“กูจะดูสิว่ามึงจะรับกูได้สักกี่กระบวนท่า!”
ตอนที่เย่เทียนตะโกนออกมาด้วยความโมโหนั้น เงาลวงตี้จวินที่ด้านหลังของเย่เทียนก็ยื่นมือซ้ายออกมา ฝ่ามือใหญ่ๆ ราวกับภูเขาก็ทับลงไปที่ตัวของผู้จัดการ
ตูม!
ตอนที่สัมผัสกันนั้น โล่ทิพย์ป้องกันกายของผู้จัดการก็เต็มไปด้วยรอยแยก ราวกับพร้อมจะแตกออกได้ทุกเมื่อ
ผู้จัดการก็มีสายตาผงะขึ้นมาทันที มีหรือจะรอช้า รีบเคลื่อนฝีเท้าหลบหนีออกไปทันที
โครม!
ฝ่ามือยักษ์เงาหลอน ทับลงที่พื้นอย่างแรง จนเกิดเป็นพลังกระจายออกไปทั่วทั้งแปดทิศ
ผู้จัดการที่ถูกทำลายโล่ทิพย์ป้องกันกายไปแล้ว ก็ถูกพลังซัดกระเด็นหมุนตัวออกไปหลายตลบ ยากกว่าจะยืนนิ่งขึ้นมาได้ แล้วก็อดที่จะกระอักเลือดออกมาไม่ได้ สีหน้าก็ขาวซีดขึ้นมาทันที
ถึงแม้จะดูไม่จืดไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตรอด!
แต่ เย่เทียนก็ไม่ได้ให้โอกาสผู้จัดการได้ผ่อนหายใจเลยแม้แต่น้อย รีบเคลื่อนฝีเท้าทันที แล้วก็กระโจนไปยังตัวของผู้จัดการราวกับพยัคฆ์ร้าย จะจัดการเขาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด!
ในขณะเดียวกันนั้น ฟู่จื้อเฉียงกับเฮ่อเปียวก็สู้อย่างดุเดือด
ฟู่จื้อเฉียงก็ยังสีหน้านิ่งเหมือนเดิม การต่อสู้อย่างดุเดือดไม่ทำอันตรายอะไรกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย อยู่ดีๆ ในมือของเขาก็มีพกขึ้นมาหนึ่งเล่ม ที่คมมีดมีเลือดไหลหยดลงมา สายตาจ้องมองเฮ่อเปียวที่กำลังเอามือจับแขนอยู่มไกล
เฮ่อเปียวมีสีหน้าค่อนข้างดูไม่จืด เขาคิดไม่ถึงว่าสองคนเพิ่งลงมือสู้กันได้ไม่นาน ตนเองก็เสียเปรียบก่อนแล้ว แถมยังถูกฟันอีกหนึ่งแผล
“กูบอกมึงแล้ว ว่ามึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู”
ฟู่จื้อเฉียงส่ายหัวเบาๆ แล้วก็ถุยกิ่งใบมะกอกพูดออกมาว่า “กูเห็นการต่อสู้ของมึงก็ไม่เลว มาเข้าร่วมกิลด์ทหารรับจ้างกับกูดีกว่า”
เฮ่อเปียวก็เกือบหลงเชื่อ แต่ไม่นานเขาก็ตั้งสติกลับมาได้ ถ้าขณะที่ต่อสู้เกิดเสียสมาธิไป มันก็เหมือนกับเป็นการรนหาที่ตาย
เพิ่งประมือกันได้ไม่นาน ถ้าเขาไม่มีจิตใจที่ตั้งมั่น เกรงว่าอีกไม่นาน เขาก็จะแพ้ให้กับฟู่จื้อเฉียงอย่างราบคาบ
“แม่งเอ้ย มาสู้อีก!”
พอคิดถึงจุดนี้ เฮ่อเปียวก็รีบล้มเลิกความคิดในหัวทันที ปากก็ตะโกนออกมา กระโจนเข้าใส่ฟู่จื้อเฉียงราวกับเป็นเสือดาวดุร้ายตัวหนึ่ง
ฟู่จื้อเฉียงเห็นดังนั้น ก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา อย่างไรเสียเขาก็ได้บอกไปหมดแล้ว ในเมื่อเฮ่อเปียวอยากรนหาที่ตายเอง อย่างนั้นเขาก็ไม่อยากเสียเวลาต่อไปแล้ว
อย่างไรเสีย เขาก็ยังรู้ดีว่าเย่เทียนอยู่ในจุดที่ลำบากแค่ไหน แค่บริษัทนักฆ่าก็ยังไม่เท่าไร แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเสว่อิ่งที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ และไม่รู้ว่าจะปรากฏตัวออกมาตอนไหน!
พอนึกถึงจุดนี้ ฟู่จื้อเฉียงก็ไม่ออมมืออีกต่อไป กระบี่สั้นในมือก็เปลี่ยนเป็นมังกรทะยาน ราวกับสามารถตัดทะลุผ่านอากาศไปได้ จะเกิดเป็นเสียงลมดังออกมา พุ่งแทงไปยังจุดสำคัญของเฮ่อเปียวอย่างไม่น่าเป็นไปได้
เฮ่อเปียวก็ผงะ แต่ก็ไม่ได้ถอย สะบัดแขนขวาหยิบมีดสั้นออกมา แล้วก็บุกฆ่าไปยังฟู่จื้อเฉียงอย่างไม่ถอยหนี
เขารู้ดีว่าจะยื้อต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นความคิดที่เขาพยายามกดมันเอาไว้จะกลับมาทำให้เขาพ่ายแพ้!
ฟู่จื้อเฉียงเห็นดังนั้น มุมปากก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา อาวุธคมกริบในมือก็ปล่อยแสงเยือกเย็นออกมามากกว่าเดิม แล้วก็มุ่งหน้าเข้าไปรับมือ
ภายใต้แสงที่ส่องลงมา แสงเยือกเย็นสองสายสาดไปมา ทั้งสองคนก็เคลื่อนตัวผ่านกันไป
สึบ!
เสียงดังสึบ เลือดคาวๆสีแดงไหลลงมาจากกระบี่สั้นในมือของฟู่จื้อเฉียง กลิ่นคาวเลือดค่อยๆ คละคลุ้งไปในอากาศ
“จริงๆ แล้วมึงก็ไม่เลวเหมือนกัน ถ้าให้เวลามึงได้พัฒนากว่านี้อีกหลายปี บางทีกูอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมึงก็ได้”
ฟู่จื้อเฉียงส่ายหัวเบาๆ “แต่น่าเสียดาย มึงไม่มีเวลานั้นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่