ผู้จัดการไม่ได้กังวลเฮ่อเปียว หรือตามจริงแล้ว เขาไม่สนใจว่าเฮ่อเปียวจะเป็นหรือตายด้วยซ้ำ!
เรื่องมาถึงขั้นนี้ แผนการอะไรก็ล้วนไม่ได้ผล ทางเดียวก็คือสู้ตายกับฝั่งตรงข้าม!
เขาได้เตรียมใจไว้พร้อมแล้ว ถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จก็ยอมตาย!
อย่างไรเสีย ถ้าไม่นำสารพันธุกรรมกลับไป เขาก็ไม่ได้รับการตอบแทนอะไรที่ดีเหมือนกัน
“ผู้จัดการครับ เป้าหมายหมายเลข2เป็นตัวปลอมครับ!”
“เป้าหมายหมายเลข1ก็ปลอมครับ!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงรายงานเข้ามาจากวอร์ ทำให้ผู้จัดการเผยรอยยิ้มแปลกๆ ออกมา “คิดไม่ถึงว่ากูนี่ก็โชคดีเหมือนกัน เลือกมั่วๆ ก็ถูกทางเสียด้วย”
ผู้จัดการหยิบวอร์ขึ้นมา แล้วก็สั่งการลงไปอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ในเมื่อทางฝั่งพวกมึงเป็นตัวปลอม งั้นพวกมึงก็รีบมาที่นี่เลย!อย่าไปเสียเวลาอยู่ที่นั่น”
“รับทราบครับ!”
ในวอร์มีเสียงตอบกลับมาสั้นๆ แต่ผู้จัดการทำเหมือนกับไม่ได้เสียอย่างนั้น สายตาจับจ้องไปยังหน้าจอไอแพดในมือ ที่แสดงภาพรถสองคันกำลังค่อยเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้!
ผู้จัดการอดบ่นพึมพำออกมาไม่ได้ สายตาทั้งสองก็เผยความเยือกเย็นออกมา “มาเลย!กูรออยู่ที่นี่นานแล้ว!”
……
ในขณะเดียวกัน เย่เทียนที่นั่งอยู่ในรถยนต์นั้นก็เหมือนจะไม่รู้เลยว่าด้านหน้ามีบริษัทนักฆ่ามาดักรออยู่ด้านหน้า ในหัวคิดแต่เรื่องของเสว่อิ่งอย่างเดียว
เขาไม่มั่นใจว่าวันนี้เสว่อิ่งจะปรากฏตัวหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ข่าวดีอะไรจากเซ่เจียเลย ถ้าเสว่อิ่งมาจริงๆล่ะก็ เกรงว่าเขาคงจะต้องสู้สุดชีวิตแล้ว
ประมือกับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ ถ้าไม่ตายก็คงต้องพิการแน่นอน!
ทันใดนั้นเอง หยวนเข่อเหวยก็เหมือนจะรู้ว่าเย่เทียนกำลังคิดอะไร เลยอดถามไม่ได้ว่า “เย่เทียน ถ้าเสว่อิ่งมาล่ะก็ คุณมีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะชนะ?”
“ผมจะเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกัน!ถึงผมจะมีวิธีอะไรก็ต้องสู้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
เย่เทียนก็มองบนใส่อย่างหัวเสีย แล้วยิ้มแหยพูดว่า “ผมได้แต่พยายามยื้อไว้เท่านั้น พอพวกคุณออกไปได้ไกลแล้ว ผมค่อยหาทางหนีเอา”
หยวนเข่อเหวยก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิด แล้วแนะนำว่า “ให้ผมช่วยอีกแรงดีไหม? ให้พวกคนอื่นๆ ไปส่งสารพันธุกรรมแทน”
“ช่างเถอะ!คุณตามไปส่งสารพันธุกรรมพร้อมกับกับคนอื่นๆ ดีกว่า!”
เย่เทียนส่ายหัว ปฏิเสธความหวังดีของหยวนเข่อเหวยไป “ยิ่งกว่านั้น ทางฝั่งบริษัทนักฆ่าก็ไม่ใช่จะรับมือได้ง่ายๆ ป้องกันไม่ให้พวกนั้นมีจังหวะมาแย่งไปได้”
พอพูดออกไป เปาโสงที่นั่งอยู่ข้างๆ เบาะคนขับก็เหมือนจะไม่ยอม “หัวหน้าแย่ คุณพูดแบบนี้ ผมไม่ค่อยอยากฟังเลย ถึงแม้พวกเราจะไม่เก่งเหมือนกับหัวหน้าหยวน แต่อย่างน้อยก็เป็นหน่วยรบพิเศษอันดับต้นๆ ของประเทศเหมือนกันนะ แค่บริษัทนักฆ่ามันจะยากสักแค่ไหนเชียว? ให้หัวหน้าหยวนไปช่วยคุณเถอะ!”
“อย่าเข้าใจผิดไป ผมไม่ได้ดูถูกพวกคุณ แต่ผมดูถูกเขาต่างหาก”
เย่เทียนส่ายหัว สายตาก็จับจ้องไปยังตัวของหยวนเข่อเหวย “ถึงแม้คุณกับผมยังไม่เคยได้ประลองฝีมือกันจริงๆ สักที แต่ถ้าคิดจะจับคุณกดลงมันอยู่เวลาเท่านั้นเอง แต่ว่าจะเผชิญหน้ากับปีศาจเลือด ผมมองไม่เห็นโอกาสชนะได้เลยจริงๆ”
นิ่งไปสักพัก เย่เทียนก็ถอนหายใจพูดว่า “อย่างไรเสีย ปีศาจเลือดก็ยังเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับฟ้าเลยเชียวนะ!”
เดิมทีหยวนเข่อเหวยคิดจะเถียงกลับไป แต่คำว่าผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า กลับทำให้เขาหุบปากลง
เขากับเย่เทียนไม่ว่าใครจะแข็งแกร่งกว่าใคร แต่เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า ต่อให้สองคนรวมพลังกัน ก็ยื้อเวลาได้ชั่วขณะเท่านั้น!
ในตอนนี้ ในรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เย่เทียนไม่ได้พูดอะไรแล้ว แอบเตรียมตัวเองให้พร้อมที่สุด
ในขณะเดียวกัน ในหัวของเขาก็นึกถึงภาพที่ตนเองเคยสู้กับปีศาจเลือดอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนี้เขาย่ำแย่มาก ถ้าตอนท้าปีศาจเลือดไม่ได้รั้งหยุดมือไว้ล่ะก็ เกรงว่าเขาคงจะตายคาที่ไปแล้ว
เพียงแต่ว่า ที่เย่เทียนแปลกใจก็คือ ทำไมปีศาจเลือดถึงได้เชื่อคำพูดของอาจารย์ระดับผู้แข็งแกร่งระดับฟ้าสองคนทางด้านหลังอย่างง่ายดายนะ? แถมยังยอมให้เวลาตนเองได้เรียกเขาออกมาด้วย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่