เย่เทียนมองบัตรเชิญในมือตัวเอง สีหน้าประหลาดขึ้นมา
บัตรเชิญทำได้พิถีพิถันมาก เลี่ยมทองโดยรอบ ตรงกลางเขียนคำว่า ‘งานแข่งม้า’ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา
“พี่เย่ พี่คงไม่ค่อยรู้เรื่องคลับการแข่งม้าใช่ไหม?”
สังเกตเห็นว่าเย่เทียนมีสีหน้าเปลี่ยนไป เซวฟู่ยี่แนะนำอย่างรู้งาน “คลับการแข่งม้านี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศ มีประวัติศาสตร์อย่างต่ำหลายสิบปี ลูกค้าเป้าหมายล้วนแต่เป็นระดับมหาเศรษฐี ต้องมีค่าตัวอย่างน้อยหลักร้อยล้านถึงจะได้เป็นสมาชิก”
“ได้ข่าวว่าจวบจนตอนนี้คลับการแข่งม้ามีสมาชิกเกือบพันคน พูดแบบไม่เกินจริงเลยนะ ถ้าสมาชิกทุกคนของคลับการแข่งม้านี้เกิดอุบัติเหตุ เศรษฐกิจของประเทศได้ถอยหลังอย่างน้อยห้าสิบปี!”
เย่เทียนได้ฟัง พยักหน้าอย่างใช้ความคิด ฟังจากที่เซวฟู่ยี่พูดมา คลับการแข่งม้าเป็นเหมือนค่ายรวมเศรษฐีชัดๆ!
แต่ที่เย่เทียนคิดไม่ตกคือเขาไม่ได้สนิทกับหลู่ซีซาน ทำไมอยู่ๆผู้หญิงคนนี้ถึงส่งบัตรเชิญมาให้? เธอมาดีหรือมาร้ายกันแน่?
ครุ่นคิดไปมา เย่เทียนแกะซองจดหมายออก ในนั้นนอกจากมีบัตรเชิญแล้ว ยังมีเหรียญตราฝังเพชรสีม่วงอีกด้วย!
เย่เทียนหยิบเหรียญตราฝังเพชรม่วงขึ้นมาด้วยสีหน้างุนงง และสอบถามกับเซวฟู่ยี่ “แล้วนี่อะไร?”
“เฮ้ย! เหรียญตราเพชรม่วงสำหรับสมาชิกของคลับการแข่งม้า?!”
เมื่อเห็นเหรียญตราในมือเย่เทียน เซวฟู่ยี่ตาโตขึ้นมาทันที จนอดร้องเสียงหลงไม่ได้ “ยัยหลู่ซีซานน้ำเข้าสมองเหรอ ถึงขั้นมอบเหรียญตราเพชรม่วงให้เลยหรือนี่?”
“พูดอะไรของนาย นี่นายดูถูกฉันเหรอ?”
เซวฟู่ยี่เหนื่อยใจสุดๆ เขายิ้มเฝื่อนๆและลูบสันจมูก “ผมจะบอกพี่อย่างนี้แล้วกัน แม้ว่าสมาชิกของคลับการแข่งม้าจะมีเกือบพันคน แต่การจะได้เหรียญตราเพชรม่วงนี้มาจำต้องผ่านบททดสอบในหลายๆด้าน แม้แต่อารองของผมยังไม่มี พี่ว่าเจ๋งมั้ยล่ะ?”
ขณะที่พูด เซวฟู่ยี่แสดงความอิจฉาเย่เทียนโดยไม่ปิดบังเลยสักนิด เหรียญตราเพชรม่วงนี่ใช่ว่ามีเงินก็เอามาได้นะ!
“ขนาดอารองของนายยังไม่มีเหรอ?”
เย่เทียนชะงัก ก่อนจะได้สติ หลู่ซีซานที่เคยพบหน้าตัวเองแค่ครั้งเดียวไม่คิดเลยว่าจะมอบของขวัญให้ตัวเองชิ้นใหญ่ขนาดนี้
“อืม พ่อผมสิมีอยู่อันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทำไมอารองผมถึงไม่มี”
เซวฟู่ยี่ส่ายหัว พูดเซ็งๆ “ผมยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดอยู่ในวงการมานานเยี่ยงนี้ ยังได้แค่เหรียญตราเงินขาว หากเปรียบเทียบกับผู้อื่นคงได้โมโหจนตายจริงๆสินะ”
คิดมาถึงตรงนี้ เย่เทียนหยิบบัตรเชิญขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะสะบัดบัตรเชิญไปมาและพูดกับเซวฟู่ยี่ด้วยรอยยิ้มจางๆ “เป็นไง? ยังกล้าออกไปเที่ยวเล่นกับฉันอยู่ไหม?”
“ทำไมผมต้องไม่กล้าด้วย!”
เซวฟู่ยี่ผงะ ก่อนจะได้สติทันควัน การติดตามเย่เทียนนอกจากจะได้พบสาวในฝันอย่างหลู่ซีซานแล้ว ไม่แน่อาจได้เจอสาวสวยสุดยอดชื่อดังคนอื่นๆด้วย เขาจะมีความเห็นอื่นได้ยังไงกัน?
คิดไปว่ายังไงเสียนี่ก็เป็นคำเชิญจากสาวสวย ทั้งสองคนไม่ได้บอกใคร แอบขับรถคันหนึ่งมุ่งหน้าไปทางคลับการแข่งม้า
หลังจากขับรถไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็มาจอดอยู่หน้าสถานที่ตกแต่งหรูหราแห่งหนึ่ง
เย่เทียนกวาดสายตามองไปรอบๆผ่านหน้าต่างรถ บรรดารถที่จอดอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นรถหรูทั้งนั้น อาจเพราะวันนี้มีแข่งม้าด้วย คนมาที่นี่จึงไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่