ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 676

ถึงอย่างไรเซวซิวเหวินก็เป็นเจ้าบ้านตระกูลเซว แม้ว่าเขาจะออกจากบ้านตระกูลเซวชั่วคราว แต่ทุกการเคลื่อนไหวของตระกูลเซวจะรอดพ้นจากสายตาเขาได้อย่างไรกัน?

ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งเขา พ่อบ้านข่งจะกล้าขวางสองพี่น้องตระกูลเซวต่อหน้าทุกคนได้อย่างไร?

"เย่เทียน นายท่านก็พูดถูก ใครให้คุณมีเลือดของตระกูลเย่ไหลอยู่ในตัวล่ะ?"

พ่อบ้านข่งที่เพิ่งกดวางสายก็ถึงกับถอนหายใจออกมา ในเมื่อเซวซิวเหวินก็บอกแล้วว่าจะไม่ให้เขายุ่งด้วย เขาเองก็ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เหมือนกัน เขาจึงทิ้งความคิดไร้สาระมากมายออกไป แล้วเดินโซเซกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอนของเขา

ส่วนเย่เทียนไม่รู้เลยว่าเซวซิวเหวินที่อยู่ต่างประเทศยังคงวางแผนที่จะจัดการเขา และในตอนนี้ เขายังคงอยู่กับสองพี่น้องตระกูลเซว และจี้เยียนหรันกับเพื่อนสาวที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขแล้วมุ่งตรงไปที่สวนสนุก

ภายใต้การนำโดยเจตนาของจี้เยียนหรัน พี่น้องตระกูลเซวทั้งสองก็ลืมเรื่องการบาดเจ็บของพ่อบ้านข่งไปก่อน พวกเขาพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานตลอดทาง และไม่นานนัก รถก็มาจอดตรงทางเข้าสวนสนุก

ทุกคนก็ลงมาจากรถ แม้ว่าเวลายังเช้าอยู่ แต่คนในสวนสนุกกลับเยอะมาก ผู้คนเดินสวนไปมาจนไหล่ชนกัน ราวกับน้ำที่ไหลมาไม่มีวันหมด

บางทีอาจเป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบ หยุนเหมิงหยานกับจี้เยียนหรันสองสาวนั้นดูมีความสุขมาก ส่วนพี่น้องตระกูลเซวกลับตรงกันข้าม เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด

นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงสองคนนี้ยืนกรานว่าจะมา พวกเขาก็คงไม่มีทางมาที่นี่หรอก

แต่เย่เทียนกลับรู้สึกสดใหม่เป็นพิเศษ ตั้งแต่เขาถูกไล่ออกมาจากบ้านตระกูลเย่ เขาไม่เคยได้มาที่สวนสนุกอีกเลย ถ้ามองในแง่มุมปัจจุบันแล้ว เรื่องพวกนี้จะดูไร้สาระไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความประทับใจของเขา

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าไปเล่นเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นแทบจะทุกจุด ในที่สุดพวกเขาก็หยุดลง

สองชั่วโมงครึ่งต่อมา พวกเขาทั้งห้าคนก็ได้มานั่งพักที่ร้านอาหารในสวนสนุก

"ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"

หลังจากสั่งอาหารกับพนักงานเสร็จ เย่เทียนรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยและรีบบอกกับคนอื่นๆ แล้วตรงไปที่ห้องน้ำทันที

แต่ทว่า ในขณะที่เขาเดินไปได้ครึ่งทาง เงาของคนคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

เย่เทียนซึ่งเป็นคนที่ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ทันทีที่คนคนนั้นพุ่งเข้ามา เย่เทียนก็ตอบโต้ออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการยื่นมือขวาออกไปและกันหมัดที่ชกเข้ามาของศัตรูได้อย่างแว่นยำ

"นี่นายเองงั้นเหรอ?!"

จู่ๆ ก็เหมือนถูกลอบสังหารบนถนน เย่เทียนรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่เมื่อหันไปเพื่อเตรียมจะด่าสักชุดหนึ่ง เขาก็เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายและทำให้เขาถึงกับอึ้งไปทันที

ซึ่งเขาคนนี้ก็คือชายที่ยืนอยู่ข้างผางติ้งกั๋วในงานแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้า และเป็นคนที่คอยตะโกนเชียร์ให้เขาถูกล้ม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหยวนเข่อเหวย

สักพักหลังจากนั้นเย่เทียนก็ตั้งสติได้พร้อมกับขมวดคิ้วพูดว่า "ตอนนี้ผมไม่ว่างมาเล่นกับคุณ ถ้าคุณอยากจะหาเรื่องต่อสู้กัน ไว้นัดกันพรุ่งนี้จะดีกว่า"

"เย่เทียน คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้จะมาสู้กับคุณ"

หยวนเข่อเหวยส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า "พอจะว่างไหม? ผมมีเรื่องอยากจะขอคุยกับคุณหน่อย"

"ไม่ว่าง!"

เย่เทียนปฏิเสธทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะวันนี้เขาตัดสินใจหยุดหนึ่งวันเพื่อใช้เวลากับจี้เยียนหรัน และเขาไม่ต้องการให้ใครมารบกวนอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หยวนเข่อเหวยกับตระกูลผางนั้นสนิทสนมกันมาก ส่วนเย่เทียนก็ไม่ถูกกับตระกูลผางดังนั้นการที่จะเป็นเพื่อนกับหยวนเข่อเหวยก็คงเป็นไปได้ยาก แล้วจำเป็นต้องรับปากไหม?

"ต้องปฏิเสธเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?"

หยวนเข่อเหวยก็เดาไม่ออกว่าเย่เทียนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ได้แต่ส่ายหัวแล้วยิ้มพูดอย่างขมขื่น "เย่เทียน เรื่องที่ผมจะพูดกับคุณนั้นเกี่ยวข้องกับคุณโดยตรงเลยนะ คุณแน่ใจว่าจะไม่ลองฟังหน่อยเหรอ?"

"ไม่ฟัง!"

เย่เทียนเหลือบไปมองด้วยหางตาและพูดอย่างเด็ดขาด "สุนัขแสนรู้เขาไม่ขวางทางหรอกนะ คุณรีบหลบทางไปจะดีกว่า ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่