กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 20

หลังจากมุ่งหน้าอย่างเร่งรีบตลอดทั้งคืน ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็มองเห็นตัวอักษรคำว่าพระราชวังชิวเฟิง ตัวใหญ่ๆ ซึ่งดูทรงพลัง

ที่แห่งนี้กินอาณาเขตกว้างขวางมาก กู้ชูหน่วนหลับตาลงและรับรู้ถึงกลิ่นอายที่ลอยอยู่ในอากาศ

ในชาติก่อนนางเป็นสายลับระดับต้นๆ ของโลก และที่ถนัดที่สุดก็คือการต่อสู้ในความมืด สำหรับนางแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะแอบลอบเข้าไปในสถานที่ไหนสักแห่ง

ทว่า...

ทันใดนั้นดวงตาที่เฉียบแหลมและดุดันของกู้ชูหน่วนก็เปิดออก

บรรยากาศผันผวนผิดปกติ ถ้านางเดาไม่ผิด ที่ประตูใหญ่ไม่ได้มีแค่ผู้มีฝีมือจำนวนมากคอยดักซุ่ม แต่ยังมีค่ายกลขนาดใหญ่ที่ยากจะหาใดเทียบเทียม แม้ว่าค่ายกลจะถูกซ่อนไว้ แต่กระแสอากาศก็ยังถ่ายทอดให้รับรู้ได้อย่างเบาบาง

ก็แค่พระราชวังแห่งหนึ่งเท่านั้น จะต้องโหดเหี้ยมขนาดนี้เชียวหรือ

กู้ชูหน่วนรู้ว่าเข้าไปทางประตูใหญ่ไม่ได้ นางแวบไปมาด้วยความรวดเร็วประหนึ่งนกฮูก วนไปรอบๆ พระราชวังชิวเฟิงอีกครั้งเพื่อมองหาจุดบอดที่จะลงมือ

หลังจากวนไปรอบใหญ่ กู้ชูหน่วนก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเซี่ยวอวี่เซวียนจึงบอกว่าไม่มีหนทางในการบุกเข้าไปในพระราชวังชิวเฟิง

นึกไม่ถึงว่าพระราชวังที่ใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้... จะหาที่ให้ลงมือไม่ได้เลย เบื้องลึกเบื้องหลังของที่นี่คงจะมีผู้มากฝีมือคอยดูแลอยู่เป็นจำนวนมาก

มีแต่ต้องทะลุผ่านเข้าไปเท่านั้นหรือ

กู้ชูหน่วนวนไปรอบๆ อีกครั้ง ในที่สุดก็หยุดอยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวังชิวเฟิงพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

นางหยิบก้อนหินขึ้นมาสองสามก้อนแล้วปาเข้าไปข้างใน ทันใดนั้นเงาคนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาพึบพั่บ

หลังจากล่อคนพวกนั้นออกไปแล้ว นางก็พุ่งเข้าไปราวกับภูตผี มุ่งตรงไปด้านหลังภูเขาในส่วนที่เป็นหน้าผาสูงชัน

“ใครน่ะ ใครแอบเข้ามาในพระราชวังโดยพลการ”

นางระมัดระวังตัวมากแต่ก็ยังถูกเจอตัวในที่สุด คนของเทพแห่งสงครามก็นับว่าพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง

ซวบๆๆ

กริชพระจันทร์เสี้ยวเงาวับพุ่งแหวกอากาศเข้ามา ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนมีสายตาและปฏิกิริยาที่ฉับไว พลิกตัวเป็นนกพิราบลอยกลางอากาศ นางคงจะถูกยิงตายตรงนั้นเป็นแน่แท้

หลังจากนั้นค่ายกลก็เริ่มเปิด และค่ายกลแปดทิศก็ปิดล้อมนางไว้ที่กลางสนาม

ชึ่บๆๆ

ทหารคุ้มกันหลายร้อยนายมารายล้อมนางไว้อย่างรวดเร็ว

“แม่สาวไร้เดียงสาจากที่ไหนน่ะ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าบุกเข้ามาในพระราชวังชิวเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ใด”

