ตอนที่ 345 คู่ปรับ
เด็กๆ ตามป่าเขาขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหาร ทั่วไปจึงหวังเก็บผลไม้ป่าเหล่านี้มากินแทนขนม
ไป๋จื่อนั่งยองอยู่ตรงหน้าหรูเอ๋อร์ “เสี่ยวหรูเอ๋อร์ เจ้ารออยู่ที่บ้านนะ เดี๋ยวข้ากับพ่อของเจ้ากลับมาแล้ว จะนำผลซานจามาให้เจ้าด้วย ถึงตอนนั้นข้าจะทำถังหูลู่ให้เจ้ากิน ดีหรือไม่”
หรูเอ๋อร์ฉีกยิ้มกว้างในทันที ปรบมือพลางกระโดดโลดเต้น “พี่สาวใจดีที่สุดเลย ข้ามีถังหูลู่กินแล้ว ข้าจะมีถังหูลู่กินแล้ว!”
เห็นหรูเอ๋อร์ดีใจ ไป๋จื่อเองก็พลอยยิ้มไปด้วย เป็นเด็กช่างดีจริงๆ เรื่องดีเพียงเล็กน้อยก็ดีใจยกใหญ่แล้ว ไร้เรื่องให้ต้องกังวลใจ ขอเพียงมีบิดามารดาอยู่เคียงข้าง ถึงแม้จะมีวันที่ต้องลำบากสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เด็กๆ ที่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ จึงโชคดีมากกว่าเด็กที่สวมเสื้อผ้าหรูหรา กินอาหารราคาแพงทุกวัน แต่กลับไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ไม่รู้ตั้งเท่าไร
วัยเด็กของไป๋จื่อทั้งไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย ทั้งไม่ได้มีชีวิตแสนสุข ช่วงเวลาที่มืดมนไร้แสงสว่างสั้นๆ นั้นกลับเป็นความทรงจำฝังใจมายาวนาน เสี่ยวหรูเอ๋อร์ที่อยู่ตรงหน้านางนี้ช่างโชคดีเหลือเกิน มีทั้งพ่อแม่ที่รักนาง มีทั้งชีวิตที่สงบสุข
ต่อไปหากนางมีลูกสักคน นางจะมอบทุกสิ่งที่ดีที่สุดในโลกให้ มอบความรักให้ทั้งหมดที่มี
“คิดอะไรอยู่รึ” จ้าวซู่เอ๋อดึงแขนเสื้อของไป๋จื่อ
ไป๋จื่อตื่นจากภวังค์ “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ พวกเราไปทำอาหารเช้ากันเถอะ สายแล้ว”
เมื่อวานทำแป้งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองทำเวลานวดและตัดแป้งขึ้นซึ้ง ผ่านไปไม่นานเท่าไรก็นึ่งสุกดี เหนือเตาดินที่ก่อใหม่ในลานบ้านต้มโจ๊กเอาไว้ อีกสักพักหนึ่งมันก็สุกดีเช่นกัน
ไป๋จื่อห่อหมั่นโถวร้อนๆ จำนวนหนึ่ง ก่อนจะใช้หม้อขนาดเล็กสำหรับต้มน้ำแกงมาใส่โจ๊กลงไปจนเต็ม นางถือโอกาสตอนที่อาอู่กำลังกินข้าวเช้า ไปตามหากระบอกไม้ไผ่มาสักท่อน
อาอู่วางชามโจ๊กที่กินหมดเกลี้ยงแล้วลง ก่อนจะถามว่า “เจ้าจะนำกระบอกไม้ไผ่มาทำอะไร”
“ไม่ใช่ว่าจะไปเก็บผลซานจาหรือ หากต้นซานจาสูงเกินไป ใช้กระบอกไม้ไผ่สอยมันคงจะสะดวกไม่น้อย” ไป๋จื่อกล่าวยิ้มๆ
อาอู่พยักหน้า เขาถือหมั่นโถวลูกหนึ่งอยู่ในมือ พูดกับเด็กสาวว่า “เจ้ารีบกินสิ ข้ากินอิ่มแล้ว”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ข้าจะไปกินพร้อมกับหูเฟิง คนผู้นั้นขี้น้อยใจนัก หากไม่กินเป็นเพื่อนเขา เขาจะต้องทำหน้าบึ้งใส่ข้าแน่นอน”
อีกฝ่ายพลันหัวเราะเสียงดัง นึกถึงภาพหูเฟิงทำหน้าบูดบึ้งถลึงตามองไป๋จื่อ ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเราะไม่หยุด
ต่อให้แข็งแกร่งเพียงใด ก็ย่อมมีคู่ปรับของตนเองอยู่วันยันค่ำ คู่ปรับของไป๋จื่อคือหูเฟิง ส่วนคู่ปรับของหูฟิงก็คือไป๋จื่อ
เมื่อรถม้ามาถึงที่นา อากาศก็ร้อนขึ้นมาแล้ว ในพื้นที่นาเต็มไปด้วยชาวบ้านที่เหงื่อออกราวกับถูกฝน ครั้นทุกคนเห็นไป๋จื่อก็พากันหยุดงานที่ทำอยู่ แล้วทักทายนางทันที
ตอนนี้ไป๋จื่อเป็นคนดังของหมู่บ้าน เพราะนางอายุยังน้อย แต่ก็ยังขยันขันแข็งเช่นนี้ หลังจากแยกบ้านกับสกุลไป๋ได้แล้ว ก็เรียกได้ว่ามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ซื้อที่สร้างบ้าน มีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ไม่อัตคัดขันสน
มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ เคยชินกับการเยินยอผู้ที่อยู่สูงกว่า หากมีชีวิตลำบากอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีใครอยากชายตาแล แต่หากมีชีวิตที่ดีขึ้นมาเมื่อไร สายตาของทุกคนก็ต้องจับจ้องมาอย่างแน่นอน
อาอู่ถือหม้อหนักอึ้งใบหนึ่ง ส่วนไป๋จื่อถือน้ำสองกระบอก กับหมั่นโถวอีกหนึ่งห่อ ทั้งสองคนเดินตรงไปหาหูเฟิงในที่นาอย่างเชื่องช้า คนที่อยู่รายทางเห็นเข้าแล้วก็รู้สึกอิจฉา ทั้งยังน้ำลายสอ
อย่างไรพวกเขาก็ออกมาทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ท้องว่างยิ่งกว่ากระเป๋าที่นพำติดตัวมาเสียอีก ไหนเลยจะไม่รู้สึกหิว
ไป๋จื่อได้แต่ทำเป็นมองไม่เห็น ที่นี่มีคนอยู่เยอะนัก หากมอบอาหารให้ใครสักคนแล้ว ก็ต้องมอบให้คนที่สองด้วย และหากไม่มอบให้ทั้งหมดทุกคนก็ถือว่าเป็นการผิดใจกัน นางไม่ได้นำอาหารมามากมายถึงเพียงนั้น อีกอย่างก็ไม่ใช่หน้าที่นางที่จะต้องมาเลี้ยงปากท้องของพวกเขาด้วย
……….
