ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 87

สรุปบท บทที่ 87 พบหลินอ้าวเสว่อีกครั้ง: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 87 พบหลินอ้าวเสว่อีกครั้ง – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 87 พบหลินอ้าวเสว่อีกครั้ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

จี้เยียนหรันเข้าออกสถานที่ชั้นสูงเช่นนี้ตั้งแต่อายุสิบห้า เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

เธอกลับกลัวว่าเย่เทียนจะไม่ชิน

ยังไงซะต่อให้เย่เทียนจะแสดงความสามารถออกมาได้อย่างน่าสยองขวัญ แต่ที่นี่ก็ยังเป็นงานประมูลที่มีเพียงคนระดับสูงเท่านั้นจึงจะเข้าได้ คนที่ฐานะไม่ถึงเข้ามาไม่ได้หรอก

เธอเอียงคอเล็กน้อย ก็เห็นสีหน้าเย่เทียนเป็นปกติ ไม่ฉายแววแตกตื่นเลยสักนิด จี้เยียนหรันถึงได้สบายใจขึ้น

ทั้งคู่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องโถง พอดีกับที่จี้เจิ้งโก๋เดินออกมาจากข้างใน จึงรีบเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “สหายเย่ ในที่สุดคุณก็มา”

“นายท่าน”

เย่เทียนส่งยิ้มและพยักหน้าเป็นการทักทาย

“สหายเย่ ฉันมีเพื่อนเก่าคนหนึ่งกำลังมา ถ้าคุณไม่ว่าอะไรโปรดรอสักครู่ เดี๋ยวฉันแนะนำให้รู้จักกัน”

จี้เจิ้งโก๋เอ่ยต่อราวกับกลัวว่าเย่เทียนจะไม่พอใจ “แน่นอนว่าจะให้หลานสาวของฉันพาคุณเย่เข้าไปก่อนก็ได้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมรอเป็นเพื่อนคุณดีกว่า”

เย่เทียนที่เพิ่งมาถึงไม่ได้รีบร้อนเข้าไป

ส่วนจี้เยียนหรันยิ่งไม่ว่าอะไรเลย

ทั้งสามคนจึงมาอยู่ที่หน้าประตู รอเพื่อนเก่าคนนั้นของจี้เจิ้งโก๋ไปพลาง คุยเล่นเรื่อยเปื่อยไปพลาง

ไม่นานนัก หางตาเย่เทียนก็เหลือบเห็นร่างอันคุ้นเคยสองร่าง สีหน้าประหลาดขึ้นมาทันที

ไม่มีเหตุผลอื่น คนที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น หลินอ้าวเสว่และเยี่ยนจื่อเฉินนั่นเอง

ในขณะที่เย่เทียนพบว่าเป็นทั้งสองคน ทั้งสองคนก็เห็นเย่เทียนเช่นกัน

หลินอ้าวเสว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองจี้เจิ้งโก๋ที่พูดคุยอย่างออกรสกับเย่เทียนแล้วนึกในใจว่าเย่เทียนไปข้องแวะกับตระกูลจี้ได้ยังไง

แปลกใจส่วนแปลกใจ การแสดงออกของเย่เทียนที่งานรวมรุ่นคราวก่อนทำร้ายจิตใจเธอไปแล้ว เธอก็ขี้เกียจจะไปถามอะไรมาก

เยี่ยนจื่อเฉินนั้นตรงกันข้าม เขากระตุกยิ้มเย็นที่มุมปาก ก่อนหน้านี้เขาคิดจะเล่นงานเย่เทียนแต่ไม่สำเร็จ กลับทำให้เมี่ยวเสว๋ปินโดนเล่นงานจนพิการ

ส่งผลให้เขาไม่มีใครให้ใช้ทำงานในเจียงหนัน ได้แต่เสียเงินจ้างผู้ประเมินชั่วคราวมาด้วย ยังไงซะก็ต้องแค้นเคืองเย่เทียนอยู่ในใจกันบ้าง

ทว่า การอบรมสั่งสอนที่ได้รับมาตั้งแต่เด็กก็ทำให้เยี่ยนจื่อเฉินรู้จักซ่อนอารมณ์ ไม่ถึงขั้นแสดงออกมาโต้งๆ

“โอ๊ะ นี่คุณชายเยี่ยนนี่”

จี้เจิ้งโก๋รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้จึงหันมามอง และต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้าง

"คนผู้นี้คงจะเป็นแฟนของคุณชายเยี่ยนใช่มั้ย?"

จี้เจิ้งโก๋หันไปมองหลินอ้าวเสว่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเยี่ยนจื่อเฉินอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้ม “'รูปงามเหมาะสมกันจริงๆเลยนะ"

เยี่ยนจื่อเฉินได้ยินอย่างนี้ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาชำเลืองมองเย่เทียนอย่างท้าทาย ราวกับกำลังบอกว่า ดูสิ ฉันกับอ้าวเสว่ต่างหากที่เป็นคู่สร้างคู่สม แกเป็นใครกันวะ!

