ครืด ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์กระทบกับพื้นโต๊ะทำงาน
“กองทัพไอ้เจเดนมันมาท้าแข่งรถกับมึง มึงจะว่ายังไง” น่านฟ้าเจ้าของสนามแข่งรถชื่อดังพูดขึ้น
“กูไม่ว่าง มีงานต้องทำเยอะแยะ” กองทัพปฏิเสธกลับทันที
“มันฝากมาบอกมึงว่า ถ้ามึงปฏิเสธแสดงว่ามึงกลัว กลัวว่าจะแพ้มันคาสนามแข่งที่บ้านตัวเอง” ความจริงแล้วคำพูดพวกนี้น่านฟ้าเป็นคนพูดขึ้นเองทั้งหมด เพราะของเดิมพันครั้งนี้คือรถเฟอร์รารี่สีแดงรุ่นพิเศษที่น่านฟ้าอยากได้และหาซื้อมานานแล้ว แต่เนื่องจากรุ่นนี้ผลิตออกมาไม่กี่สิบคันจึงยังหาซื้อไม่ได้สักที
“แค่นี้ใช่ไหม กูจะทำงาน”
“เฮ้..เฮ้..เฮ้ มึงอย่าพึ่งวางสิ” ยังไม่ทันที่กองทัพจะกดวางสายเสียงร้องห้ามของน่านฟ้าก็ดังขึ้น
“ของเดิมพันคืออะไร” กองทัพถามกลับเสียงเรียบราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว
“รู้ทันกูตลอด แกล้งโง่บ้างก็ได้”
“กี่ทุ่ม”
“มึงถามกูอย่างนี้ แสดงว่ามึงรับคำท้าใช่ไหม”
“มึงอยากได้ไม่ใช่เหรอ แต่กูขายต่อนะไม่ได้ให้ฟรี”
“รุ่นนี้กูอยากได้มานานแล้วแต่หาซื้อไม่ได้สักที”
“เฟอร์รารี่สีแดงคันนั้นสินะ มันกล้าเอารถคันโปรดมันมาเดิมพันเลยเหรอวะ” เฟอร์รารี่สีแดงรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตออกมาแค่สิบคันทั่วโลก เป็นรถคันโปรดที่สุดของเจเดน แต่วันนี้ยอมเอามาเป็นของเดิมพันแสดงว่ามันต้องมั่นใจว่าจะชนะถึงกล้าเอามาเสี่ยงแบบนี้
“กองทัพเพื่อนรัก มึงต้องชนะนะ ไม่งั้นลูกรักของกูที่จอดอยู่ในกล่องแก้วเกือบสิบคันไอ้เจเดนมันจะขนกลับอเมริกาหมด” ไม่ใช่แค่เจเดนกล้าเอาของรักมาเสี่ยงแต่เพื่อนตนก็เอาสมบัติทั้งหมดที่มีเทหน้าตักเป็นของเดิมพันเช่นกัน
“เตรียมเงินไว้ให้กูเลยห้าสิบล้าน ตู๊ด!” เมื่อพูดจบก็กดตัดสายทันที เอกสารตรงหน้าถูกเซ็นจนเสร็จหมดทุกแฟ้ม ขายาวหุ่นนายแบบลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องตรงไปยังห้องของทัพบก
ปั๊ก!
“เอกสารยอดขายประจำเดือนนี้” กองทัพโยนแฟ้มเอกสารลงตรงหน้าประธานหนุ่มที่นั่งทำงานสีหน้าราบเรียบ
“มีอะไร” ทัพบกเอ่ยถามขึ้นเมื่อยังเห็นน้องชายตัวดียืนอยู่ที่เดิม
“คืนนี้กูจะไปสนาม วานมึงไปส่งรดาที่ห้องด้วยวันนี้เอกไม่ว่าง”
“แข่งกับใคร” ทัพบกละสายตานิ่งจากเอกสารตรงหน้า แหงนมองหน้าน้องชายเพื่อรอคำตอบ
“เจเดน”
“เจเดน คู่อริเก่ามึงที่อเมริกานั่นนะ”
“อือ”
“แล้วทำไมไม่ปฏิเสธ รับปากเขาทำไม” ทัพบกไม่สนับสนุนให้น้องชายแข่งขันนอกรอบแบบนี้เพราะมันอันตรายมาก การแข่งขันที่ไม่มีกฎกติกา มีเพียงเส้นชัยข้างหน้าเท่านั้นที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ การแข่งแต่ละครั้งเหมือนการเอาชีวิตไปทิ้งแล้วครึ่งหนึ่ง
“สรุปมึงว่างไหม” กองทัพรู้ว่าพี่ชายเป็นห่วงตนและเคยห้ามตนหลายครั้งเกี่ยวกับการแข่งขันลักษณะแบบนี้ แต่ความชอบบางอย่างก็ไม่ได้อยู่ในกรอบเสมอไป ออกนอกกรอบบ้างเป็นบางครั้งเป็นสีสันของชีวิต
“ไม่ มึงก็พารดาไปด้วยสิ” ทัพบกโกหกน้องชายออกไปเสียงเรียบ ความจริงแล้ววันนี้ตนก็ไม่ได้มีธุระที่ไหนแต่เลือกที่จะโกหกออกไป เพราะอย่างน้อยถ้ามีเด็กสาวไปด้วยน้องชายตนก็จะระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะยังมีคนที่ห่วงนั่งรออยู่ที่ข้างสนาม คงไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงมากเกินไปเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“จะพาไปได้ยังไงมีแต่ผู้ชาย ตอนกูแข่งรดาจะอยู่กับใคร”
“มึงก็ให้น้องมันชวนเพื่อนไปด้วยสิ” กองทัพยืนคิดอยู่นานกับคำแนะนำของพี่ชาย เมื่อตัดสินใจได้จึงเดินกลับห้องทำงานตัวเองไป
ตึก ตึก ตึก คนตัวโตเดินกลับเข้ามาสีหน้าเคร่งเครียด ฝีเท้ามาหยุดข้างโต๊ะทำงานรดาแทนที่จะเดินเข้าห้องไป
“เข้าไปคุยกับพี่ในห้อง” พูดจบก็เปิดประตูเข้าห้องไป รดาได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นและเดินตามหลังเข้าไปติดๆ
“คุณมีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ” เมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งหันหลังให้เธอทอดสายตามองออกนอกหน้าต่างผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ โดยรอบ
“คืนนี้ไปสนามแข่งกับพี่ไหม”
“คุณมีแข่งแบบนั้นอีกเหรอคะ” การแข่งขันที่ไม่มีกฎระเบียบและเดิมพันด้วยของมูลค่าสูง การแข่งขันที่เสี่ยงอันตรายรดาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะทำแบบนั้นอีก
“อือ..แล้วหนูจะไปกับพี่หรือเปล่า”
“ชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้” เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเด็กสาวตรงหน้ากองทัพจึงพูดขึ้น
“หนูขอโทรถามเพื่อนก่อนนะคะ ว่าวันนี้ว่างกันหรือเปล่า” รดากำลังเอี้ยวตัวเพื่อจะเดินกลับออกไปหยิบโทรศัพท์โทรหากลุ่มเพื่อน เท้าเล็กต้องหยุดชะงักทันที
“ใช้โทรศัพท์พี่ก็ได้ เบอร์เพื่อนหนูพี่มีครบทุกคน”
“คุยสิ พี่ต่อสายให้แล้ว” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกต่อสายและเปิดสปีกเกอร์โฟนเลื่อนไปตรงหน้าเด็กสาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอที่รัก