ตอนที่ 346 เจ้ากำลังหึงหรือ
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ไม่ขาดนะ โจ๊คู่กับหมั่นโถว ยังจะขาดอะไรได้อีก”
หูเฟิงรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง “ผักเคียงเล่า ปกติเจ้าจะผัดผักเคียงมาสองอย่างไม่ใช่หรือ จะไม่มีผักเคียงได้อย่างไร” อาหารเช้าที่ไร้ผักเคียง จะยังเรียกว่าอาหารเช้าได้อีกหรือ
เด็กสาวถลึงตามองเขา กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง “ป่านนี้แล้วเจ้ายังคิดจะกินผักเคียงอีก ไหนเลยข้าจะมีเวลาผัดผักกันล่ะ”
เขาแค่นหัวเราะ “วันที่เมิ่งหนานไป เจ้าอดตาหลับขับตานอน ง่วนอยู่กับการทำอาหารให้เขา ตอนนั้นเจ้ามีเวลาหรือไร”
“นั่นมันคนละเรื่องกัน” นางชำเลืองมองเขา คล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้ม “เป็นอะไรไป เจ้ารู้สึกไม่ชอบใจที่ข้าทำอาหารให้เมิ่งหนานกินรึ หึงหรือไร”
หูเฟิงรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว ทว่าเพราะตากแดดอยู่ใต้ดวงอาทิตย์มาตั้งนาน เดิมทีจึงหน้าแดงอยู่แล้ว คนที่อยู่ข้างกายเขาจึงมองไม่ออกว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปแล้ว
“น้ำส้มสายชู[1]คืออะไร อร่อยหรือไม่” เขาเลิกคิ้ว คีบหมั่นโถวในชามขึ้นมากัดคำหนึ่ง
ไป๋จื่อรู้สึกคิดผิดทันทีที่ถามออกไป ตอนนี้นางอยากกัดลิ้มตัวเองเสียจริงๆ
อาอู่รู้สึกว่าตนเองนั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาแล้วไม่เหมาะสม เพราะทั้งสองคนเหมือนคู่แต่งงานใหม่ก็ไม่ปาน พวกเขาดูเหมือนลิ้นกับฟันที่กระทบกระทั่งกันอยู่ตลอด แต่ความจริงแล้วรอบกายมีแต่กลิ่นอายความหวานขจรขจาย ส่วนเขานั้นหัวเดียวกระเทียมลีบ…
“ข้าไปทำงานก่อนล่ะ พวกเจ้าค่อยๆ กินก็ได้” อาอู่ผุดลุกขึ้น พร้อมทั้งหยิบจอบบนพื้นขึ้นมาด้วย แล้วเดินลงจากคันนาไป
พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ไม่มีใครยอมพูดจา เพียงกินข้าวเช้าจนเสร็จอย่างเงียบๆ หูเฟิงวางช้อนลง แล้วพูดกับไป๋จื่อว่า “ตรงนั้นมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่ง เจ้าไปพักอยู่ใต้ต้นไม้ก็ได้ ไม่ต้องนั่งอยู่ในรถม้าหรอก ข้างในนั้นร้อนนัก”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ข้าจะไปเก็บผลซานจาให้หรูเอ๋อร์ นางอยากกินถังหูลู่ พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า ข้ารู้จักทาง”
[1] หึง หรือ 吃醋 ในภาษาจีน หากแปลตรงตัวจะหมายถึงกินน้ำส้มสายชู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
แอดรบกวนลงให้อ่านจนจบได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
สนุกมากค่ะ แอดรบกวนอัปให้อ่านจนจบได้ไหมคะรออ่านอยู่น้าาาาา...
อัพเดทตอนใหม่เมื่อไรค่ะ...
คุณแอดมินผู้ใจดี ช่วยอัพเดทตอนใหม่เยอะๆเลยนะคะ ชอบมาก สนุก พลีสสสสส...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
เอาใจช่วยหูเฟิงทวงคทนอำนาจนะ...
ถ้าพ่อไม่ถูกเมียรังแกจนเกือบตายก็คงไม่ตื่นสินะ...
ดีใจกับเสี่ยวเฟิง...