ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์และไป๋หลี่เจิ้นร้อนใจมากจนนั่งไม่ติด และมาถึงห้องส่วนตัวห้องของหมายเลขสามในทันที
"คุณชายเยี่ย เมื่อครู่ท่านล้อเล่นใช่หรือไม่ ตระกูลไป๋หลี่ไม่ได้ให้ท่านไปประมูลแหวนอวกาศ"
"ใช่ เงินสามร้อยล้านตำลึง เป็นราคาที่สูงมากเกินไป ตระกูลไป๋หลี่ไม่สามารถจ่ายได้"
นัยน์ตาของเยี่ยจิ่งหานเยือกเย็น และความเย็นยะเยือกก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
"เช่นนั้นท่านทั้งสองคนกำลังโทษว่าข้ายุ่งไม่เข้าเรื่อง?"
นี่......
เดิมเรื่องนี้เป็นที่เขายุ่งมากเกินไป พวกเขาไม่ได้ให้เขาประมูล?
"คุณชายเยี่ยกล่าวหนักเกินไปแล้ว เพียงแต่......เพียงแต่แหวนวงนี้......"
"ข้าขอถามพวกท่านว่าข้าเป็นแขกอาวุโสต่างเมืองของตระกูลไป๋หลี่ใช่หรือไม่?"
"ใช่"
"ตระกูลไป๋หลี่ต้องการวงแหวนอวกาศใช่หรือไม่"
"ใช่ แต่......" แต่ด้วยราคาที่สูงเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะต้องการมัน แต่ก็ไม่กล้าที่จะรับไว้
เยี่ยจิ่งหานขัดจังหวะเขา "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าช่วยให้พวกท่านประมูลวงแหวนอวกาศได้ แล้วทำไมพวกท่านยังจะโทษข้า?"
"ข้าจะกล้าโทษท่านได้อย่างไร เพียงแต่......ตระกูลไป๋หลี่ไม่สามารถหาเงินมากขนาดนั้นได้"
"นั่นมันเป็นเรื่องของพวกท่าน ไม่ใช่เรื่องของข้า ข้าพยายามช่วยตระกูลไป๋หลี่แล้ว"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยิ้ม
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเยี่ยจิ่งหานมีความเป็นนาย
ช่างเป็นคนที่......ไร้ยางอายเสียจริง
"คุณชายเยี่ย ท่านได้โปรดอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราเป็นเพียงผู้อาวุโสเล็ก ๆ จึงไม่กล้าที่จะตัดสินใจ"
"ช่างเถอะ ในเมื่อพวกท่านรังเกียจ เช่นนั้นสถานะแขกอาวุโสต่างเมือง ข้าไม่เป็นแล้ว"
"ไม่ ๆ ๆ ......"
ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์และไป๋หลี่เจิ้นร้อนใจเป็นอย่างมาก
ไม่ง่ายเลยที่ผู้นำตระกูลจะเชิญเขามาได้
อีกอย่างเขาก็เป็นผู้ที่มีวรยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับหก
หาก......เขาไปจากตระกูลไป๋หลี่ จะเกิดเสียหายนับไม่ถ้วนต่อพวกเขา และเมื่อพวกเขากลับไปแล้วก็ไม่รู้จะชี้แจ้งอย่างไร
"คุณชายเยี่ย ถึงอย่างไรเงินสามร้อยห้าสิบล้านตำลึงก็มากเกินไป พวกเราต้องไปแจ้งผู้นำตระกูล?หากต้องใช้เงินมากขนาดนั้น จะต้องให้ผู้นำตระกูลนำเงินออกมา"
"ได้"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงขู่ฟ่อ ๆ
ปรมาจารย์ควบคุมสัตว์ร้ายที่อยู่ข้าง ๆ ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวว่า "ราชางูเหลือมบอกว่านี่เป็นโอกาสที่ดี แม้ว่าจะสิ้นเปลืองเงินไปบ้าง แต่ก็ได้วงแหวนอวกาศมา และมันก็ยินดีที่จะทำสัญญากับท่าน"
"รีบส่งคนไปแจ้งผู้นำตระกูลเดี๋ยวนี้ และให้ผู้นำตระกูลออกคำสั่ง"
ไป๋หลี่เจิ้นส่งสายตาบอกใบ้ให้ข้ารับใช้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้นำตระกูลตกลงซื้อวงแหวนอวกาศ
ผู้คนในงานประมูลกำลังเฝ้ามอง โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องส่วนตัวหมายเลขสาม และยังต้องการวงแหวนอวกาศอยู่หรือไม่
หลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา ข้ารับใช้ก็นำข่าวกลับไปแจ้ง
"พวกเขาต้องการวงแหวนอวกาศ "
ไป๋หลี่เจิ้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเจ็บปวดใจ
ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์แทบจะเป็นลม
ของล้ำค่าของหอเจินเป่าถูกขโมยไป
และในเผ่าจะต้องนำเงินออกมาอีกสามร้อยห้าสิบล้านตำลึง......