“ได้ยินมาว่าทิวทัศน์ที่นี่งดงามมาก ข้าจึงจะมาชื่นชมใบชิวเฟิงเสียหน่อย” กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างไม่ยี่หระและปราศจากความกลัว นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายดั่งหงส์แผ่กระจายออกมา วางอำนาจประหนึ่งว่าไม่มีใครสูงส่งไปกว่าข้าอีกแล้ว

“ท่าทางจะบ้าไปแล้ว งั้นเจ้าก็อยู่ชื่นชมให้เต็มตาเสียเถอะ”

ว่าแล้วค่ายกลแปดทิศก็กลายเป็นค่ายกลสังหาร จิตสังหารอันหนาวเหน็บพุ่งตรงเข้าจู่โจมกู้ชูหน่วน

แววตาของกู้ชูหน่วนเยียบเย็น

ค่ายกลแปดทิศนี้แฝงไว้ด้วยก๊าซพิษ เมื่อเปิดฉากโจมตี ก๊าซพิษจะถูกปล่อยออกมาด้วย คนธรรมดาสูดดมเข้าไปถึงจะไม่ตายแต่ก็อันตรายถึงขั้นพิการ

พวกนั้น... คิดจะทิ้งชีวิตตั้งแต่แรก

นอกจากพิษจากค่ายกลแล้ว ที่นี่ยังกอปรไปด้วยพลังแห่งฟ้าดิน หากถูกแสงสีขาวกวาดมาโดนก็ตายได้เหมือนกัน

เมื่อมองไปที่ด้านนอกดีๆ จะเห็นว่ามีแต่นักธนู ถ้านางทำลายค่ายกลแปดทิศ ลูกธนูเหล่านั้นจะพุ่งเข้ามาใส่นางราวกับห่าฝน

มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุกเป็นรอยยิ้มที่กระหายเลือด

จะใช้พิษกับนาง?

บังเอิญเหลือเกินที่นางมียาพิษเป็นสองเท่า ไม่มียาพิษใดบนโลกนี้ที่ทำอะไรนางได้

ส่วนค่ายกล...

ก็บังเอิญเหมือนกันว่านางเคยศึกษาค้นคว้าเรื่องค่ายกลโบราณมามากมายในตอนที่เป็นสายลับเมื่อชาติก่อน

กู้ชูหน่วนใช้เท้าเหยียบตรงร่อง หมุนออกจากตำแหน่ง ไถลไปขวางตำแหน่งซวิ่น จากนั้นจึงรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือและกวาดตรงไปยังตำแหน่งเฉียน

มีเสียงตู้มดังขึ้น ในที่สุดค่ายกลแปดทิศอันไร้ช่องโหว่ให้โจมตีก็ระเบิดในที่สุด ก๊าซพิษพุ่งทะลักกลับไปหาคนเหล่านั้น

ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างฉับพลันและทยอยถอยออกไป

กู้ชูหน่วนฉวยโอกาสนี้เขย่งปลายเท้าขึ้นมา ทันใดนั้นร่างกายก็หายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายลม

เปรี้ยง...

พลังของฝ่ามือนำพาลูกไฟนับพันมาด้วย

กู้ชูหน่วนหนาวยะเยือก

แม้ว่าร่างกายนี้จะแข็งแกร่งใช้ได้ แต่พลังภายในกลับมีเพียงครึ่งเดียวและไม่ดีเท่ากับตัวนางในชาติก่อน

ต่อให้แบกรับเอาไว้ก็แบกไม่ไหว กู้ชูหน่วนทำได้เพียงกางขาออกกลิ้งไปบนพื้นและหลบเลี่ยงออกมา

ฟึ่บๆๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์