“ไม่มีมือเคาะประตู แต่มีปากยุ่งเรื่องชาวบ้าน วันหลังหัดพกมารยาทติดตัวก่อนออกจากบ้านด้วยนะ” กองทัพหันไปว่าให้เพื่อนสีหน้าไม่พอใจ นอกจากจะเข้ามาขัดจังหวะแล้วยังเข้ามาเพิ่มปัญหาให้เขาอีกจนกองทัพแทบจะอยากลุกขึ้นตะบันหน้าแรงๆ สักที
“มี แต่มารยาทเก็บไว้ใช้เฉพาะยามจำเป็น”
“มารยาทไม่ใช่เงินสดในธนาคาร ที่จะได้เก็บไว้ใช้เฉพาะเวลาจำเป็น” กองทัพด่าสวนขึ้นทันที
“มึงอย่ามัวแต่ว่ากูไอ้หมอ เมียกูอยู่ไหน..เมื่อวานมีคนบอกว่าเธอมาที่นี่” น่านฟ้าพูดขึ้นเสียงดัง รดาได้แต่นั่งงงมองหน้าเจ้านายหนุ่มกับเพื่อนสนิทที่กำลังเถียงกันไปมาเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ อีกคนก็นิ่งจนน่าโมโห ส่วนอีกคนก็โวยวายเสียงดัง
“แล้วมึงไม่ถามคนที่รายงานมึงล่ะ มาถามทำไมกู” กองทัพย้อนกลับเสียงราบเรียบใจเย็นไม่ทุกข์ร้อนอะไร ทั้งที่อีกคนแทบจะอยากลงไปหยิบปืนในรถมาจ่อที่หัวเพื่อเคล้นให้ยอมปริปากพูดความจริง
“อย่ากวนตีนไอ้หมอ เมียกูอยู่ไหน” น่านฟ้าเริ่มเสียงดังขึ้นเมื่อโดนเพื่อนรักอย่างคุณหมอหนุ่มยั่วโมโห
“ใครล่ะเมียมึง”
“กูจะถามมึงครั้งสุดท้ายนะไอ้หมอ ในฐานะที่กูกับมึงเป็นเพื่อนรักกัน..เมียกูอยู่ที่ไหน”
“ตะโกนให้คอแตกตายกูก็ตอบคำเดิม คือไม่รู้” ใบหน้าเรียบนิ่งเอนหลังพิงพนักโซฟา ขายาวทั้งสองข้างตวัดขึ้นไขว่ห้างด้วยท่าทางสบาย
“น้องรดาครับ เมื่อวานน้องรดาเห็นผู้หญิงตัวผอมๆ สูงประมาณ167 เซนติเมตรมาที่นี่หรือเปล่าครับ” เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากเพื่อนรักก็หันไปถามรดาเลขาสาวของเพื่อน
“ไม่เห็นค่ะ” รดาตอบกลับน้ำเสียงปกติ จนน่านฟ้าถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เมื่อได้ฟังคำตอบเพราะเชื่อว่าเด็กสาวนั้นไม่ได้โกหกเขาแน่นอน
“หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว” กองทัพพูดขึ้นลอยๆ แต่เป้าหมายชัดเจนคือเพื่อนรักอย่างน่านฟ้าที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงหน้า
“กูก็เพื่อนมึงนะไอ้หมอ..เผื่อมึงลืม” นิ้วเรียวยาวยกขึ้นชี้หน้าชายหนุ่มอย่างคาดโทษ
บุรุษร่างกำยำหันหลังเดินออกจากห้องไปสีหน้าผิดหวัง ตามมาด้วยแรงกระแทกของประตูเสียงดังกระหึ่มจนข้าวของอาจเสียหายได้ แต่กองทัพหาได้สนใจ สายตาคมเข้มยังจ้องมองที่เด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ดวงตากลมใต้แพขนตางอนมองทอดไปรอบๆ พยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับชายหนุ่มเพราะรู้สึกว่าไม่สามารถชนะสายตาคู่นั้นได้สักที
“ใช่ก็เหมือนไม่ใช่” อยู่ๆ กองทัพก็พูดขึ้น รดามองหน้ากองทัพอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรคะ ใช่ก็เหมือนไม่ใช่”
“นิสาเธอมีสถานะเป็นคู่หมั้นพี่จริง..แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน” คิ้วโค้งเรียวเริ่มผูกเข้าหากัน ยิ่งได้ฟังคำตอบเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“หนูไม่เข้าใจ”
“พี่กับนิสาไม่ได้เป็นอะไรกัน นอกจากมีสถานะเป็นแค่คู่หมั้นกันเท่านั้น” ไอคิวเกือบ300ที่ติดตัวมาแต่เกิดไม่ได้มีประโยชน์เลย แค่พูดอธิบายให้เด็กสาวตรงหน้าเข้าใจ ยังทำไม่ได้
“สรุปว่าคุณกับคุณนิสาเป็นคู่หมั้นกันจริงๆ สินะคะ” เด็กสาวพึมพำกับตัวเอง ย้ำเตือนสถานะของชายหนุ่มกับผู้หญิงอีกคนที่นอนอยู่ที่คอนโด
“หนูขอตัวออกไปทำงานก่อนนะคะ” เมื่อได้รับคำตอบที่เขาบอกจะอธิบายให้เธอฟังชัดเจนแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องมีคำถามอะไรอีกเพราะความจริงแล้วเธอไม่มีสิทธิ์ถามอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ
“รดา/อ๊ะ” ร่างบางเสียหลักล้มเข้าที่ตักแกร่งเพราะแรงดึงโดยไม่ทันตั้งตัว
“ทำหน้าแบบนี้ ยังงอนพี่อยู่ใช่ไหม”
“หนูไม่มีสิทธิ์ไปงอนคุณได้หรอกค่ะ หนูเป็นแค่เลขาจะมีสิทธิ์อะไรไปงอนเจ้านาย” เป็นอีกครั้งที่คุณหมอหนุ่มถอนหายใจพรืดยาว คาดคะเนว่าเด็กสาวตรงหน้าคงยังไม่เข้าใจสิ่งที่เขาอธิบายไปเมื่อสักครู่
“เจ้านายกับเลขา เขาจูบกันด้วยเหรอพี่พึ่งรู้นะ” กองทัพแกล้งกระเซ้าเย้าแหย่ เด็กสาวแก้มป่องตาโตขนตางอน
“ปล่อยหนูเลยนะคะ ไม่หนักบ้างหรือไง” รดาพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธะการแขนแกร่งที่โอบรัดรอบเอวเธอไว้แน่น
“มองหน้าพี่ครับคนดี” มือหนาเชยคางเรียวให้ระดับองศาของสายตามองหน้าเขาพอดี ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึก จริงจัง
“นิสาเธอมีแฟนของเธออยู่แล้ว แต่ที่พี่กับเขายังไม่ได้ถอนหมั้นกันเพราะที่บ้านนิสายังไม่รู้ว่าเธอมีแฟน เธอขอพี่ไว้ว่ายังไม่อยากบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่”
“แล้วแฟนพี่นิสาคือพี่น่านฟ้าใช่ไหมคะ”
“ใช่..มันสองคนเป็นแฟนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก