คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา นิยาย บท 197

ตอนที่ 197 เงินสองเฉียนกับข้าวหนึ่งโต่ว

รอยยิ้มแห้งๆ บนใบหน้าของหญิงชราชะงักค้าง “เถี่ยหนิว ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน หักกระดูกแล้ว เส้นเอ็นก็ยังเชื่อมกันอยู่ เมื่อก่อนสะใภ้รองอย่างข้าไม่ดีเอง แต่ข้าไม่มีหนทางอื่นแล้ว ในบ้านของข้าผ่านแต่ละวันไปอย่างไรคนอื่นไม่รู้ แต่เจ้าก็ยังไม่รู้อย่างนั้นหรือ แต่ไหนแต่ไรพวกข้าล้วนขัดสน ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเจ้าเลย วันนี้ข้าก็จนใจนัก จนถึงขั้นต้องเอ่ยปากกับเข้า ปกติแล้วข้าก็ไม่เคยขอร้องเจ้าไม่ใช่หรือ”

ไป๋เถี่ยหนิวแค่นหัวเราะ “ทั้งชีวิตนี้ของข้า ไป๋เถี่ยหนิวเคยขอร้องเจ้าอยู่สองครั้ง แล้วเจ้าเคยช่วยข้าสักครั้งหรือไม่ ช่างเถอะ อย่าได้พูดเรื่องในอดีตอีกเลย ข้าก็ไม่มีเวลาจะพูดไร้สาระกับเจ้าเหมือนกัน เอาเป็นว่าข้าไม่ให้ยืมข้าว แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นน้องสะใภ้รองของข้า หากเจ้ายอมออกเงินซื้อ ข้าจะยอมพิจารณาสักหน่อย”

ในใจของหญิงชราโมโหนัก ทว่าก็ไม่ได้แสดงอารมณ์นั้นออกมา ใครใช้ให้นางตกอยู่ในที่นั่งลำบากกัน

“เช่นนั้นตั้นหนึ่งราคาเท่าไร” หลิวซื่อถาม

“ตั้นหนึ่ง?” ระดับเสียงของไป๋เถี่ยหนิงเพิ่มขึ้นมาทีเดียว แม้กระทั่งเกินความจำเป็นอยู่บ้าง

“ข้าไม่มีเงินซื้อถึงตั้นหนึ่งหรอก วันนี้เข้าไปซื้อในเมืองทั้งหมดสองโต่ว หนึ่งโต่วสองเฉียน หากเจ้าต้องการ ข้าจะตักโต่วหนึ่งให้เจ้า ข้าเดินทางนั้นช่างเถิด ใครใช้ให้เจ้าเป็นน้องสะใภ้รองของข้ากัน”

เสียงของหลิวซื่อดังขึ้นมาในทันที “อะไรนะ หนึ่งโต่วราคาสองเฉียน? นี่ไม่เท่ากับปล้นกันหรือไร”

ไป๋เถี่ยหนิวหน้าบึ้งโดยพลัน ก่อนจะกล่าวอย่างมีน้ำโห “หลิวกว้าหัว หากเจ้าเก่งจริง พรุ่งนี้ก็ลองเข้าไปดูในเมือง ดูว่าร้านขายข้าวใดยังขายข้าวอยู่บ้าง อย่าว่าแต่สองเฉียนเลย หนึ่งโต่วราคาหนึ่งเฉียน เจ้าก็ซื้อไม่ได้ จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า”

ผู้ประสบภัยมาจากทางใต้กันอย่างมหาศาล เรื่องนี้ทุกคนล้วนรู้ เมื่อผู้ประสบภัยมา ราคาข้าวก็จะขึ้นสูง คนรวยย่อมเริ่มกักตุนเสบียงอาหาร ส่วนคนจนก็เริ่มยืมข้าวมากักตุนสักหน่อยเช่นกัน ร้านขายข้าวส่วนใหญ่ตอบสนองอุปสงค์ไม่ทัน ข้าวที่เก็บตุนไว้หมดลงจึงเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง

เมื่อก่อนก็เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจ

หญิงชรามายืมข้าวในเวลานี้ ชัดเจนว่าแสร้งทำเป็นเลอะเลือน

นางขมวดคิ้วมุ่น “โต่วหนึ่งราคาสองเฉียน แพงเกินไปกระมัง สองวันก่อนสองเฉียนซื้อข้าวได้ตั้งหนึ่งตั้น”

ไป๋เถี่ยหนิวแค่นหัวเราะอีกครั้ง “วันก่อน? ตอนนี้ใช่วันก่อนหรือไม่เล่า ช่างเถิด พวกเจ้าไม่ซื้อก็รีบไป ข้าไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับเจ้าอยู่ตรงนี้”

เขาพูดจบก็จะปิดประตู ทว่าหญิงชราตัดสินใจ พูดโพล่งออกไปว่า “ซื้อสิ ข้าซื้อ ชั่งข้าวให้ข้าโต่วหนึ่ง”

หากเป็นเวลาทั่วไป ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่ซื้อ ทว่าตอนนี้หิวจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ วันนี้หากไม่ได้กินข้าวสักมื้อ เกรงว่าพรุ่งนี้คงไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียงแน่ อีกอย่างเวลานี้ราคาข้าวก็ขึ้นแล้ว ถึงแม้นางจะอดทนอีกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ก็อาจจะซื้อข้าวที่ราคาถูกกว่านี้ไม่ได้

ไป๋เถี่ยหนิวยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มลำพองใจ

“ตกลง พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้” เขาหมุนตัวกลับเข้าไปในเรือน ไม่นานนักก็ออกมา ในมือถือกระเป๋าผ้าใบหนึ่ง ข้างในบรรจุข้าวหนึ่งโต่วที่ชั่งอย่างดีไว้

เขาไม่ได้รีบร้อนส่งให้หญิงชรา และยื่นมือออกไป พลางกล่าวว่า “นำสองเฉียนมา”

หญิงชราหัวเราะแห้งๆ “ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าลดราคาให้ข้าหน่อยไม่ได้หรือ วันหน้าข้าจะนำเงินมาให้เจ้า”

ไป๋เถี่ยหนิวส่ายหน้า “เช่นนั้นไม่ได้ ข้าพอจะเชื่อใจคนอื่นได้ แต่ข้าไม่เชื่อใจเจ้า เงินแลกข้าว ไม่มีการเจรจามากกว่านี้”

นางเคยใช้ลูกไม้นี้ในหมู่บ้านมาแล้วหลายครั้ง มีคนไม่น้อยติดกับของนาง แต่หากเวลานี้ไป๋เถี่ยหนิวยังเชื่อนาง เช่นนั้นเขาก็ช่างโง่งมนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา