ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 921

ทั้งสองถูกแรงสะท้อนนี้ทำให้ถอยหลังไปหลายก้าว ฟูจีโน ซาบูโระที่ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุดก็กำลังจะแพ้ เขาอยู่ทั้งสองที่สุด รังสีจากดาบและกระบี่ของทั้งสองก่อเกิดเป็นลำแสงนับหมื่นโพยพุ่งไปทั่วสารทิศ ส่วนฟูจีโน ซาบูโระก็ถูกฟันจนเป็นแผลไปทั้งตัว ถ้าไม่ใช่เพราะเขาปกป้องจุดสำคัญเอาไว้ ไม่แน่เขาคงจบเห่ไปตรงนั้นแล้ว

“ใช้ได้ ใช้ได้ คุณมีดีพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของผม!” เสิ่นซิงอวี่หัวเราะชอบใจ พร้อมกับแววตาที่อาฆาต

“คุณเป็นใคร? นี่มันวิชากระบี่อะไร? ทำไมถึงร้ายกาจขนาดนี้?” ซาซากิ โยชิฮิเดะก็ได้มองไปที่เสิ่นซิงอวี่ด้วยความตกใจเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่า เขานึกไม่ถึงว่ากระบวนท่าของตัวเองเมื่อกี้จะมีใครสามารถต้านเอาไว้ได้

“ผมเป็นใครไม่สำคัญ ผมใช้วิชากระบี่อะไรก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ ถ้าคุณเอาชนะผมได้ ผมก็จะปล่อยไอ้สวะนี่ไป!” เสิ่นซิงอวี่ส่ายหน้า จากนั้นก็จ้องมองไปที่ฟูจีโน ซาบูโระ

“ได้! คุณเป็นคนพูดเองนะ ผมจะให้เขาทิ้งมือไว้ข้างหนึ่ง!” ซาซากิ โยชิฮิเดะพยักหน้า แล้วพูดอย่างจริงจัง

พอได้ฟังที่ซาซากิ โยชิฮิเดะพูด ฟูจีโน ซาบูโระก็ถึงกับช็อก จากนั้นก็ด่าทอไปว่า “แก ไอ้บัดซบซาซากิ ถ้าฉันถูกตัดแขน แกเองก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตอย่างมีความสุขเลย พอกลับญี่ปุ่นฉันจะไปรายงานท่านพ่อ!”

กับคำพูดของฟูจีโน ซาบูโระนั้น ซาซากิ โยชิฮิเดะก็ไม่ได้สนใจ ขยับขาอย่างต่อเนื่อง แล้วฟันไปที่เสิ่นซิงอวี่อีกครั้ง

ติ้ง!

สีหน้าของเสิ่นซิงอวี่ก็จริงจังขึ้นมาเหมือนกัน พอเห็นซาซากิ โยชิฮิเดะฟันเข้ามา ก็รีบยกกระบี่ขึ้นมาบัง พอป้องกันได้สำเร็จ เสิ่นซิงอวี่ก็พลิกข้อมือ แล้วแทงกระบี่สวนไป และการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ได้เริ่มต้นขึ้น!

ติ้ง!ติ้ง!ติ้ง!

ทั้งสองโจมตีด้วยความเร็วสูงสุด ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งสองก็ได้ปะทะกันไปเป็นร้อยกระบวนท่าแล้ว ซาซากิ โยชิฮิเดะที่ถือดาบไว้ในมือ ก็ใช้ท่าชักดาบใส่เป็นพักๆ ส่วนเสิ่นซิงอวี่ก็หาโอกาสโจมตีอย่างเจ้าเล่ห์ ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองก็ได้โจมตีกันไปมา

ส่วนเย่เทียนก็เปิดใช้ความสามารถด้านญาณทิพย์ตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงมองวิถีที่ทั้งสองคนโจมตีใส่กันไม่ออก แต่พวกที่อยู่ใต้เวทีนี่สิที่ลำบาก พวกเขามองการเคลื่อนไหวของทั้งสองไม่ออกเลย และรู้สึกจนใจอย่างถึงที่สุด

เดิมทีในรุ่นวัยชนก็มีเย่เทียนกับติงยี่เมิ่งที่เป็นม้ามืดตัวใหญ่ การต่อสู้หลายๆ ครั้งพวกเขาก็มองไม่ออก ตอนนี้อุตส่าห์มีคนจากญี่ปุ่นมาก่อความวุ่นวาย แต่พวกเขากลับมองการเคลื่อนไหวไม่ออกเหมือนเดิม

ส่วนบนสังเวียน ก็ได้มีการระเบิดขึ้นเป็นพักๆ พื้นเวทีถูกดาบฟันจนเป็นหลุมใหญ่ ทางนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น ปราณกระบี่แทงจนพื้นเวทีเป็นรู ไม่นาน พื้นเวทีก็มีแต่หลุมมากมาย

ส่วนบนสังเวียน การต่อสู้ของเสิ่นซิงอวี่กับซาซากิ โยชิฮิเดะก็ดำเนินมาถึงช่วงสำคัญแล้ว ทั่วทั้งเวทีได้ถูกไอแท้ของทั้งคู่ระเบิดจนเป็นหลุมไปหมดแล้ว เสิ่นซิงอวี่ก็ไม่ได้ทำหน้าผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้า แท้ที่ด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“ลุงหลู่ คุณคิดว่าฝีมือของสองคนนั้นเป็นยังไงบ้างครับ? ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกว่าซาซากิ โยชิฮิเดะคนนั้นไม่ธรรมดาเลย และผมว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เอาจริงเลยด้วยซ้ำ” บนเวทีสูง เย่เทียนจ้องมองไปยังสองคนที่กำลังต่อสู้กันบนสังเวียน และอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

พอได้ยินอย่างนั้น หลู่ซูหางก็มองเย่เทียนด้วยความชื่นชมไปทีหนึ่ง แล้วพูดไปยิ้มไปว่า “ระดับของเสิ่นซิงอวี่ต่ำกว่านิดหน่อย น่าจะใกล้บรรลุถึงขั้นฟ้ามนุษย์ผนึกรวมหนึ่งขอบฟ้าแล้ว แต่ซาซากิโยชิฮิเดะคนนั้น น่าจะใกล้บรรลุถึงจุดสูงสุดของสามยอดรวมเกล้า ที่สำคัญคือวิชากระบี่แห่งกลุ่มพรรคอิกะริวของพวกเขาร้ายกาจมาก”

“งั้นก็แสดงว่า เสิ่นซิงอวี่กำลังจะแพ้แล้วเหรอครับ?” เย่เทียนตกใจ และได้ถามไป

“มันก็ยังพูดยาก ถึงระดับจะต่างกันเล็กน้อย แต่เธอสังเกตดูสีหน้าของเสิ่นซิงอวี่สิ เห็นได้ชัดว่ายังเล่นสนุกอยู่เลย ฉันคิดว่า ไอ้หมอนี่น่าจะเหลือท่าไม้ตายที่ยังเก็บเอาไว้” หลู่ซูหางส่ายหน้า “ดูไว้เถอะ ยังไงก็อย่าให้คนญี่ปุ่นสองคนนั่นตายก็พอ ส่วนเรื่องที่แขนขาจะขาดมั้ย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะสามารถควบคุมได้แล้ว”

ระหว่างที่พูด หลู่ซูหางก็ได้มองกลับไปที่สังเวียนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่