หลังจากเย่เทียนขับรถพุ่งเข้ามา เลือดปีศาจดูไม่แตกตื่นเลยสักนิด เขาส่ายหัวอย่างดูหมิ่น “รู้ทั้งรู้ว่าเปล่าประโยชน์กับฉัน ทำไมต้องพยายามเสียเปล่าด้วยล่ะ?”
ขณะที่พูด เลือดปีศาจขยับเท้าเบาๆ คลาดกับรถอย่างคล่องแคล่ว ไม่เป็นอะไรเลยสักนิด!
แต่ เย่เทียนเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้ว เท้ายังเหยียบคันแร่งไว้มิด ขับรถหนีอย่างรวดเร็ว
เขารู้จักปากหยวนเข่อเหวยว่าเลือดปีศาจเป็นผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า ต่อให้เขามั่นใจแค่ไหน ก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคู่ต่อสู้ของเลือดปีศาจ การหนีเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“นายนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ”
ไม่รอให้เย่เทียนโล่งใจ เสียงหัวเราะประหลาดแสบหูของเลือดปีศาจดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง
“เวรเอ๊ย!”
เย่เทียนตะลึง รู้สึกถึงความอันตรายที่หลังคอลางๆ แทบจะหดหัวด้วยสัญชาตญาณ
เพียะ!
วินาทีต่อมา เย่เทียนรู้สึกมีแรงสัมผัสเย็นเยียบทะลุผ่านรูขุมขน กระจกบังลมหน้ารถพลันมีรูกลมเล็กๆหลายรูเกิดขึ้น
นัยน์ตาเย่เทียนหรี่ลงเล็กน้อย ไม่ทันได้คิดมากอะไร หันไปปล่อยกำปั้นทันที ต่อยเข้าที่ตัวของเลือดปีศาจซึ่งไม่รู้ว่ามานั่งอยู่เบาะหลังตั้งแต่เมื่อไหร่
“ช้าเกินไป!”
เลือดปีศาจเย้ยหยัน รอบตัวบิดเบี้ยว ไม่รอให้หมัดของเย่เทียนกระแทกลงมา เขาก็เคลื่อนตัวไปอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับอย่างน่าพิศวง
ไม่เพียงแค่นั้น ในมือเขาเปล่งแสงสีฟ้า กลายเป็นแท่งน้ำแข็งอย่างรวดเร็วแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พร้อมไปที่หน้าเย่เทียนอย่างแรง
เย่เทียนตระหนกตกใจ รีบกดที่ปรับเบาะนั่ง ขณะที่หลบพ้นอย่างหวุดหวิด เขาถีบเลือดปีศาจไปด้วย
ตู้ม!
ประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับโดนเย่เทียนถีบกระเด็น ทว่าเลือดปีศาจกลับชิงหายตัวไปก่อนหน้านั้น
เย่เทียนเลิกคิ้ว พลันรู้สึกถึงคลื่นพลังภายในจากหลังคารถ เขาเปิดประตูรถโดยไม่ลังเล เลือกที่จะกระโดดออกจากรถในทันใด
ตึงตึง!
แทบจะทันทีที่เย่เทียนกระโดดออกมา แท่งน้ำแข็งแหลมคมทะลุลงจากหลังคารถแท่งแล้วแท่งเล่า ทิ่มที่นั่งคนขับเป็นรูยั้วเยี้ย
แม้จะหลบการโจมตีถึงแก่ชีวิตพ้น แต่เย่เทียนที่กระโดดลงจากรถตอนขับด้วยความเร็วสูงก็ไม่ได้ดีนัก เขากลิ้งอยู่บนพื้นหลายตลบ เจ็บจนหน้าเหยเกไปหมด
ส่วนรถออดี้ที่เป็นของซ่านหงเลี่ยงพุ่งออกไปในทางตรงโดยไม่มีผู้ขับ และชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางดังสนั่น จนเกิดเปลวเพลิงท่วมฟ้า!
“ดูท่าฉันจะคาดหวังกับนายสูงไป”
ไม่รอให้เย่เทียนผุดลุกขึ้น เสียงเสียดหูของเลือดปีศาจดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง
เย่เทียนรู้สึกขนลุก รีบลุกขึ้นโดยไม่สนความเจ็บปวดที่ร่างกาย นัยน์ตาสีนิลจ้องเลือดปีศาจที่ห่างออกไปหลายเมตรอย่างกลัดกลุ้ม
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจของเย่เทียนขมขื่นถึงขีดสุด ชาติก่อนเขาก็เคยอยู่ระดับฟ้า ดูจากฤทธิ์เดชของเลือดปีศาจแล้ว เจ้านี่ไม่ได้เพิ่งถึงระดับฟ้า เขาต้องอยู่มาสักพักแล้วแน่นอน ไม่ใช่คนที่เขาในตอนนี้ต่อกรด้วยได้!
โลกนี้มีคนอยู่มากมาย การดำรงอยู่สยดสยองเช่นนี้ทำไมถึงหมายหัวแค่ตัวเองล่ะ?
โบราณว่าไว้ : หมาจนตรอกยังรู้จักกระโดดกำแพง กระต่ายโมโหยังรู้จักกัดคน
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่มือของเลือดปีศาจ แต่เย่เทียนไม่อาจยอมมอบศีรษะรอความตายอยู่เฉยๆได้ ต่อให้ต้องตาย เขาก็ขอกัดเนื้อเลือดปีศาจติดมาด้วยสักคำเถอะ!
“นายตามฉันมาต้องการอะไรกันแน่”
ชั่วขณะนั้น เย่เทียนไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตีเลือดปีศาจ เขายืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แอบเร่งคัมภีร์หวงเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสภาวะที่พร้อมที่สุด
เลือดปีศาจยิ้มชวนขนลุก และเอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “ฉันสืบอดีตของนายมาแล้ว มีอยู่ปัญหาหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่