แย่แล้ว
ตอนนี้ตระกูลไป๋หลี่อาจจะยากจนกว่าตระกูลหนิงด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งหานจงใจทำเช่นนี้หรือไม่
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยิ้มและยกหางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
เยี่ยจิ่งหานถอนหายใจ
เขาไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่จะมอบวงแหวนอวกาศให้กับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
ห้องส่วนตัวของตระกูลซั่งกวน
ซั่งกวนชิงทำเสียงจุ๊ ๆ และชื่นชมความกล้าหาญของพวกเขา
เซี่ยวอวี่เซวียนจากไปอย่างไม่สบอารมณ์
ผู้นำตระกูลมู่เป็นเช่นเดียวกันกับท่านผู้เฒ่าหนิง ยกป้ายเสนอราคาขึ้นหลายครั้ง แต่เนื่องจากราคาที่สูง เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำได้เพียงอดทนอดกลั้น และมองดูผู้อื่นประมูลกันต่อไปด้วยความอิจฉาริษยา
กู้ชูหน่วนกระซิบกับคนรับใช้สองสามคำ ไม่นานคนรับใช้ก็พาผู้นำตระกูลมู่ ผู้นำรองและผู้นำสามไปยังห้องส่วนตัวของตระกูลหนิง
ผู้นำตระกูลมู่และคนอื่น ๆ รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจู่ ๆ ตระกูลหนิงเรียกพวกเขามาด้วยเรื่องอะไร ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ทำให้ตระกูลหนิงขุ่นเคืองแต่อย่างใด
หลังจากเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือกู้ชูหน่วน และพวกเขาก็หยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง
เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ใช่ว่าไปยั่วยุตระกูลหนิงอีกแล้วนะ
"มู่จั่นพาบุตรชายคนรอง และบุตรชายคนที่สามมาคารวะท่านผู้เฒ่าหนิงแล้ว" ผู้นำตระกูลมู่คำนับด้วยความเคารพ
ผู้เฒ่าหนิงไอเบา ๆ สองสามครั้ง และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป เขาชี้ไปที่เก้าอี้ยาวด้านข้าง "ผู้นำตระกูลมู่เกรงใจแล้ว เชิญนั่ง"
"ขอบคุณผู้นำตระกูลหนิง"
"ท่านช่างมีหลานสาวที่ดีจริง ๆ "
ผู้นำตระกูลมู่ที่กำลังจะนั่งลง เกือบจะสะดุดล้ม ใบหน้าของเขาดูไม่น่ามองมากนัก
ผู้นำรองรีบแก้ต่างในทันที "ผู้นำตระกูลหนิง มู่หน่วนทำให้ท่านขุ่นเคืองหรือไม่?ตระกูลมู่ของเรากำลังเตรียมที่จะตัดความสัมพันธ์กับนาง ต่อไปเรื่องของนางจะไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราอีก"
"หลานสาวที่ดีเช่นนี้ พวกเจ้าบอกว่าจะตัดความสัมพันธ์ก็จะตัดอย่างนั้นหรือ?" ผู้เฒ่าหนิงชำเลืองมองกู้ชูหน่วน
และส่งสายตาเพื่อถามว่านางทำเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้อื่นโกรธเคืองหรือไม่ อารองและอาสามของนางจึงต้องการที่จะตัดความสัมพันธ์กับนาง
กู้ชูหน่วนเบ้ปากและหาที่นั่ง จากนั้นก็หยิบน้ำชาขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ
ผู้นำรองตำหนิ "อยู่ต่อหน้าผู้นำตระกูลหนิง เจ้ายังกล้าอวดดีขนาดนี้ ยังไม่รีบลุกขึ้นอีก"
หนิงเทียนโย่วไม่ชอบกู้ชูหน่วน แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นกู้ชูหน่วนถูกรังแกเช่นนี้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากู้ชูหน่วนมีบุญคุณต่อตระกูลหนิงของพวกเขาเลย
"แม่นางมู่เป็นแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญจากตระกูลหนิงของเรา ท่านต่างหากที่อวดดี"
อะ......
อะไรนะ......
แขกผู้มีเกียรติ?
พวกเขาเข้าใจผิดอะไรหรือไม่?
กู้ชูหน่วนไม่อยากจะพูดไร้สาระกับพวกเขามากนัก นางจึงหยิบยาจื่อหยางห้าสิบเม็ด ยาพั่วหยวนยี่สิบเม็ด และยาบำรุงหยางหนึ่งเม็ดออกมาจากวงแหวนอวกาศ และโยนให้ผู้นำตระกูลมู่
"ยาจื่อหยางสิบเม็ดและยาบำรุงหยางหนึ่งเม็ดให้ท่านพ่อของข้า ส่วนที่เหลือพวกท่านก็แบ่งกัน แต่มีเงื่อนเพียงอย่างเดียวคือ ห้ามแบ่งให้ผู้นำรองและผู้นำสาม รวมทั้ง......คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเขาด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...