ฟู่จื้อเฉียงเดินมาข้างหน้า แล้วนั่งลงตรงหน้าของเสชื่อ ยื่นมือไปดึงหน้ากากของเสชื่อออก จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ชอบใจว่า “ครั้งนี้การที่แกตกมาอยู่ในมือฉัน ฉันรับรองได้เลยว่าแกจะทรมานยิ่งกว่าตาย!”
ระหว่างที่พูด เขาก็ได้ลุกขึ้น แล้วกระทืบขาขวาของเสชื่อจนหักอย่างไม่ลังเล ทำลายโอกาสในการหนีของเสชื่ออย่างสมบูรณ์
พอเห็นฟู่จื้อเฉียงหมุนตัวเตรียมที่จะไป เย่เทียนก็เลิกคิ้วขึ้น และรีบพูดไปว่า “ลุงฟู่ คุณควรบอกข้อมูลของบริษัทนักฆ่าอะไรนั่นกับผมก่อนมั้ยครับ?”
“พรุ่งนี้เธอไปหาฉันที่ โรงแรมโฟร์ซีซั่น!”
ฟู่จื้อเฉียงได้ยกเสชื่ออย่างกับลูกไก่ แล้วเดินดุ่มๆ หายไปจากสายตาของเย่เทียน
“ว่าแล้ว! สาวน้อยฟู่เซิ่งหนานนั่นไม่มีทางพูดกับฉันดีๆ แน่นอน”
เย่เทียนหงุดหงิดจนสบถออกมา แต่ก็ไม่ได้อยู่ตากลมบนดาดฟ้าต่อ และได้เดินลงตึกไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
สภาพของใต้ตึกในตอนนี้ สามารถใช้คำว่าอนาถได้เลย
เหล่าลูกกระจ็อกที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้น ต่างพากันส่งเสียงครวญครางออกมา บ่งบอกว่ากำลังทรมานมาก
“เธอแพ้แล้ว!” ตี๋ต้าจื้อยื่นอยู่ตรงข้ามฮาชิโมโตะ มินาโตะด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
ฮาชิโมโตะ มินาโตะสีหน้าอ่อนแรง ไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงที่จะสู้อีกต่อไปแล้ว พร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความอับจนหนทางอย่าสุดซึ้ง แล้วพูดตัดพ้อว่า “ฉันแพ้แล้ว”
พอพูดอย่างนั้นออกมา เหล่าลูกน้องของอูชิงเจ๋อทั้งยังอดทนอย่างสุดกำลังก็พากันหมดกำลังใจ และถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว ตาชั่งแห่งชัยชนะได้เทมาทางเย่เทียนอย่างสมบูรณ์แล้ว
และในตอนนั้นเอง เย่เทียนถึงได้เดินออกมาจากกลางฝูงชน มายืนอยู่ตรงหน้าของฮาชิโมโตะ มินาโตะอย่างไร้รอยขีดข่วน แล้วมองเธออย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า
พอเห็นเย่เทียนอีกครั้ง ฮาชิโมโตะ มินาโตะก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพร้อมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้สูญสลายไปหมดแล้ว ความไม่พอใจของเธอแค่คิดก็รู้แล้ว ครั้งนี้เธอแพ้อย่างราบคาบเลยจริงๆ!
“ว่ามา! หลังจากนี้คุณคิดจะจัดการฉันยังไง?”
ฮาชิโมโตะ มินาโตะไม่ใช่คนโง่ รู้ดีว่าเย่เทียนไม่ได้ต้องการชีวิตเธอ ไม่อย่างนั้น เธอคงอยู่ไม่ถึงตอนนี้หรอก
“พูดตามตรง ถ้าเป็นไปได้ผมเองก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับสาวสวยอย่างคุณหรอก แต่พี่ชายของคุณมันขี้งกเกินไป ตอนอยู่ที่สามเหลี่ยมทมิฬผมอุตส่าห์ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่เขากลับมอบของให้ผมนิดหน่อยเพื่อเป็นการตอบแทน ผมเหมือนขอทานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เย่เทียนเบะปาก พอนึกถึงความเหมาะสมของสถานการณ์แล้ว เลยไม่ได้พูดอะไรมาก โบกมือให้ตี๋ต้าจื้อพาตัวฮาชิโมโตะ มินาโตะไปก่อน
ทันใดนั้น ภายใต้การคุ้มครองของสมาชิกของแก๊งมังกรฟ้า เย่เทียนได้เดินเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของ皇极
กู่เจิ้นเจียงกับอูชิงเจ๋อที่ล้มอยู่ในหอประชุมได้ถูกลากออกไปตั้งนานแล้ว
นอกจากกลิ่นคาวเลือดกลางอากาศที่ยังไม่จางหายแล้ว มันก็เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลย
เมื่อร่างของเย่เทียนปรากฏขึ้น มันก็ดึงดูดสายตาของผู้คนในพริบตาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย โดยเฉพาะกู้หยุน ดวงตาสวยๆ คู่นั้นของเธอมองตรงมาที่เย่เทียน ถ้าไม่ได้เย่เทียนช่วยไว้ เกรงว่าบทสรุปของวันนี้คงไม่ได้ได้ออกมาแบบนี้
“ดูท่า ทุกอย่างคงเรียบร้อยแล้วสินะ?”
ดวงตาสีดำคู่นั้นของเย่เทียนกวาดมองไปทั่วห้อง สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่กู้หยุน “คุณกู้ครับ คุณไม่คิดจะกล่าวอะไรหน่อยเหรอครับ?”
กู้หยุนตั้งสติได้ทันที ทำไมจะไม่เข้าใจว่าเย่เทียนเตือนให้เธอตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่จะซื้อใจคน
เธอจึงรีบลุกขึ้นมา “ทุกท่านโปรดวางใจ พรุ่งนี้ทุกอย่างยังคงเดิม นอกจากนั้น เร็วๆ นี้ฉันยังจะเลือกรองหัวหน้าแก๊งมาใหม่อีกสองคนตามผลงานที่ทุกท่านแสดงออกมา ส่วนจะใช้วิธีอะไรในการเลือกนั้น แล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกทีภายหลังค่ะ”
พอพูดอย่างนั้นออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ถึงกับตกใจ นี่มันถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ทันใดนั้น ทุกคนก็หันมองไปยังพวกพ้องที่อยู่รอบๆ จินตนาการได้เลยว่า หลังจากนี้คงต้องมีการแย่งชิงกันอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่