แต่น่าเสียดายที่เย่เทียนไม่มีทีท่าว่าจะมองเขา เพียงแต่ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

"นายท่านเข้าใจผิดแล้วค่ะ พวกเราเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น ฉันชื่อว่าหลินอ้าวเสว่ค่ะ"

หลินอ้าวเสว่ขมวดคิ้วและอธิบายเสียงเบา

เยี่ยนจื่อเฉินขมวดคิ้วเพราะคำปฏิเสธของหลินอ้าวเสว่เช่นกัน แต่ไม่นานนักก็คลายออก และไม่ลืมที่จะแนะนำให้หลินอ้าวเสว่รู้จัก "อ้าวเสว่ คนผู้นี้คือคุณอาจี้เจิ้งโก๋"

ระหว่างที่พูดกันอยู่ เขาชำเลืองมองเย่เทียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจมากกับคำพูดตามมารยาทของจี้เจิ้งโก๋

แต่น่าเสียดายที่เย่เทียนเลือกที่จะเมินเฉยต่อการสื่อความหมายของเยี่ยนจื่อเฉิน เขาเบนสายตาไปยังรถหรูที่จอดอยู่ในลานจอดรถไกลๆ

เรื่องนี้ทำให้เยี่ยนจื่อเฉินโกรธอยู่ในใจ

คนฉลาดอย่างจี้เจิ้งโก๋จะไม่เข้าใจความนัยแฝงของเยี่ยนจื่อเฉินได้ยังไง แต่เขาแกล้งทำเป็นมึนงง และพูดอย่างสงสัย "คุณชายเยี่ยนหมายถึง?"

"เกรงว่าคนบางคนไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อของปลอม คนแบบนี้อยู่ที่นี่ต่อไปรังแต่จะเกะกะลูกตา รบกวนนายท่านช่วยเชิญเขาออกไปด้วยครับ!"

ขณะที่พูด เยี่ยนจื่อเฉินแค่นเสียงเย็น และเบ้ปากไปทางเย่เทียน

คิ้วเข้มของจี้เจิ้งโก๋ขมวดเข้าหากันกลายเป็นร่องใหญ่ อดลำบากใจไม่ได้

ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคนเชิญเย่เทียนมา และยังเป็นยอดฝีมือขนานแท้ เขากำลังจะดึงมาเป็นพวกอยู่!

บวกกับช่วงก่อนเรื่องที่เย่เทียนขอให้หลานสาวของเขาช่วยเหลือ ทำให้เขารู้ว่าเย่เทียนนั้นไม่ธรรมดา

ที่วันนี้เชิญเย่เทียนมาร่วมสนุกก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคืออยากหยั่งเชิงเย่เทียนว่าเป็นคนประเภทนั้นหรือเปล่า!

“จื่อเฉิน นี่ก็สายแล้ว พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

หลินอ้าวเสว่คิดไม่ถึงว่าเยี่ยนจื่อเฉินจะหาเรื่องเย่เทียน และสัมผัสได้ถึงความลำบากใจของจี้เจิ้งโก๋ เธอกวาดสายตามองเย่เทียนที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ไกล สุดท้ายก็เอ่ยคลี่คลายสถานการณ์

“ก็ได้ พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

เนื่องจากหลินอ้าวเสว่เอ่ยปาก เพื่อรักษาภาพพจน์ตัวเอง เยี่ยนจื่อเฉินได้แต่ยิ้มเย็นและเลิกหาเรื่อง “นายท่านครับ พวกเราเข้าไปก่อนนะครับ”

จี้เจิ้งโก๋โล่งใจ รีบพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเยี่ยน คุณหลิน พวกคุณเชิญก่อนเลย ฉันรอเพื่อนเก่าคนหนึ่งอยู่ ไว้ค่อยคุยกัน”

หลังจากร่างของเยี่ยนจื่อเฉินและหลินอ้าวเสว่หายไปแล้ว จี้เจิ้งโก๋ถึงได้สติ

เขาคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะมีความขัดแย้งกับเยี่ยนจื่อเฉิน ตอนแรกอยากจะถามสักหน่อย เผื่อจะช่วยคุยให้ดีกันได้

แต่เห็นท่าทางเย็นชาของเย่เทียนแล้ว ก็ไม่สะดวกจะผลีผลามเข้าไปถามอะไร ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆและส่ายหัว

หลังจากรออีกสักพัก เพื่อนสนิทคนนั้นของจี้เจิ้งโก๋ก็มาถึง ทักทายตามมารยาทกันได้สองสามประโยค ทั้งสี่คนก็เข้าไปในวิลล่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่