั่นก็น่าจะแพ้อย่างรวดเร็วเหมือนกัน”
“จะพูดมากให้เปลืองน้ำลายไปทำไม? ยังไม่รีบไปแทงฝั่ง ทาคาโอะ อูโนะอีก!”
พอได้ยินเสียงคำวิจารณ์ของผู้ชมที่อยู่ใต้เวที ทาคาโอะ อูโนะที่อยู่บนเวทีก็แสดงสีหน้าที่ได้ใจออกมา สายตาที่มองไปยังเย่เทียนก็ยิ่งดูถูกเข้าไปใหญ่
“ในเมื่อแกกล้าท้าทายอาจารย์ของฉัน เดี๋ยวฉันจะทำให้แกได้รู้ว่าอะไรคือการไม่สามารถรอดพ้นจากภัยที่ตัวเองสร้างขึ้นได้!”
“คุณเนี่ยนะ?”
เย่เทียนเบ้ปาก กวาดตามองไปยังดาบสามเล่มที่หนีบอยู่ตรงเอวของทาคาโอะ อูโนะ “คุณยังมีดีไม่พอ! ไม่แน่ตาแก่อย่างอาจารย์ของคุณอาจจะพอเป็นไปได้ก็ได้”
“บัดซบ!”
ทาคาโอะ อูโนะโมโหขึ้นมาทันที จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น “แกไอ้คนสามหาว อย่างแก วันนี้ฉันจะทำให้แกได้เห็นถึงความร้ายกาจของวิชาสามดาบของฉัน!”
“ชิ! ยังจะมาวิชาสามดาบอีก!”
เย่เทียนเบ้ปาก แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “เชื่อรึเปล่าว่าผมก็ยังสามารถล้มคุณได้ภายในหมัดเดียวเหมือนกัน?”
ทาคาโอะ อูโนะโมโหจนหน้าแดง จึงรีบหันมองไปยังกรรมการที่อยู่ข้างเวที เพื่อส่งสัญญาณให้เขารีบๆ เริ่มการต่อสู้ได้แล้ว
พอเห็นทาคาโอะ อูโนะมองมาอย่างนั้น กรรมการก็รีบโบกมือ ประกาศไปว่า “เริ่มการต่อสู้ได้!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของกรรมการ ทาคาโอะ อูโนะที่กำลังโมโหก็ได้ขยับขา พุ่งใส่เย่เทียนอย่างรวดเร็ว
“รอเดี๋ยว!”
จู่ๆ เย่เทียนก็ตะโกนออกมา ทำให้ทาคาโอะ อูโนะต้องหยุดชะงัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่